เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 17-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ไม่รู้ หรือท้าทายกฎ! นำหมาขึ้นอุทยานฯ เขาใหญ่ แถมปล่อยให้เดินเล่นอย่างสบายใจ



เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.63) เพจเฟซบุ๊ค Chinapoj Chinapan ได้โพสต์ภาพถ่ายสุนัขเลี้ยง บริเวณริมอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมชี้เป้าให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับจริงปรับจริงกับกลุ่มที่ฝ่าฝืนระเบียบ

จากโพสต์ระบุว่า เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 15 พย.2563 ริมอ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในอุทยานแล้วปล่อยให้เดินฉี่เดินอึไปทั่วอย่างนี้ นอกจากผิดกฏของอุทยานแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่าด้วยนะครับ ดูจากกล้องวงจรปิดตรงที่จอดรถน่าจะหาตัวผู้กระทำผิดได้ไม่ยากครับ

ก่อนหน้านี้ (เมื่อ 7 ก.ค.2563) ก็เคยเกิดเหตุในทำนองนี้ ตอนนั้นอุทยานแห่งชาติ กลับมาเปิดใหม่ได้เพียง 5 วัน เนื่องจากปิดไปเพราะการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้งที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ติดป้ายข้อห้ามไว้ชัดเจน ซึ่งส่วนมากประชาชนทราบดีว่า ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเขาใหญ่ แต่ก็ยังมีคนแอบเอาขึ้นกัน อย่างรายนั้นเอาลงมาเดินจูงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จุดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักจะนำ่สัตว์เลี้ยงไปถ่ายรูปและเดินเล่น อยู่แถวอ่างเก็บน้ำสายศร ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ต้นมะม่วง เพราะบริเวณนี้มีชายป่า และพื้นที่ให้สุนัขเดินเล่นได้ ซึ่งนอกจากจะมีสุนัขแล้ว ในช่วงวันหยุดยาว มักพบพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ฝ่าฝืนแนวทางการปฎิบัติในการเที่ยวอุทยานฯ เช่น การลงไปถ่ายรูปในโป่ง แถวพื้นที่โป่งทุ่งกวาง และโป่งชมรมเพื่อน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ เพราะโป่ง เป็นพื้นที่มีสัตว์ป่า เช่น ช้าง เก้ง และสัตว์อื่นๆ จะลงมากินเกลือแร่ในโป่ง หากมีคนเข้าไปจะทำให้มีกลิ่นคน แปลกปลอมเข้าไปจนสัตว์ป่าไม่กล้าเข้ามาใช้พื้นที่

จากเหตุนำสัตว์เลี้ยงเข้าอุทยานฯ ว่าที่ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เตือนว่ามีความผิดข้อหาฝ่าฝืนนำสัตว์เข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ถือว่าจงใจแอบลักลอบพาสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่ ทั้งที่มีการเตือนอยู่แล้ว ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวที่รู้ตัวเองว่าอยู่ในภาพที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้มารายงานตัวกับพนักงานสอบสวนด้วย สำหรับโทษของการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของเจ้าหน้าที่ตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 21 มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 47 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

การละเมิดของนักท่องเที่ยว แม้บางคนจะอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่สัตวแพทย์ ระบุว่าการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปอุทยาน เช่น หากไปถ่ายมูลไว้ และมีสัตว์ป่ามากิน อาจเสี่ยงจะติดโรคจากสัตว์เลี้ยง และทำให้สัตว์ป่ามีสุขภาพอ่อนแอ โดยเฉพาะสุนัขและแมว มักเจอบ่อยครั้ง ถือเป็นเรื่องอันตรายมากต่อการนำโรคติดต่อจากสัตว์เลี้ยงไปสู่สัตว์ป่าในกลุ่มสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีสัตว์ป่าหลายชนิดที่ใกล้เคียงกับหมาแมวเลี้ยง เช่น หมาจิ้งจอก หมาใน กลุ่มแมวดาว เสือโคร่ง เสือลายเมฆ จึงสุ่มเสี่ยงมาก เพราะในตัวสุนัข และแมวจะมีโรคพยาธิในทางเดินอาหาร และปรสิตนอก เช่น เห็บ หมัด และพยาธิในเม็ดเลือดที่นำโดยตัวเห็บ



ปัจจุบันกรมอุทยานฯ แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการต้องมีการตั้งกรงรับฝากหน้าด่าน เพราะในแต่ละเดือนมีการพบนักท่องเที่ยวลักลอบนำสัตว์ไปด้วยไม่ต่ำกว่า 5-6 ครั้ง ส่วนใหญ่บอกว่าจากการรุ้เท่าไม่ถึงการณ์ และบางคนรู้แต่ยังฝ่าฝืน และสำนักอุทยานแห่งชาติมีมาตรการในการตรวจยานพาหนะ เช่น เปิดกระจกทุกบาน เจ้าหน้าที่ใช้การดมกลิ่นของสุนัข สังเกตขนสัตว์ตามเบาะรถ หรือถามตรงๆ ว่ามีการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาด้วยหรือไม่

