เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #2  
เก่า 10-02-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ศรชล.เดินหน้ารุกฆาตรื้อขนำ-คอกหอยผิดกฎหมาย

สุราษฎร์ธานี - ศรชล.เดินหน้ารุกฆาตรื้อขนำ-คอกหอยผิดกฎหมายในทะเลอ่าวบ้านดอน จะต้องหมดก่อน 15 มีนาคมนี้ ก่อนเจอยาแรง



วันนี้ (9 ก.พ.) นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย ศรชล. ลงพื้นที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตรวจสอบความคืบหน้าแผนการรื้อถอนขนำคอกหอยผิดกฎหมาย ก่อนคืนพื้นที่ให้ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการดูแลต่อไป ซึ่งในวันนี้มีผู้นำท้องถิ่น ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงในพื้นที่ 5 อำเภอที่ติดชายฝั่งทะเล ที่ประกอบด้วย อ.ไชยา อ.ท่าฉาง อ.พุนพิน อ.เมืองสุราษฎร์ธานี อ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร่วมประชุมรับฟังการชี้แจงจาก ศรชล.ส่วนกลาง ซึ่งทางผู้ประกอบการบางส่วนก็มีการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม และมีบางส่วนที่ยินยอมรื้อถอนโดยไม่มีข้อแม้

สำหรับความคืบหน้าการรื้อถอนขนำและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน พื้นที่อำเภอเมือง มีทั้งหมด 89 ขนำ รื้อถอนเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว 34 ขนำ ส่วนพื้นที่อำเภอพุนพิน มีทั้งหมด 83 ขนำ รื้อถอนเสร็จสิ้นแล้ว 16 ขนำ อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการรื้อขนำ มีขนำผิดกฎหมายทั้งหมด 434 หลัง ดำเนินการรื้อแล้ว 7 หลัง ขณะที่อำเภอไชยาและอำเภอท่าฉาง อยู่ในระหว่างการดำเนินการสำรวจขนำ

พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและกฎหมาย ศรชล.ได้กล่าวในที่ประชุมว่า ขอผู้นำชุมชนและผู้ประกอบการให้เข้าใจตรงกันว่าไม่มีโรดแมปอื่นนอกจากโรดแมปทาง ศรชล.ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่ 5 อำเภอจะต้องดำเนินการรื้อถอนขนำเฝ้าหอย และคอกหอยที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายของกรมเจ้าท่าให้แล้วเสร็จภายใน 15 มีนาคมนี้ หากมีการฝ่าฝืนหรือดื้อแพ่ง ทาง ศรชล.ก็จะใช้กฎหมายที่รุนแรงสูงสุดเข้าดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด

และมีรายงานว่า ทีมสอบสวนของสำนักงาน ปปง. จะลงพื้นที่อีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดต่อผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืนคำสั่งทางปกครองที่ให้รื้อสิ่งปลูกสร้างที่กีดขวางการเดินเรือในท้องทะเล


https://mgronline.com/south/detail/9640000013163


*********************************************************************************************************************************************************


นักวิทยาศาสตร์ชี้เป้า ?โลกร้อน? เหตุสำคัญธารน้ำแข็งหิมาลัยถล่ม


ผู้คนเดินผ่านเขื่อนที่ถูกทำลายหลังจากธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัยแตกและชนเข้ากับเขื่อนที่หมู่บ้าน Raini Chak Lata ในเขต Chamoli รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย (Credit Photo : Reuters)

สำนักข่าวอัลจาชีรา (8 ก.พ.2021) รายงานสะท้อนถึงสาเหตุของภัยพิบัติธารน้ำแข็ง Nanda Devi ในเทือกเขาหิมาลัยถล่ม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า

แผ่นดินไหวและการสะสมของแรงดันน้ำอาจทำให้ธารน้ำแข็งแตกออก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ประกอบกับปริมาณหิมะที่น้อยลงสามารถเร่งการละลายซึ่งทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่อาจเป็นอันตรายได้

"ธารน้ำแข็งบนภูเขาส่วนใหญ่ทั่วโลกในอดีตมีขนาดใหญ่กว่านี้มาก และได้ละลายและหดตัวลงอย่างมากเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน" ซาราห์ดาส (Sarah Das) นักวิทยาศาสตร์ร่วมจากสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮลกล่าว

"มีการระบุสถานการณ์น้ำท่วมและธารน้ำแข็งที่อาจเป็นอันตรายถึงตายจำนวนหนึ่งทั่วโลกรวมทั้งในเทือกเขาหิมาลัยและเทือกเขาแอนดีสในอเมริกาใต้

แต่สถานที่ห่างไกลของธารน้ำแข็งและการขาดการตรวจสอบ หมายความว่าเราไม่มีความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นบ่อยเพียงใดและเพิ่มขึ้นหรือไม่" ดาส กล่าว

"เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบโดยรวมของการร้อนขึ้นการล่าถอยของธารน้ำแข็งและการเพิ่มขึ้นของโครงการโครงสร้างพื้นฐานดูเหมือนว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะตั้งสมมติฐานว่าเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นและจะกลายเป็นการทำลายล้างโดยรวมมากขึ้นหากไม่มีการใช้มาตรการเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านี้" ดาส กล่าว

" มีธารน้ำแข็งและทะเลสาบที่ถูกทำลายด้วยธารน้ำแข็งจำนวนมากทั่วเทือกเขาหิมาลัย แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบ" ดาส กล่าวอีกว่า

"ทะเลสาบเหล่านี้หลายแห่งอยู่ต้นน้ำของหุบเขาแม่น้ำที่สูงชันและมีโอกาสเกิดน้ำท่วมรุนแรงเมื่อเกิดการแตก เมื่อน้ำท่วมเหล่านี้ไปถึงพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานที่ละเอียดอ่อนสิ่งต่างๆจะเป็นหายนะ"

ก่อนหน้าเกิดภัยพิบัติธารน้ำแข็งหิมาลัยถล่มราวสองสัปดาห์

มีงานวิจัยที่เพิ่งตีพิมพ์ The Cryosphere โดย Thomas Slater และคณะเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ม.ค.2021 ว่าน้ำแข็งทั่วโลกกำลังละลาย ในอัตราเร็วซึ่งน่ากังวลที่สุดเท่าที่ คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change หรือ IPCC) เคยคำนวณไว้

งานวิจัยสรุปความได้ว่า โลกได้สูญเสียน้ำแข็งไปกว่า 28 พันล้านตันในช่วงปี 1994-2017 ซึ่งเท่ากับปริมาตรน้ำแข็งสูง 100 เมตร บนพื้นที่ขนาดเท่าประเทศอังกฤษ 2/3 ของน้ำแข็งที่ละลายเกิดจากความร้อนของชั้นบรรยากาศ ส่วนอีก 1/3 จากมหาสมุทรที่ร้อนขึ้น

ในช่วงเวลาดังกล่าว น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น 65% โดยปี 1990 อยู่ที่ปีละ 800 ล้านตัน ปี 2017 เพิ่มขึ้นถึง 1200 ล้านตันต่อปี ครึ่งหนึ่งของน้ำแข็งที่ละลายมาจากแผ่นดินไหลลงสู่ทะเล ทำให้ตั้งแต่ปี 1994-2017 น้ำทะเลสูงขึ้น 35 มิลลิเมตร

ยิ่งน้ำแข็งปริมาณมากที่ขั้วโลกที่ละลายไป ยิ่งทำให้สมดุลเสียและน้ำแข็งละลายเร็วขึ้น เดิมน้ำแข็งสีขาวช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ออกไป เมื่อพื้นที่สีขาวลดลง บริเวณพื้นที่สีเข้มเช่นน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ยิ่งดูดซับความร้อนมากขึ้นและเร่งการละลายยิ่งขึ้น
ธารน้ำแข็งกว่า 6 พันล้านตัน หรือคิดเป็น 1/4 ของธารน้ำแข็งทั่วโลกหายไปในช่วง 1994-2017 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและการขาดแคลนแหล่งน้ำจืดในหลายพื้นที่

"ขณะนี้น้ำแข็งกำลังละลายในอัตราเร็วที่แย่ที่สุด ที่องค์กร Intergovernmental Panel on Climate Change ได้เคยทำนายไว้ น้ำทะเลที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบเลวร้ายต่อชุมชนชายฝั่งอย่างมากในศตวรรษนี้"

"ทุกๆ หนึ่งเซนติเมตรที่น้ำทะเลสูงขึ้น จะมีประชากรหนึ่งล้านคนได้รับผลกระทบ จนต้องย้ายที่อยู่"


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000012778
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:46


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger