เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


พายุทรายที่เกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเกี่ยวข้องกับวิกฤตสภาพูมิอากาศหรือไม่

ช่วงเช้าของวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ประชาชนในกรุงปักกิ่งตื่นมาพร้อมกับท้องฟ้าที่กลายเป็นสีส้มอันเนื่องมาจากกระแสลมแรงพัดพาพายุทรายขนาดใหญ่ที่มาจากมองโกเลีย พายุทรายได้ทำให้ระดับมลพิษทางอากาศพุ่งสูงขึ้นในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตอนเหนือของจีน เกาหลี และบางพื้นที่ของญี่ปุ่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของจีนบอกว่าพายุทรายนี้เป็น "พายุทรายที่ใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ"


พายุฝุ่น (หรือพายุทราย) ปกคลุมทั่วปักกิ่งและทำให้คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก


6 ชีวิตที่มลายและอีกร้อยที่สูญหาย

หน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินของมองโกเลียรายงานว่าพายุทรายได้คร่าชีวิตคนไป 6 คน ส่วนในจีนสำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ณ วันที่ 15 มีนาคม มีผู้สูญหายอย่างน้อย 341 คน

พายุทรายในปักกิ่งได้ก่อให้เกิดทัศนวิสัยต่ำ ยอดตึกระฟ้าซ่อนอยู่ในหมอกควัน ผู้คนที่สัญจรไปมาตามท้องถนน และคนที่ขี่จักรยานต้องสวมหน้ากากและอุปกรณ์สวมศีรษะชั่วคราวเพื่อป้องกันใบหน้าของพวกเขาจากทรายที่กระโชกแรง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ความเข้มข้นของฝุ่น PM10 ในปักกิ่งมีค่าสูงกว่า 8,100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (สำหรับบริบทแนวปฏิบัติด้านคุณภาพอากาศของสหรัฐอเมริกาถือว่าระดับระหว่าง 0 ถึง 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรอยู่ในระดับ" ดี" และ 55 ถึง 154 อยู่ในระดับ "ปานกลาง" การสัมผัสมลพิษทางอากาศไม่มีในระดับที่ปลอดภัย)

ไกลออกไปทางตะวันตก ณ เมือง เจี่ยยู่กวน มณฑลกานซู ค่า PM10 มีค่าสูงถึง 9,985 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรหรือเกือบ 40 เท่าซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ ?มีผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก?

หลายเที่ยวบินต้องถูกยกเลิกและถูกสั่งห้ามบินเนื่องจากทัศนวิสัยต่ำ โรงเรียนถูกสั่งให้ยกเลิกกิจกรรมกลางแจ้งทั้งหมด และคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้รับคำแนะนำว่าให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย


พายุทรายเกิดขึ้นได้อย่างไร?

3 ปัจจัยที่จะทำให้เกิดพายุทรายคือ

1) ขนาดความใหญ่ของพื้นที่ทราย

2) ระดับความแรงของลม และ

3) สภาพบรรยากาศที่สามารถพัดพาทรายไปในอากาศ

เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งกว่าเดิม กอปรกับอุณหภูมิที่พุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ถึง 8 องศาเซลเซียสในมองโกเลีย ทำให้ฝุ่นและทรายสามารถฟุ้งกระจายได้แรงกว่าเดิม

นอกจากนี้ พายุไซโคลนที่เกิดขึ้นในมองโกเลียได้นำแรงลมระดับ 6 ถึง 8 ไปยังพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเกิดพายุทราย ยิ่งไปกว่านั้นการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลานานและการกดกร่อนของดินทางตอนใต้ของมองโกเลียทำให้มลพิษทางอากาศมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น


ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นถึงพายุทรายที่เกิดในมองโกเลียถูกลมพัดพาไปบริเวณเอเชียตะวันออกและตก


พายุทรายเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไม่?