ทั้งนี้ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยแพร่ข้อห้าม ดังนี้

?ห้ามให้อาหารสัตว์
?ห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมเข้าในเขตอุทยาน
?ห้ามเก็บพันธุ์ไม้/ดอกไม้
?ห้ามขีดเขียนในอุทยานแห่งชาติ
?ห้ามล่าสัตว์ป่า
?ห้ามก่อกองไฟ
?ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าภายในอุทยานแห่งชาติ
?ห้ามส่งเสียงดัง
?ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างถิ่นเข้า
?ห้ามพกพาอาวุธเข้าอุทยานแห่งชาติ
?ห้ามเดินออกนอกเส้นทาง
?ห้ามทิ้งขยะ
?ไม่นำสารเคมีอันตรายเข้าป่า
?ไม่ขับรถเร็วเกินที่กำหนด


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000118512

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 17-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


วางทุ่นชุดใหม่ทะเลอันดามันตรวจวัดคลื่นสึนามิ

ภูเก็ต 16 พ.ย.- รองอธิบดี ปภ. ลงภูเก็ตปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิทะเลอันดามัน แทนชุดเดิมที่ครบวงรอบ 2 ปี บำรุงรักษา กำหนดแล้วเสร็จ 29 พ.ย.นี้ ชี้เป็นอุปกรณ์เตือนภัยมีประสิทธิภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังเกิดคลื่นยักษ์ถล่ม 26 ธ.ค.47 ชายฝั่ง 6 จังหวัด หลายชีวิตดับสูญ



วันนี้ (16 พ.ย.) นายเชษฐา โมลิกรัตน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นประธานพิธีปล่อยเรือวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดียชุดใหม่ทดแทนทุ่นเดิมที่ครบวงรอบการบำรุงรักษา โดยมีว่าที่ร้อยตรีวิกรม จากที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมในพิธี ณ ท่าเทียบเรือน้ำลึก ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายเชษฐา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลในมหาสมุทรอินเดีย ทำให้มีแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวจนเกิดเหตุการณ์คลื่นสึนามิ ทำลายบ้านเรือนและสถานที่ท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียและ 6 จังหวัดฝั่งอันดามันของประเทศไทย มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบ มีทั้งประเทศไทย อินโดนีเซีย ศรีลังกา และอินเดีย และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ประเทศไทยได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ในการแจ้งเตือนภัยสึนามิ ร่วมกับองค์การบริหารสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา และได้รับมอบทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิ จากหน่วยงานดังกล่าว เมื่อเดือนธันวาคม 2549 โดยประกอบด้วย ทุ่นลอยพร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชุดอุปกรณ์วัดความดันใต้ท้องทะเล ซึ่งมีการติดตั้งห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกประมาณ 965 กิโลเมตร ต่อมารัฐบาลไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตั้งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิเพิ่มเติมเป็นจุดที่ 2 ในทะเลอันดามัน เมื่อเดือนมกราคม 2560 ห่างจากเกาะภูเก็ตไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 290 กิโลเมตร ซึ่งระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิทั้ง 2 จุด มีการบำรุงรักษาตามมาตรฐานผู้ผลิตอย่างต่อเนื่องในทุก 2 ปี เพื่อให้ตรวจวัดคลื่นสึนามิ ให้มีความพร้อมใช้งานและมีประสิทธิภาพตลอดระยะเวลา

นายเชษฐา กล่าวว่า การวางทุ่นตรวจวัดคลื่นสึนามิชุดใหม่นี้ มีกำหนดเดินทางออกจากฝั่งในวันนี้ และจะใช้เวลาดำเนินการเป็นเวลา 14 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว ในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ดังนั้น ความปลอดภัยและระบบเตือนภัยจะเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง รัฐบาลโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบวิเคราะห์ คาดการณ์คลื่นสึนามิ และระบบแจ้งเตือนภัยของประเทศ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น จึงถือว่าการวางระบบตรวจวัดคลื่นสึนามิ ในทะเลอันดามันและมหาสมุทรอินเดีย เป็นกลไกในการเตือนภัยสึนามิล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกกับข่าวลือ และรับข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนจากหน่วยงานภาครัฐ จะได้เตรียมความพร้อมในการอพยพทันท่วงที สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน.


https://tna.mcot.net/tna-584619
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:14


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger