![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
สูญเสีย53ชีวิต ทัพอินโดฯ แถลงเรือดำน้ำจม นาทีซ้อมยิงตอร์ปิโด ![]() สูญเสีย53ชีวิต ? เอพี รายงานว่า เมื่อ 24 เม.ย. กองทัพเรืออินโดนีเซีย ประกาศยืนยันว่า เรือดำน้ำที่หายไปสองวันมานี้จมสู่ใต้ทะเลและปริแตก ยุติความหวังว่าลูกเรือ 53 นายอาจรอดชีวิตอย่างแน่นอนแล้ว พลอากาศเอก ฮาดี เตียห์จานโต ผู้บัญชาการทหารอินโดนีเซีย กล่าวว่า ทีมค้นหาพบคราบน้ำมันและเศษซากใกล้กับบริเวณที่เรือซ้อมรบระบบยิงตอร์ปิโด นอกชายฝั่งเกาะบาหลี เมื่อวันพุธที่ 21 เม.ย. และแน่ชัดแล้วว่า เรือเคอาร์ไอ นังกาลา-402 จมลง และกองทัพ สูญเสีย53ชีวิต ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเรือเพียงแต่หายไป และเหลือออกซิเจนสำหรับคนที่อยู่ในเรือได้เพียงช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. เดิมเชื่อว่า เรือน่าจะจมลงไปลึกถึง 600-700 เมตร พลเรือเอก ยูโด มาร์โกโน ผบ.ทร. กล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่บาหลี ว่า หากมีการระเบิด เรือจะแหลกเป็นชิ้นๆ และระบบตรวจสอบโซนาร์ต้องจับเสียงได้ กรณีนี้เรือค่อยๆ ร้าวตรงบางจุด และค่อยๆ จมลงจากระดับลึก 300 ไปที่ 400 และ 500 เมตร ส่วนความลึกของทะเลตรงจุดดังกล่าวอยู่ที่ 850 เมตร "ด้วยหลักฐานแน่ชัดที่พบ เราเชื่อว่ามาจากเรือดำน้ำ และตอนนี้เราจะเปลี่ยนจากคำว่า เรือหาย เป็น เรือจม" พลเรือเอก มาร์โกโน กล่าว และว่า ช่วงสองวันมานี้ ทีมค้นหาพบชิ้นส่วนของตัวตอร์ปิโด อีกชิ้นมาจากขวดหยอดน้ำมันหล่อลื่น และมีชิ้นส่วนที่แตกออกจากท่อหล่อเย็นที่สั่งทำใหม่ที่เกาหลีใค้ เมื่อปี 2555 ซึ่งทีมของอินโดนีเซียและชาติอื่นๆ จะตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป สำหรับสาเหตุที่เรือประสบเหตุนี้ยังไม่แน่ชัด เป็นไปได้ว่า ระบบไฟฟ้าขัดข้องจนไม่อาจจะเดินเครื่องให้เรือลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ และผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า เรือถูกบีบอัดด้วยแรงดันน้ำใต้ทะเล อินโดนีเซียมีเรือดำน้ำอยู่ 5 ลำ ในจำนวนนี้ 2 ลำ มาจากเรือที่สร้างในเยอรมนี รวมถึงเรือนังกาลา อายุ 40 ปี ซึ่งนำไปปรับให้ใช้งานได้ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 2555 และอีก 3 ลำต่อใหม่ เป็นของเกาหลีใต้ https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6360955
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก BBCThai
วิกฤตด้านภูมิอากาศหลังปี 1990 ทำแกนหมุนโลกเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิม ![]() ธารน้ำแข็ง Ngozumpa บนเทือกเขาหิมาลัย อยู่ในส่วนที่เป็นเขตแดนของประเทศเนปาล ภาวะโลกร้อนเข้าขั้นวิกฤต ซึ่งทำให้ธารน้ำแข็งทั่วโลกเกิดการละลายครั้งมโหฬาร กำลังส่งผลให้แกนหมุนของโลกเคลื่อนตัวออกห่างจากตำแหน่งเดิม ทั้งยังทำให้ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ผลการศึกษาตำแหน่งล่าสุดของแกนหมุนโลก ที่จัดทำโดยสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS) ชี้ว่าตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา แกนหมุนของโลกเคลื่อนตัวออกห่างจากตำแหน่งเดิม 4 เมตร และนับแต่ปี 1995 เป็นต้นมาได้เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ จากเดิมที่มุ่งหน้าลงทิศใต้เป็นเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกแทน สาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนี้ เนื่องจากเกิดความเปลี่ยนแปลงในสัดส่วนการกระจายตัวของมวลบนพื้นโลก โดยอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ธารน้ำแข็งต่าง ๆ บนผืนทวีป ละลายกลายเป็นน้ำที่ไหลลงมหาสมุทรไปในที่สุด นักวิทยาศาสตร์ประมาณการว่ามีน้ำแข็งบนพื้นโลกที่ละลายหมดไปถึงหลายแสนล้านตันต่อปี "นับแต่ทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ปริมาณน้ำที่ถูกกักเก็บไว้บนผืนทวีปลดลงอย่างฮวบฮาบด้วยอัตราเร่ง ปรากฏการณ์นี้คือปัจจัยหลักที่ทำให้แกนหมุนโลกเคลื่อนตัวในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา" ดร. เติ้ง ซานซาน ผู้นำทีมวิจัยของสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีนกล่าว รายงานวิจัยข้างต้นซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ยังระบุว่า อัตราความเร็วเฉลี่ยของการเปลี่ยนตำแหน่งแกนหมุนโลกระหว่างปี 1995-2020 นั้น รวดเร็วยิ่งกว่าอัตราเฉลี่ยของปี 1981-1995 ถึง 17 เท่า โดยทีมผู้วิจัยสามารถวิเคราะห์ได้จากข้อมูลดาวเทียมที่ตรวจวัดความโน้มถ่วงทั่วโลก ตามปกติแล้วตำแหน่งของแกนหมุนโลกสามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยปัจจัยทางธรรมชาติ เช่นการเปลี่ยนทิศทางของกระแสน้ำในมหาสมุทร และการไหลเวียนของหินร้อนหลอมละลายใต้ผืนโลก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์สามารถพิสูจน์ได้ว่า กิจกรรมของมนุษย์ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ได้ส่งผลสะเทือนถึงระดับโครงสร้างสำคัญของโลกเลยทีเดียว ![]() การสูบน้ำบาดาลมาใช้ในปริมาณมหาศาล เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การกระจายตัวของมวลบนพื้นโลกเปลี่ยนแปลงไป นอกจากการละลายของธารน้ำแข็งเพราะภาวะโลกร้อนแล้ว ทีมผู้วิจัยยังสันนิษฐานว่าการสูบน้ำบาดาลมาใช้อุปโภคบริโภคในปริมาณมหาศาล จนแหล่งกักเก็บน้ำใต้ดินไม่มีน้ำไหลเข้ามาแทนที่อีกต่อไปนั้น ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สัดส่วนการกระจายตัวของมวลบนพื้นโลกเปลี่ยนแปลงไป จนส่งผลกระทบถึงแกนหมุนของโลกด้วย ดร. วินเซนต์ ฮัมฟรีย์ จากมหาวิทยาลัยซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ แสดงความเห็นในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการวิจัยว่า "แม้วิกฤตด้านภูมิอากาศจากฝีมือมนุษย์จะทำให้ตำแหน่งของแกนหมุนโลกเคลื่อนไปจากเดิมเพียงเล็กน้อย ซึ่งมันอาจจะเปลี่ยนแปลงระยะเวลา 1 วันบนโลกให้สั้นลงเพียงไม่กี่มิลลิวินาทีเท่านั้น แต่มันก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนของการเคลื่อนย้ายมวลน้ำในธรรมชาติโดยมีสาเหตุมาจากมนุษย์ ซึ่งการกระทำนี้ส่งผลทางธรณีวิทยาในระดับที่ลึกซึ้งใหญ่หลวงยิ่งต่อโลกของเรา" https://www.bbc.com/thai/international-56871714
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|