ดร. Liu Junyan นักรณรงค์ด้านสภาพอากาศและพลังงานของกรีนพีซ เอเชียตะวันออก กล่าวว่า "แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ความถี่ของพายุทรายในมองโกเลียก็เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ"

ระหว่างปีพ.ศ. 2483 ถึง พ.ศ.2558 อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีในมองโกเลียเพิ่มขึ้น 2.24 องศาเซลเซียสซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณสามเท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น

ตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ถึง พ.ศ.2558 ทุ่งหญ้าในมองโกเลียประสบกับความแห้งแล้งมากขึ้นเมื่อเทียบกับสองทศวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับความร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและปริมาณน้ำฝนที่ลดลง การแทะเล็มหญ้าของสัตว์ที่มากเกินไปยิ่งซ้ำเติมปัญหาที่เกิดขึ้นของทุ่งหญ้า

เมื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทวีความรุนแรงขึ้น สภาพแวดล้อมที่นำไปสู่การก่อตัวของพายุทรายจึงเกิดขึ้นบ่อยขึ้น


ภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังพายุทรายพัดถล่มในปักกิ่ง

เราสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
หนทางที่ดีและยั่งยืนที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือเราต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในระดับโลกลงให้มากที่สุด

จีน เกาหลี และญี่ปุ่น ปล่อยก๊าซคาร์บอนถึงหนึ่งในสามของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลกในปี พ.ศ. 2561 ในฐานะผู้ปล่อยก๊าซที่ใหญ่ที่สุดสามแห่งในเอเชียตะวันออก ล่าสุดเมื่อปี 2563 ทั้งสามประเทศให้คำมั่นสัญญาว่า จะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิให้เป็นศูนย์ หรือ มุ่งไปสู่ "ความเป็นกลางทางคาร์บอน(Carbon Nuetral) 100%

แต่ ณ ปัจจุบัน แผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของทั้งสามประเทศยังไม่มีออกมาให้เห็นเป็นรูปเป็นร่าง กรีนพีซจึงเรียกร้องให้ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีพัฒนาแผนงานรูปธรรมในระยะยาวขึ้นมา ว่าทำอย่างไรที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ได้ รวมถึงกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียน 100%


กิจกรรมฉายแสงข้อความรณรงค์ยุติถ่านหินในกรุงโซล เกาหลี

กรีนพีซในปักกิ่งได้รณรงค์ประเด็นด้านสภาพภูมิอากาศและพลังงานมานานกว่าทศวรรษ ล่าสุดเราได้ป้องกันไม่ให้พันธบัตร "การเงินสีเขียว" หลายล้านดอลลาร์ไปลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหิน ส่วนกรีนพีซ เกาหลีมีการพูดคุย เสนอแนวทาง และทางออกอย่างยั่งยืนกับนักการเมืองคนสำคัญ และท้ายสุดกรีนพีซ ญี่ปุ่น ได้รณรงค์ต่อต้านการแสดงจุดยืนสนับสนุนถ่านหินของรัฐบาลที่งาน World Economic Forum ในเมืองดาวอสเพื่อเรียกร้องให้สถาบันการเงินรายใหญ่ของญี่ปุ่นยุติการระดมทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินแห่งใหม่

คุณคือพลังอันสำคัญที่สามารถร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินได้

กรีนพีซได้สร้างความตระหนักแก่สาธารณชนเกี่ยวกับวิกฤตสภาพอากาศผ่านโซเชียลมีเดียและกิจกรรมต่าง ๆ เสียงของประชาชนสามารถผลักดันให้รัฐบาลและองค์กรที่ก่อมลพิษได้รับรู้ความจริงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้พลังของเราสามารถผลักดันให้รัฐบาลเลิกสนับสนุนถ่านหิน และพร้อมเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนที่จะสร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างอนาคตที่ปลอดภัย


https://www.greenpeace.org/thailand/...oss-east-asia/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


ซากฟอสซิลยืนยัน "ฉลามมีปีก" บินร่อนในทะเลได้เหมือนกระเบนราหู เมื่อ 93 ล้านปีก่อน


ภาพจำลอง "ฉลามมีปีก" Aquilolamna milarcae ที่เคยมีชีวิตอยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์

