![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์
ศรีลังกาเร่งช่วยวาฬ120ตัวแห่เกยตื้น อาสาสมัครและทหารเรือศรีลังกาช่วยวาฬนำร่องประมาณ 120 ตัวที่เกยตื้นเมื่อวันอังคาร เป็นการเกยตื้นครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศเอเชียใต้แห่งนี้ วาฬนำร่องโตซึ่งสามารถเต็มที่ได้ถึง 6 เมตร และหนักราว 1 ตัน พากันมาเกยตื้นที่ชายหาดในเมืองพนาดูราเมื่อวันจันทร์ ชายหาดแห่งนี้อยู่ทางฝั่งตะวันตกของศรีลังกา ห่างจากกรุงโคลัมโบทางใต้ราว 25 กิโลเมตร วาฬนำร่องตายไป 3 ตัว และโลมาตาย 1 ตัว ปทุม ฮิรุชัน ชาวบ้านบริเวณที่วาฬขึ้นมาเกยตื้น เผยว่า ช่วงบ่ายวันจันทร์มีวาฬมาเกยตื้นไม่กี่ตัว แต่หลังจากนั้นมีวาฬมาเกยตื้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงโพล้เพล้มีวาฬมากกว่า 100 ตัว ชาวประมงบริเวณนั้นช่วยกันดันตัววาฬให้กลับสู่ทะเล แต่คลื่นลมค่อนข้างแรง พัดวาฬกลับมาชายฝั่งอีก หลังจากนั้นทหารเรือนำเรือมาช่วยวาฬที่เกยตื้นโดยทำงานกันทั้งคืน อินดิกา เด ซิลวา โฆษกกองทัพเรือศรีลังกา เผยกับเอเอฟพีว่า ทหารเรือ, หน่วยยามชายฝั่งและอาสาสมัครหลายสิบคน ช่วยนำวาฬที่มาเกยตื้นกลับสู่น้ำลึก ด้วยความช่วยเหลือของเรือลาดตระเวนขนาดเล็กในช่วงรุ่งอรุณวันอังคาร สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเลของศรีลังกากล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์วาฬเกยตื้นครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ. https://www.thaipost.net/main/detail/82725
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
ครม.สัญจรภูเก็ต ไฟเขียว อนุรักษ์-ฟื้นฟูชายฝั่งอันดามัน 12 โครงการ 2,298 ล้าน ![]() เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 3/2563 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนองและสตูล) ที่โรงแรมสแปลช บีช รีสอร์ท ไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตนรี แถลงว่า ที่ประชุมเห็นชอบโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน วงเงิน 2,298 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยเฉลิมพระเกียรติ พื้นที่ดำเนินการจังหวัดภูเก็ต 786 ล้านบาท 2. โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลนระนองสู่มรดกโลกเพื่อการท่องเที่ยว พื้นที่ดำเนินการจังหวัดระนอง 385 ล้านบาท 3. โครงการป้องกันและเฝ้าระวังภัยจากแมงกะพรุนพิษในพื้นที่ชายหาดท่องเที่ยว พื้นที่ดำเนินการจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล 54 ล้านบาท 4.โครงการจัดทำระบบเฝ้าระวังมลพิษและติดตามมลพิษทางทะเลเพื่อการท่องเที่ยวปลอดภัย พื้นที่ดำเนินการจังหวัดภูเก็ต พังงาและกระบี่ 106 ล้านบาท 5.โครงการติดตั้งทุ่นผูกเรื่อเพื่อการอนุรักษ์ปะการังในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล พื้นที่ดำเนินการจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล 66 ล้านบาท 6. โครงการติดตั้งทุ่นแพลอยน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเลฝั่งอันดามัน พื้นที่ดำเนินการจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล และระนอง 54 ล้านบาท 7.โครงการจัดการขยะในแหล่งท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล พื้นที่ดำเนินการจังหวัดกระบี่ พังงา และระนอง 44 ล้านบาท 8. โครงการเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พื้นที่ดำเนินการจังหวัดภูเก็ต กระบี่ และระนอง 59.450 ล้านบาท 9. โครงการฟื้นฟูแนวปะการังด้วยการปลูกเสริมในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล พื้นที่ดำเนินการจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต และพังงา230 ล้านบาท 10. โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล พื้นที่ดำเนินการจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต พังงา ตรัง สตูล และระนอง 200 ล้านบาท 11. โครงการฟื้นฟูชายหาดคึกคักแบบบูรณาการ พื้นที่ดำเนินการ จังหวัดพังงา งบประมาณ 199 ล้าบาท และ 12.โครงการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการการศึกษาออกแบบแนวกันคลื่นปากร่องน้ำเค็มเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า พื้นที่ดำเนินการจังหวัดพังงา 10 ล้านบาท https://www.prachachat.net/politics/news-549467
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก PPTV
อ่าวมาหยา เตรียมเปิดให้เที่ยวอีกครั้งต้นปี 2564 "อ่าวมาหยา" หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เตรียมเปิดให้เที่ยวอีกครั้ง ต้นปี 2564 หลังการสร้างท่าเทียบเรือลอยน้ำใกล้แล้วเสร็จ แต่ต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสม การควบคุม นักท่องเที่ยว ![]() กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช อ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวประมาณต้นปี 2564 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวหลังผ่านช่วงวิกฤตโควิด 19 โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประกาศปิด ตั้งแต่กลางปี 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจาก ธรรมชาติ ระบบนิเวศน์ ทั้ง บนบกและใต้ทะเล ปะการังมีสภาพเสื่อมโทรม ซึ่งเป็นผลมาจากการท่องเที่ยว ล่าสุดพบว่าขณะนี้ระบบนิเวศเริ่มมีการฟื้นตัวบ้างแล้ว ธรรมชาติบนบก บริเวณชายหาดมีการผักบุ้งทะเลงอกขึ้นบนชายหาด มีปูลม ปูไก่ กลับเข้ามาหากิน และพืชพันธุ์ไม้ประจำถิ่นบนฝั่ง เจริญเติบโตดี และการสร้างท่าเทียบเรือลอยน้ำ บริเวณอ่าวโล๊ะซามะ ด้านหลังอ่าวมาหยา ใกล้แล้วเสร็จ มีการย้ายปะการังบางส่วน ออกจากพื้นที่ แต่อย่างไรก็ตามต้องผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการทั้งนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ พิจารณาความเหมาะสม ว่า เปิดให้มีการท่องเที่ยวได้หรือไม่ จะมีการควบคุมนักท่องเที่ยว ไม่เกินวันละ 350 คน และห้ามเรือเข้าออกบริเวณหน้าอ่าวมาหยา https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/136028
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#4
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
ปริศนาหายนะระบบนิเวศทางทะเลของรัสเซียที่คาบสมุทรคัมชัตคา ![]() ชายหาดบริเวณคาบสมุทรคัมชัตคา ทางภาคตะวันออกไกลของรัสเซียถูกเปรียบให้เป็นดั่งแดนสวรรค์ของนักเล่นกระดานโต้คลื่น เพราะมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์และงดงาม ทว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ คนในพื้นที่เริ่มสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติในท้องทะเลแถบนี้ ช่วงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายงานว่านักเล่นกระดานโต้คลื่นหลายคนเริ่มมีอาการป่วยประหลาดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เช่น ตาพร่า อาเจียน หายใจลำบาก และมีอาการระคายเคืองที่ผิวหนัง นายอันตอน โมโรซอฟ นักเล่นกระดานโต้คลื่น เล่าให้บีบีซีฟังว่า "ผมประสบเหตุมากับตัวเอง ดวงตาผมแห้ง และรู้สึกว่ามีรสชาติสารเคมีแปลก ๆ อยู่ในลำคอตลอดเวลา" แต่สิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้คนในพื้นที่คือการพบซากสัตว์ทะเลจำนวนมากตายเกลื่อนชายหาด ส่งผลให้หลายฝ่าย ซึ่งรวมถึงองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมพยายามค้นหาสาเหตุของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงแรกมีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับฐานทัพและหลุมฝังกลบขยะที่ถูกทิ้งร้างในพื้นที่ โดยนายวลาดิเมียร์ โซโลดอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคคัมชัตคา ระบุว่า ในช่วงทศวรรษที่ 1970 มีการขุดหลุมฝังกลบย่าฆ่าแมลงและสารเคมีอื่น ๆ ไว้ที่นั่น อย่างไรก็ตาม ผลตรวจเบื้องต้นบ่งชี้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจาก "สาเหตุตามธรรมชาติ"เช่น สาหร่ายพิษอาจเป็นสาเหตุการเจ็บป่วยของบรรดานักโต้คลื่น ส่วนปรากฏการณ์ที่สัตว์ทะเลตายเป็นจำนวนมากนั้น คาดว่าน่าจะมีสาเหตุจาก "ปรากฏการณ์ขี้ปลาวาฬ" (Red tide) ซึ่งเกิดจากการที่มีสาหร่ายปริมาณมหาศาลเติบโตในเขตน้ำตื้น แล้วดึงออกซิเจนส่วนใหญ่ไปใช้ ทำให้สิ่งมีชีวิตชนิดอื่นในทะเลขาดอากาศหายใจ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการพิสูจน์ทฤษฎีที่ว่านี้ว่าคือสาเหตุที่แท้จริงของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือไม่ ดังนั้นจึงทำให้ต้องเร่งค้นหาสาเหตุของภัยพิบัติทางระบบนิเวศครั้งนี้ แต่กว่าจะพบคำตอบ น่านน้ำบริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้จึงยังไม่ปลอดภัยสำหรับสัตว์หรือมนุษย์ที่อยู่อาศัยในแถบนี้ https://www.bbc.com/thai/features-54726843
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|