![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ซากเรือบรรทุกทาส พบใต้ทะเลลำแรก ยืนยันแล้วเป็นของชนเผ่ามายา ![]() ซากเรือบรรทุกทาส - เมื่อ 20 ก.ย. ซีเอ็นเอ็น รายงานผลการตรวจสอบซากเรือเก่าแก่ที่พบใต้ทะเล บริเวณชายฝั่งซีซัล คาบสมุทรยูกาตัน ประเทศเม็กซิโก ยืนยันว่าเป็นเรือบรรทุกทาสลำแรกของชนเผ่ามายา ลักลอบขนคนที่ถูกจับเป็นทาสไปส่งใช้แรงงานที่ประเทศคิวบา นักโบราณคดีประจำสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติเม็กซิโก หรือ INAH แถลงว่าซากเรือที่พบคือเรือลาอูนิยง - La Uni?n ใช้ขนทาสเดือนละ 25-30 คนไปบังคับใช้แรงงานในไร่อ้อยช่วงปีค.ศ. 1855 -1861 ![]() เรือลำนี้มีผู้ค้นพบเมื่อปี 2560 อยู่ห่างจากอ่าวเม็กซิโก 2 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งซิซัล แต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบและวิจัยนาน 3 ปีจนยืนยันได้ว่าเป็นเรือบรรทุกทาสจริง "ทาสแต่ละคนถูกขายให้พ่อค้าคนกลาง ราคาคนละ 25 เปโซ จากนั้นจึงถูกนำไปขายซ้ำที่กรุงฮาวานา ราคาเพิ่มเป็น 160 เปโซสำหรับผู้ชาย และ 120 เปโซ สำหรับผู้หญิง" เฮเลนา บาร์บา ไมน์เนกเคอ ผู้ร่วมวิจัยหญิงกล่าว จากการศึกษาประวัติศาสตร์ เรืออัปปางวันที่ 19 กันยายน 1861 ระหว่างเดินทางไปคิวบา เป็นตัวพิสูจน์ว่า ยังมีการค้าทาสกันอยู่ แม้จะยกเลิกในเม็กซิโกไปแล้ว เมื่อปี 1829 และมีข้อบังคับห้ามบังคับชาวมายาเป็นทาสในปีเดียวกัน คณะนักโบราณคดียืนยันตัวเรือดังกล่าวได้จาก หม้อไอน้ำของเครื่องยนต์ที่ระเบิดและก่อให้เกิดไฟไหม้ รวมถึงผลการตรวจสอบล้อทำจากไม้ทั้งสองด้าน อีกทั้งยังพบสิ่งประดิษฐ์ที่รวมถึงเศษแก้วจากขวด เซรามิก และเครื่องมือที่มีใบมีดเป็นทองเหลือง 8 อัน ที่ผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสใช้บนเรือ ระหว่างเกิดอุบัติเหตุ มีลูกเรือ 80 คน และผู้โดยสาร 60 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปครึ่งหนึ่ง แต่ไม่ชัดเจนว่า ทาสเสียชีวิตกี่คน เนื่องจากถูกลงทะเบียนเป็นสินค้า ไม่ใช่ผู้โดยสาร สำหรับอารยธรรมมายาและเมโซอเมริกัน เฟื่องฟูทั่วเม็กซิโกและอเมริกากลาง ตั้งแต่ช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาลจนถึงช่วงเวลาที่สเปนล่าอาณานิคม https://www.khaosod.co.th/update-news/news_4950223
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
พบเรือดำน้ำที่สาบสูญช่วงสงครามใกล้กับภูเก็ต เรือดำน้ำสูญหายสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูกพบในน่านน้ำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ![]() ในน่านน้ำที่ขุ่นมัวบริเวณช่องแคบมะละกาห่างจากภูเก็ตไปทางใต้ประมาณ 90 ไมล์ นักดำน้ำ 4 คนได้ค้นพบเรือดำน้ำสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งถูกจมลงเมื่อ 77 ปีก่อน ซากปรักหักพังใต้น้ำซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเรือดำน้ำ USS Grenadier ของกองทัพสหรัฐถูกพบเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้วโดยทีมนักดำน้ำคือ Jean Luc Rivoire, Lance Horowitz, Benoit Laborie และ Ben Reymenants โดยทีมประกาศเพิ่งจะประกาศข่าวการค้นพบในเดือนนี้ หนึ่งในทีมคือ Horowitz วัย 36 ปีกล่าวกับผู้สื่อข่าวของ NYT จากภูเก็ตเมื่อวันศุกร์ว่าในช่วงหกเดือนต่อมาหลังการค้นพบได้มีการวางแผนการดำน้ำอย่างรอบคอบ 6 ครั้งเพื่อศึกษาและระบุเรือดำน้ำ โดยหนึ่งในทีมงานนั้นคือ Reymenants ซึ่งเคยช่วยในการช่วยเหลือทีมหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอนเมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากทำการวัดส่วนต่างๆของเรือดำน้ำและเปรียบเทียบกับภาพวาดทางเทคนิคจากหอจดหมายเหตุและบันทึกข้อมูลแห่งชาติ ทีมงานรู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาได้ค้นพบเรือดำน้ำที่หายสาบสูญแล้ว "มันดีอย่างที่เราหวังไว้จริงๆ" Horowitz กล่าวถึงการสำรวจของทีมงานที่ใช้งบประมาณถึง 110,000 เหรียญสหรัฐ "ผมคิดว่าคนจำนวนมากใฝ่ฝันที่จะค้นหาหรือค้นพบหรือสะดุดกับบางสิ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ มันเป็นความรู้สึกที่ทรงพลังมาก มันวิเศษมาก" Grenadier ได้รับการตั้งชื่อตามปลาทะเลน้ำลึกที่มีลำตัวยาวและหางสั้นแหลม ตัวเรือมีความยาวมากกว่า 300 ฟุตและหนัก 1,475 ตันตามข้อมูลของกองบัญชาการประวัติศาสตร์และมรดกกองทัพเรือซึ่งมีหน้าที่ในการอนุรักษ์วิเคราะห์และการเผยแพร่ประวัติศาสตร์การเดินเรือของสหรัฐ ทีมงานพบเรือลำนี้จมในลักษณะตั้งลำอยู่ใต้น้ำลึกกว่า 260 ฟุต นักดำน้ำกล่าวในแถลงการณ์เพิ่มเติมว่าบางส่วนถูกคลุมด้วยอวนจับปลา Robert Neyland หัวหน้าสาขาโบราณคดีใต้น้ำของกองบัญชาการประวัติศาสตร์กองทัพเรือเผยว่า ขั้นตอนต่อไปสำหรับนักดำน้ำคือการตรวจสอบการค้นพบโดยกองบัญชาการประวัติศาสตร์กองทัพเรือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบแต่ละรายการไม่ว่าจะเป็นวิดีโอรูปถ่ายและการวัดผลได้รับการประเมินจากเอกสารที่เก็บถาวรและบันทึกทางประวัติศาสตร์ กระบวนการตรวจสอบเรือดำน้ำลำนี้น่าจะใช้เวลาสองสามเดือน Horowitz กล่าวว่าหลังจากนี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าจะทำอย่างไรกับ Grenadier นั้น เพราะเรือดำน้ำยังคงเป็นทรัพย์สินของรัฐบาลสหรัฐ ตามที่กองทัพเรือระบุก่อนที่ Grenadier จะพบกับจุดจบมันสามารถจมเรือของข้าศึกได้ภึงหกลำ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 1943 เรือดำน้ำได้พบเห็นเรือสินค้าสองลำและเคลื่อนตัวเข้าใกล้เพื่อทำการโจมตี วันรุ่งขึ้นขณะที่อยู่บนผิวน้ำ Grenadier ได้ถูกข้าศึกพบเห็นและถูกเครื่องบินของญี่ปุ่นพบเห็น ในขณะที่เรือพยายามดำลงเพื่อความปลอดภัยมันถูกระเบิดโจมตีจนได้รับความเสียหายแต่ก็ยังไม่จมลง ในเช้ามืดของวันที่ 22 เมษายนมีเรือญี่ปุ่นสองลำถูกพบเห็นในระยะไกล Robert W. Palmer ลูกเรือคนหนึ่งบนเรือเ Grenadier เขียนไว้ในหนังสือ "The Silent Service in World War II" ว่าลูกเรือใช้อาวุธปืนหลายประเภทรวมทั้งปืน 20 มม. ปืนยาวปืนพกและปืนทอมมี่ เพื่อยิงไปที่เครื่องบินอีกลำ แต่ในที่สุดเครื่องบินข้าศึกก็ทิ้งระเบิดลงมาใกล้ๆ เรือ ก่อนที่เรือดำน้ำจะจมลงลูกเรือได้ทำลายเครื่องเข้ารหัสด้วยค้อน และทำลายคอมพิวเตอร์ข้อมูลตอร์ปิโดและอุปกรณ์วิทยุทั้งหมด เอกสารถูกโยนลงน้ำพร้อมกระเป๋าถ่วงน้ำหนัก ลูกเรือทั้ง 76 คนรอดชีวิตจากการโจมตี แต่พวกเขาต้องเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอนกลางท้องทะเลอยู่ช่วงหนึ่งหลังจากกัปตันสั่งให้ทุกคนออกจากเรือแล้วลอยทะเลพวกเขาก็ถูกจับโดยเรือบรรทุกสินค้าของญี่ปุ่น หลังจากนั้นพวกเขาถูกนำตัวไปที่โรงเรียนคาทอลิกที่พวกญี่ปุ่นใช้เป็นฐานบัญชาการในปีนัง ประเทศมาเลเซียในปัจจุบันแล้วถูกทรมานนานถึง 28 เดือนครึ่ง มีลูกเรือ 4 คน ตายระหว่างนั้น https://www.posttoday.com/world/633443 ********************************************************************************************************************************************************* เมื่อวาฬเพชฌฆาตกับฉลามขาวมาเจอกันใครจะเป็นผู้ชนะ? หลักฐานชัดยืนยันว่าใครคือเจ้าแห่งท้องทะเลระหว่างนักล่าสองชนิดที่มนุษย์ยังต้องยำเกรง ![]() Photo by Robert Pittman - NOAA วาฬเพชฌฆาตกับฉลามขาวเป็นสัตว์นักล่าแห่งท้องทะเล แต่ดูเหมือนว่าปลาฉลามขาวจะมีภาพลักษณ์ที่น่ากลัวกว่าวาฬเพชฌฆาต อาจเป็นเพราะปลาฉลามขาวถุกทำให้ดูน่ากลัวจากภาพยนต์อมตะเรื่อง Jaws ส่วนวาฬเพชฌฆาตถูกทำให้มีภาพที่น่ารักจากภาพยนต์เรื่อง Free Willy ทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์ที่อันตรายมาก หลายคนอาจจะสงสัยว่าหากวาฬเพชฌฆาตกับฉลามขาวมาเจอกันใครจะเป็นผู้ชนะ? ตอนนี้มีคำตอบแล้วจากการรายงานของ Newsweek พบวาฬเพชฌฆาตกลุ่มหนึ่งโจมตีกลุ่มปลาฉลามขาวนอกชายฝั่งแอฟริกาใต้จากนั้นกินตับของพวกมัน แล้วยังกินหัวใจของฉลามสองตัวและอัณฑะของตัวผู้ 1 ตัว นักวิทยาศาสตร์ที่ช่วยชันสูตรพลิกศพฉลาม 6 ตัวที่ซัดขึ้นมาบนชายฝั่งของเมืองกานส์เบย์ (Gansbaai) ห่างจากเคปทาวน์ประมาณ 2 ชั่วโมงได้เล่าว่าวาฬเหล่านี้ใช้คมเขี้ยวฉีกร่างของปลาฉลามด้วยวิธีที่แม่นยำและละเอียดละออมาก Alison Towner นักชีววิทยาทางทะเล กล่าวกับช่อง YouTube Shark Talk ซึ่งจัดทำโดย Gemma Care ว่าวาฬเพชฌฆาต หรือออร์กา ทำการฉีกหนังฉลามที่หนามากโดยกัดเข้าไปที่ใต้คอทำให้โพรงจนตับของฉลามซึ่งมีน้ำหนักมากถึง 81 กิโลกรัมจะไหลออกมา "เห็นได้ชัดว่าไม่ว่าพวกมันจะอยู่ที่ใดในโลก พวกมันได้เรียนรู้กลยุทธ์การล่าที่แม่นยำและละเอียดละออกมาก ... และสอนให้กับลูกๆ ของพวกมัน" Alison Towner กล่าว https://www.posttoday.com/world/633458
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|