เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก


ชาวประมงเมืองคอนเฮลั่น ออกหา "มุกสีส้ม" แต่ได้ "อ้วกวาฬ" หนัก 5 กิโล



ชาวประมงเมืองคอนเฮลั่น ออกหา "มุกสีส้ม" แต่ได้ "อ้วกวาฬ" หนัก 5 กิโล ที่มีราคาแพงไม่แพ้กัน โอดไม่รู้จะเอาไปขายที่ไหน วอนสื่อประสานหาคนมาช่วยซื้อ
จากกรณีพระไพโรจน์ ฐิตรตโณ พระลูกวัดเกาะเพชร หมู่ 6 ที่ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แจ้งข่าวว่าประชาชนแตกตื่นพากันออกเสาะหาหอยมุกกันอย่างคึกคักตลอดแนวชายหาด โดยเฉพาะในเวลากลางคืน หลังจากที่มีชาวบ้านคนหนึ่งพบหอยมุกบนชายหาด เมื่อนำกลับมาบ้านเพื่อจะแกะเอาปลอกหอยที่แวววาวมาประดับตกแต่งกรงนกกรงหัวจุก แต่กลับพบว่าภายในหอยมีมุกขนาดใหญ่ เม็ดสีส้ม ลักษณะกลมเกลี้ยง ขนาดเล็กกว่าเหรียญ 5 บาทเล็กน้อย มาทราบภายหลังว่าเป็นไข่มุกเมโล ซึ่งเป็นมุกที่หายากที่สุดในโลกและราคาแพงที่สุดในโลก จึงทำให้ชาวบ้านแห่ออกเดินเสาะหาหอยมุกดังกล่าวที่คาดว่าคลื่นซัดขึ้นมาเกยตลอดแนวชายหาดใน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช

ล่าสุดวันนี้ (3 ก.พ.2564) ผู้สื่อข่าวรายงานเดินทางไปสังเกตการณ์พบว่าในช่วงกลางวันยังมีประชาชนเดินทางมาหอยมุกดังกล่าวตลอดแนวชายหาด โดยหวังว่าจะโชคดีได้พบเจอหอยมุกหายากและมีราคาแพงที่สุดในโลกดังกล่าว

ขณะที่บ้านของนายอานนท์ นิยมเดชา หรือ บังหมัด อายุ 60 ปี และนางเจ๊นะ นิยมเดชา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สองสามีภรรยาที่ลูกชายพบหอยมุกมีเม็ดมุกสีส้มขนาดใหญ่อยู่ด้านใน ก็มีประชาชนบางรายพากันมาขอดูหอยมุกหายากเป็นบุญตา แต่บังหมัดให้ดูได้เพียงภาพถ่ายเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย

โดย บังหมัด เผยว่า ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดผ่านพระไพโรจน์ ได้ที่เบอร์ 083-4621709 หรือที่นายไพฑูรย์ อินทศิลา ประธานศูนย์ข่าวนคร 24 ชม. สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช 081-6761299 ที่เป็นคนนำเสนอข่าวคนแรก และเพื่อความปลอดภัยจะมอบให้พระไพโรจน์นำเม็ดมุกล้ำค่าไปเก็บรักษาไว้ในตู้เซฟของธนาคารต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านต่างพากันแตกตื่นอีกครั้งหลังนายสะอาด เจ๊ะต่ำ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/2 หมู่ 6 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช พบอำพันทะเล หรือ อ้วกวาฬ ที่มีราคาแพงไม่แพ้มุกเมโลเช่นกัน จึงเดินทางไปตรวจสอบก็พบกับนายสะอาด และบุตรสาว ที่กำลังนำอำพันทะเล หรือ อ้วกวาฬ มาโชว์ให้ดู โดยอ้วกวาฬดังกล่าวมีลักษณะเป็นก้อนสีขาว มีกลิ่นหอม น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม

นายสะอาด กล่าวว่า ชาวประมงที่นี่จะพบของที่มีค่าอยู่ตลอดที่ถูกคลื่นซัดมาเกยชายหาด ซึ่งอ้วกวาฬ หรือ อำพันทะเล ก็ยังพบเป็นประจำ ซึ่งหลังจากที่นายอานนท์ หรือ บังหมัด พบหอยมุกเม็ดสีส้ม ก็ทำให้ชาวบ้านทั้งในและจากต่างพื้นที่แห่เดินทางมาหาหอยมุกและของมีค่าอื่นๆมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนจะคราคร่ำไปด้วยผู้คน แสงไฟระยิบระยับเต็มตลอดแนวชายหาดเกาะเพชร

"อำพันทะเล หรือ อ้วกวาฬ มีราคาสูงมาก หากคุณภาพดีๆราคาจะกิโลกรัมละ 1 ล้าน แต่ชาวบ้านที่พบก็ไม่รู้จะไปติดต่อขายที่ไหน ก่อนหน้านี้ชาวบ้านพบหลายราย บางรายพบแล้วก็ทิ้งไป ตนทราบว่าชาวบ้านในท้องที่หมู่ 9 ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร พบอ้วกวาฬหลายสิบกิโลกรัมเก็บเอาไว้หลายเดือนแล้วยังขายไม่ได้เลย แม้ไม่ได้ราคาแพงตามที่เป็นข่าวก็ตาม จึงอยากให้ผู้สื่อข่าวช่วยประสานติดต่อกับผู้ซื้อให้มาซื้ออ้วกวาฬจากชาวบ้านด้วย อย่างน้อยชาวบ้านจะได้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดโควิด-19"


https://www.komchadluek.net/news/local/457260

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


ฉลามหูดำและเต่าทะเลอวดโฉมนักดำน้ำ

เกาะพีพี 3 ก.พ.-ครูสอนดำน้ำ บันทึกภาพฉลามหูดำ-เต่าทะเล บริเวณเกาะปิดะนอก ใกล้เกาะพีพี จ.กระบี่ แสดงว่าบริเวณดังกล่าวมีแหล่งอาหารสัตวน้ำที่สมบูรณ์



นายคมศักดิ์ เจนหัตถ์ หรือไก่โต้ง ครูสอนดำน้ำที่เกาะพีพี จ.กระบี่ บันทึกภาพใต้ท้องทะเลเกาะพีพี ไว้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังนำนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำ ดำสำรวจใต้ทะเล บริเวณเกาะปิดะนอก ใกล้กับเกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งจะเห็นฉลามหูดำ หรือฉลามคลีบดำ ซึ่งถือเป็นสัตว์ทะเลห่วงโซ่อาหารบนสุด หากเจอจำนวนมากก็แสดงว่าบริเวณดังกล่าวมีแหล่งอาหารสัตวน้ำที่สมบูรณ์นั่นเอง โดยพบว่าฉลามหูดำ จะเวียนว่ายไปมา กระจายกันหาอาหารตามแนวปะการัง และใกล้ๆกัน ก็จะพบกับเต่าทะเลขนาดใหญ่ พระเอกแห่งใต้ทะเลเกาะพีพี ที่คอยหากินอยู่ตามแนวปะการัง ท่ามกลางฝูงปลาจำนวนมาก โดยจะพบได้ทั้งจุดที่มีการวางปะการังเทียม และตามแนวปะการังทั่วไป

นายคมศักดิ์ เปิดเผยว่า ช่วงวิกฤติโควิด-19 ทั้งระลอกแรกและระลอก 2 ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวน้อยมาก จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะพีพี เพาะตอนนี้เกาะพีพีปลอดโควิดแล้ว และมีมาตรการคัดกรองที่เข้มงวด ขอให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ สำหรับผู้ที่ต้องการดำน้ำลึกแบบโลกส่วนตัว ซึ่งสามารถเดินทางมาเที่ยวที่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้โดยไม่วุ่นวาย และช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซั่น สภาพอากาศดีมาก หากโชคดีก็จะเจอฉลามวาฬด้วย ซึ่งที่ผ่านามักจะเจอบ่อยครั้ง และตอนนี้เกาะพีพีก็ปลอดโควิด มีการคัดกรองเข้มงวด นักท่องเที่ยวสามรถเดินทางมาเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวล.


https://tna.mcot.net/region-630443

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 04-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


สุดล้ำ! Interceptor เรือเก็บขยะแม่น้ำเจ้าพระยาลำแรกถึงไทย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมกับองค์กร The Ocean Cleanup นำร่องส่งนวัตกรรมเครื่อง Interceptor เรือเก็บขยะแม่น้ำ ลำแรก ดักเก็บขยะพลาสติกในแม่น้ำเจ้าพระยา สุดล้ำใช้พลังงานแสงอาทิตย์ แยกขยะ คาดเก็บขยะได้ 3?4 ตันต่อวัน



วันนี้ (3 ก.พ.2564) นางสุมนา ขจรวัฒนากุล ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พร้อมด้วยนายโบแยน สแลต ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งองค์กร The Ocean Cleanup จากเนเธอร์แลนด์ผู้ที่คิดค้นทุ่นดักขยะทะเลใช้กำจัดแพขยะในมหาสมุทร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกันในการนำเครื่อง Interceptor เพื่อวิจัยขยะพลาสติกในแม่น้ำ และการดักเก็บขยะพลาสติกในแม่น้ำของไทยก่อนออกสู่ทะเล โดยจะติดตั้งบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จ.สมุทรปราการ 3 จุด จุดแรกนำร่องติดตั้งบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้า ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวการแก้ปัญหาขยะทะเล

นางสุมนา กล่าวว่า นวัตกรรม Interceptor เพื่อจัดการขยะในแม่น้ำก่อนลงสู่ทะเล ได้ผ่านการคิดค้นและทดสอบประสิทธิภาพมาแล้ว โดยจะนำมา ทดลองใช้ในไทยในพื้นที่แม่น้ำเจ้าพระยาก่อนลงสู่ทะเล เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณขยะในแม่น้ำมากที่สุด

"ปี 2560 มีปริมาณขยะสูงถึง 2,172 ตัน หรือกว่า 173 ล้านชิ้น แต่จากมาตรการต่างๆของภาครัฐ เพื่อลดปริมาณขยะในแม่น้ำ และทะเลส่งให้แม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณขยะลดลงในปี 2562 เหลือเพียง 702 ตัน หรือกว่า 42 ล้านชิ้น"


ภาพ:กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


ใช้พลังงานแสงอาทิตย์-เก็บขยะ 3-4 ตัน

นอกจากนี้ นวัตกรรมดังกล่าวจะช่วยลดปัญหาขยะตกค้างในสิ่งแวดล้อมก่อนไหลลงสู่ทะเล และช่วยลดผลกระทบที่จะเกิดต่อสัตว์ทะเลหายาก ทรัพยากรทางทะเล และระบบนิเวศชายฝั่งด้วย เบื้องต้นอยู่ระหว่างศึกษาความลึกของแม่น้ำและกระแสน้ำที่เหมาะสมในการติดตั้งเครื่องดังกล่าว

สำหรับเครื่อง Interceptor สามารถดักเก็บขยะอัตโนมัติ ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ สามารถจัดเก็บขยะได้ 3?4 ตันต่อวันขึ้นอยู่กับปริมาณขยะในพื้นที่ หรือเฉลี่ยลดปริมาณขยะในแม่น้ำที่จะไหลลงสู่ทะเลได้ถึงร้อยละ 60 โดยขยะที่เก็บรวบรวมได้จะถูกนำมาคัดแยก และกำจัดอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการตามแนวทางของเศรษฐกิจหมุนเวียน หรือ Circular Economy การเลือกไทยเป็นพื้นที่ดำเนินการได้พิจารณาจากความเหมาะสมและความพร้อม ทั้งด้านสถานที่ บุคลากร และนักวิชาการที่จะต่อยอดการดำเนินงานต่อได้ในอนาคต


https://news.thaipbs.or.th/content/301049

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:58


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger