![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์
ปี 2020 ติดโผ 1 ใน 3 ปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ องค์การสหประชาชาติเตือนโลกกำลังอยู่ในหายนะ โดยปีนี้เป็นหนึ่งในปีที่ร้อนที่สุดในรอบร้อยกว่าปี ![]() Photo by JOSH EDELSON / AFP เอเอฟพี รายงาน องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่าโลกกำลังอยู่ในช่วง "หายนะของสภาพภูมิอากาศ" โดยปีนี้เป็น 1 ใน 3 ปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกตั้งแต่ปี 1850 หรือเมื่อ 170 ปีที่แล้ว อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติเผยรายงานปี 2020 ระบุว่าโลกกำลังเข้าใกล้ภัยพิบัติจากสภาพอากาศ โดยภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างไฟไหม้ น้ำท่วม พายุไซโคลน และเฮอริเคนกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อยๆ "มนุษย์กำลังทำสงครามกับธรรมชาติซึ่งนี่ถือเป็นการฆ่าตัวตายเพราะธรรมชาติมักจะโต้กลับเสมอ และมันก็กำลังทำเช่นนั้นด้วยพลังและความโกรธที่เพิ่มมากขึ้น" กูเตอร์เรสกล่าว เพตเตรี ทาลัส เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกกล่าวว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในปี 2020 เพิ่มขึ้น 1.2 องศาเซลเซียสเมื่อเทียบกับช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และมีโอกาสอย่างน้อย 1 ใน 5 ที่จะเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2024 องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกระบุว่าในปีนี้เป็นปีที่ร้อนที่สุดอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยในช่วงปี 2015 ถึง 2020 อุณภูมิโลกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 6 ครั้ง และอุณภูมิเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ร้อนสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ก๊าซเรือนกระจกทำสถิติสูงสุดในปีที่แล้วและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้แม้จะมีมาตรการระงับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม เช่นเดียวกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ดังนั้นมาตรการจากโควิด-19 นั้นแทบจะไม่มีผล โดยจะต้องมีการผลิตน้ำมันก๊าซและถ่านหินลดลง 6% ต่อปีเพื่อจำกัดภาวะโลกร้อน ทั้งนี้ ในช่วงปี 2020 เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นไฟป่าในออสเตรเลีย ไซบีเรีย ชายฝั่งทางตะวันตกของสหรัฐ และอเมริกาใต้, น้ำท่วมในแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เกิดพายุอย่างน้อย 30 ครั้ง, ความร้อนทางตอนเหนือของไซบีเรียสูงถึง 38 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดที่เคยพบทางตอนเหนือของอาร์กติกเซอร์เคิล, 80% ของพื้นที่มหาสุมรประสบกับคลื่นความร้อนทางทะเลอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ รวมถึงระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเนื่องจากแผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลาย อย่างไรก็ตามรายงานอุณหภูมิดังกล่าวเป็นเพียงฉบับชั่วคราวโดยอ้างอิงจากอุณหภูมิตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ซึ่งรายงานฉบับสุดท้ายของปีนี้จะเผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2021 https://www.posttoday.com/world/639505
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
สหประชาชาติเรียกร้องนานาชาติผนึกกำลังกอบกู้สิ่งแวดล้อมโลก ![]() เลขาธิการยูเอ็นเตือนว่า "ธรรมชาติมักจะโต้กลับด้วยสัพพะกำลังและความโกรธเกรี้ยว" "โลกของเรากำลังพัง" นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเตือนว่ามนุษยชาติกำลังทำสงคราม "ฆ่าตัวตาย"กับธรรมชาติ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมมือกันเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์อย่างแท้จริง เลขาธิการยูเอ็น กล่าวเรื่องนี้ในงานพิเศษด้านสิ่งแวดล้อมของบีบีซีว่า "ธรรมชาติมักจะโต้กลับด้วยสัพพะกำลังและความโกรธเกรี้ยว" นอกจากนี้เขายังต้องการให้การต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นหัวใจสำคัญในภารกิจโลกขององค์การสหประชาชาติในปีหน้านี้ ในสุนทรพจน์ที่มีชื่อว่า "สภาพการณ์โลก" นายกูเตอร์เรสประกาศว่า เป้าหมายหลักในปี 2021 ของยูเอ็นคือการสร้างความร่วมมือระดับโลกเพื่อทำให้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์หมายถึงการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด และสร้างภาวะสมดุลระหว่างก๊าซเรือนกระจกที่จะปล่อยออกมาในอนาคตกับการลดปริมาณก๊าซดังกล่าวที่สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศโลก นายกูเตอร์เรสกล่าวว่า ทุกประเทศ เมือง สถาบันการเงิน และบริษัทต่าง ๆ "ควรต้องดำเนินแผนการสู่การเปลี่ยนผ่านไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050" ซึ่งในมุมมองของเขา องค์กรเหล่านี้จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อมุ่งสู่วิถีทางที่ถูกต้อง นั่นคือลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกลง 45% จากระดับในปี 2010 ให้ได้ภายในปี 2030 ส่วนข้อเรียกร้องอื่น ๆ ของเลขาธิการยูเอ็นได้แก่ - ตั้งราคาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ - ยุติการให้เงินช่วยเหลือและการอุดหนุนด้านเชื้อเพลิงฟอสซิล - เปลี่ยนภาระภาษี (tax burden) จากภาษีเงินได้ไปเป็นภาษีคาร์บอน และเปลี่ยนสถานะจากผู้เสียภาษีไปเป็นผู้ก่อมลพิษ - ให้บรรจุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ไว้ในนโยบายและการตัดสินใจด้านเศรษฐกิจและการคลังต่าง ๆ - ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนทั่วโลกที่กำลังเผชิญกับผลกระทบรุนแรงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติล้างโลก นายกูเตอร์เรส ยอมรับว่าจำเป็นต้องดำเนินมาตรการสุดโต่งเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน "ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แสดงชัดเจนว่า ถ้าโลกไม่ลดการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลลง 6% ทุกปี ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปี 2030 อะไร ๆ ก็จะเลวร้ายลงอย่างมาก" เลขาธิการยูเอ็น ชี้ว่า นโยบายด้านสภาพอากาศที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอที่จะใช้รับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่า "หากไม่มีการดำเนินการที่เหมาะสม เราก็อาจมุ่งสู่หายนะ นั่นคือ การที่อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียสในศตวรรษนี้" ซึ่งผลกระทบดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายพื้นที่ทั่วโลก "ไฟป่าและน้ำท่วม พายุไซโคลนและเฮอร์ริเคนที่รุนแรงกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ในปัจจุบัน" เขากล่าว "ความหลากหลายทางชีวภาพกำลังล่มสลาย ทะเลทรายกำลังแผ่ขยายอาณาเขต มหาสมุทรกำลังเต็มไปด้วยขยะพลาสติก ในอีก 30 ปีข้างหน้าจะมีพลาสติกมากกว่าปลาในทะเล" นายกูเตอร์เรส เรียกร้องให้ประชาคมโลกให้คำมั่นอันทะเยอทะยานที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการประชุมภาคีแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ COP ที่เมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในเดือน พ.ย. ปีหน้า นอกจากนี้เขาจะกดดันให้มีการดำเนินการเรื่องวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก และเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันแก้วิกฤตการสูญพันธุ์ ซึ่งกำลังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และดำเนินความพยายามเพื่อลดมลพิษ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่มนุษย์ต้องหยุดทำสงครามกับโลก "เราต้องประกาศสงบศึกอย่างถาวรและกลับมาปรองดองกับธรรมชาติอีกครั้ง" https://www.bbc.com/thai/international-55160422
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|