ทีมนักบรรพชีวินวิทยานานาชาติจากฝรั่งเศส เยอรมนี และเม็กซิโก เผยผลวิเคราะห์ซากฟอสซิลของ "ฉลามมีปีก" อายุเก่าแก่ 93 ล้านปี ในวารสาร Science โดยชี้ว่าเป็นฉลามรูปร่างประหลาดที่ไร้กระโดงหรือครีบหลัง แต่กลับมีครีบด้านข้างลำตัวที่ยาวและกว้างคล้ายปีกเครื่องบิน สามารถใช้ร่อนเหมือนกับบินในน้ำทะเลเช่นเดียวกับกระเบนราหูได้

ฉลามโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้วดังกล่าวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aquilolamna milarcae มีชีวิตอยู่ในยุคครีเทเชียสที่ไดโนเสาร์ครองโลก ก่อนที่กระเบนราหูซึ่งเป็นญาติใกล้ชิดของฉลามจะถือกำเนิดขึ้นมาหลายสิบล้านปี

ฉลามมีปีกชนิดนี้เป็นฉลามที่กรองกินแพลงก์ตอนเป็นอาหารเหมือนกับฉลามวาฬ อาศัยอยู่ในบริเวณ Western Interior Seaway ซึ่งเป็นช่องที่น้ำทะเลไหลเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ จนกลายเป็นทางน้ำเชื่อมต่ออ่าวเม็กซิโกและมหาสมุทรอาร์กติกในยุคโบราณ

มีการค้นพบฟอสซิลนี้เมื่อปี 2012 ในเหมืองหินทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเม็กซิโก โดยพบว่าครีบด้านข้างที่คล้ายปีกนกนั้น เมื่อกางออกเต็มที่จะมีความยาวจากปลายข้างหนึ่งไปจรดอีกข้างหนึ่งเกือบ 2 เมตร ในขณะที่ลำตัวมีความยาว 1.65 เมตร ทำให้มันเป็นสัตว์ที่มีความกว้างของลำตัวมากกว่าความยาว นอกจากนี้มันยังมีส่วนหัวสั้น จมูกสั้น แต่มีปากกว้างอีกด้วย


ซากฟอสซิลเก่าแก่ 93 ล้านปี ซึ่งจะนำไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศเม็กซิโก

ฉลามและกระเบนราหูจัดเป็นสัตว์จำพวก Elasmobranch หรือปลากระดูกอ่อนเหมือนกัน ทั้งยังกรองกินแพลงก์ตอนเช่นเดียวกันอีกด้วย แต่การที่ฉลามมีปีกมีอายุเก่าแก่กว่าและมีครีบด้านข้างขนาดใหญ่เหมือนกระเบนราหูนั้น ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นบรรพบุรุษของกระเบนราหูแต่อย่างใด แต่เป็นวิวัฒนาการแบบเบี่ยงเบนเข้าหากัน (Convergent evolution) หรือการที่สัตว์ต่างชนิดพัฒนาโครงสร้างแบบเดียวกันขึ้นมาโดยแยกกันมีวิวัฒนาการแบบเป็นอิสระจากกัน

ทีมผู้วิจัยคาดว่าฉลามมีปีกน่าจะว่ายน้ำได้ค่อนข้างช้าและไม่ใช่นักล่าที่น่ากลัว โดยมันจะใช้ครีบด้านข้างที่ทั้งกว้างและยาวช่วยทรงตัวขณะร่อนไปในน้ำเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะอาศัยครีบหางที่แข็งแกร่งตวัดไปมาทางซ้ายและขวา รวมทั้งใช้ลำตัวรูปทรงตอร์ปิโดช่วยในการว่ายไปข้างหน้ามากกว่า

แม้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าฉลามมีปีกสูญพันธุ์ไปเนื่องจากสาเหตุใด แต่ทีมผู้วิจัยคาดว่าอาจเป็นสาเหตุเดียวกับที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปเมื่อ 66 ล้านปีก่อน ซึ่งก็คือหายนะจากอุกกาบาตขนาดยักษ์ที่พุ่งชนโลก โดยผลพวงจากการชนปะทะที่ทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาลและอุณหภูมิสูง เปลี่ยนผิวหน้าของน้ำทะเลให้เป็นกรดอย่างแรง จนแพลงก์ตอนที่เป็นอาหารของฉลามมีปีกตายไปจนหมด


https://www.bbc.com/thai/international-56452643

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:22


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger