![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ไม่อยากเชื่อสายตา! ผู้เชี่ยวชาญอึ้ง 'ปลาแสงอาทิตย์มหึมา' ว่ายติดอวนเรือประมง ![]() นักชีววิทยาทางทะเลไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง หลังได้เห็นภาพปลาแสงอาทิตย์ขนาดมหึมาว่ายติดอวนเรือประมงปลาทูนาลำหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน นอกชายฝั่งเซวตา ดินแดนของสเปนในแอฟริกาเหนือ เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ปลาแสงอาทิตย์ขนาดมหึมาตัวนี้มีความยาว 3.2 เมตร กว้าง 2.9 เมตร และคาดว่าน่าจะมีน้ำหนักมากว่า 1,814 กิโลกรัม (หนักเกินไปสำหรับตราชั่ง) ได้รับความช่วยเหลือออกจากอวนหาปลา นอกชายฝั่งเซวตา เชื่อกันว่ามันเป็นปลาแสงอาทิตย์ตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยพบมาในภูมิภาคนี้ โดยชาวประมงถึงขั้นต้องใช้เครนยกมันขึ้นจากน้ำ ผู้เชี่ยวชาญได้มีการทำการศึกษามันช่วงสั้นๆ และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ก่อนปล่อยมันไป จากข้อมูลของสถานีชีววิทยาทางทะเลเอสเตรโช แห่งมหาวิทยาลัยเซบีญา ระบุว่า ปลาแสงอาทิตย์ตัวนี้ถูกพบว่ายเข้ามาติดอวนนอกชายเซวจา ทางเหนือของทวีปแอฟริกา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม "เราพยายามนำมันวางบนตราชั่ง 1,000 กิโลกรัม แต่มันหนักเกินไป ตราชั่งอาจพังได้" เอ็นริเก ออสเทล นักชีววิทยาทางทะเลของทางสถานีบอกกับรอยเตอร์ โดยที่เขาและเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ถูกเรียกไปประเมินปลาตัวดังกล่าว "บนพื้นฐานของความอ้วนท้วนของมันและเปรียบเทียบกับตัวอื่นๆ ที่เคยถูกจับ มันน่าจะมีน้ำหนักราวๆ 2 ตัน" ออสเทล "ผมตกตะลึงเลยทีเดียว เราเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับปลาชนิดนี้ แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้สัมผัสกับมันจริงๆ" เขาระบุ "แต่มันเต็มไปด้วยความเครียดเช่นกัน คุณอยู่บนเรือกลางทะเล มีเครนตัวหนึ่งน้ำหนักมหาศาลเคลื่อนไหว มีสัตว์ขนาดใหญ่ตัวเป็นๆ เราต้องเร่งมือไม่ปล่อยให้เสียเวลาและจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ" ออสเทล เล่า เซวตา เป็นหนึ่งใน 9 ดินแดนของสเปนในแอฟริกา มีชายแดนติดกับโมร็อกโก อยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและมหาสมุทรแอตแลนติก (ที่มา : ยูเอสเอทูเดย์) https://mgronline.com/around/detail/9640000104669
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
ระทึก! ทัพเรือภาคที่ 1 ออกเรือด่วนช่วยนักดำน้ำหญิงหมดสติกลางทะเล ![]() วันนี้ (22 ต.ค.64) ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับการประสานจากมูลนิธิโรจนธรรมสถานสัตหีบว่าได้รับแจ้งจากคุณอนุวัฒน์ฯ เจ้าของเรือทัวร์ดำน้ำชื่อ "ม้าน้ำ" ว่านักดำน้ำหญิงเกิดเหตุขาดอากาศหายใจ จนหมดสติ จากการดำน้ำลึก บริเวณจุดจอดเรือทัวร์ดำน้ำเกาะคราม ทางเรือทัวร์รีบดำเนินการนำเรือกลับเข้าฝั่งเพื่อส่งนักดำน้ำหญิงเข้ารับการรักษา แต่ระหว่างการนำเรือเดินทางกลับนั้น เรือทัวร์เกิดเหตุเครื่องยนต์ขัดข้องไม่สามารถเดินเรือได้ เรือทัวร์ลอยลำอยู่บริเวณหน้าอ่าวเตยงาม จึงแจ้งมาเพื่อขอควรช่วยเหลือ พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 จึงสั่งการให้ เรือ ต.274 ซึ่งเป็นเรือพร้อมลำดับที่ 1 ของกองเรือปฏิบัติการ ทัพเรือภาคที่ 1 ออกเรือเข้าทำการช่วยเหลือ ซึ่งผลการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สามารถให้ความช่วยเหลือนักดำน้ำหญิงได้ทันต่อสถานการณ์และนำส่งขึ้นฝั่งที่ท่าเรือแหลมเทียนฐานทัพเรือสัตหีบประสานโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ รับนักดำน้ำหญิงเข้าทำการรักษาพยาบาลต่อไป https://www.naewna.com/local/610777
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#3
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก Nation TV
คนไทย 38 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน ![]() WHO ชี้ มลพิษทางอากาศภัยคุกคามสุขภาพ ในปี 2560-2563 พบคนไทยป่วยจากโรคที่เกิดจากการกระตุ้นของมลพิษอากาศ โรคหัวใจหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง มะเร็งปอด ดร.อุมา ราชรัฐนาม ผู้แทนองค์การอนามัยโลก ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวในงานประชุมออนไลน์ หัวข้อ "ประเทศไทยไปทางไหน ต่อเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศใหม่ของ WHO" ว่า มลพิษทางอากาศจากฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาใหญ่ที่สะสมมาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี ถือเป็นภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชากรทั่วโลก ในเดือนตุลาคม ปี 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดทำเกณฑ์แนะนำคุณภาพอากาศฉบับใหม่ในรอบ 15 ปี ให้ต่ำกว่าเกณฑ์เมื่อปี 2548 โดยระบุระดับคุณภาพอากาศสำหรับฝุ่น PM 2.5 ให้มีค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากเดิมที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 15 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากเดิม 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร กำหนดเป็นค่ามาตรฐานเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับกำหนดเป้าหมายทางนโยบาย รวมถึงเป็นเครื่องมือในการออกแบบมาตรการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดมลพิษทางอากาศ และปกป้องสุขภาพของประชาชน คนไทย 38 ล้านคนอยู่ในพื้นที่ฝุ่น ในจำนวนนี้ 15 ล้านคนเป็นกลุ่มเสี่ยง นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนไทย 38 ล้านคน อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งในจำนวนนี้ 15 ล้านคน เป็นประชากรกลุ่มเสี่ยงได้รับผลกระทบรุนแรง ทั้งเด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคทางเดินหายใจ ในปี 2560-2563 พบคนไทยป่วยจากโรคที่เกิดจากการกระตุ้นของมลพิษอากาศ 4 โรค ได้แก่ 1. โรคหัวใจและหลอดเลือด 2. โรคหลอดเลือดสมอง 3. โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 4. มะเร็งปอด เมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดมีมูลค่าสูงเกือบ 200,000 บาทต่อรายต่อเดือน ซึ่งหากคุณภาพอากาศดีขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มของค่าใช้จ่ายทางสุขภาพลดลงตามไปด้วย ![]() ค่าฝุ่น ไม่ควรเกิน 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รศ.วงศ์พันธ์ ลิมปเสนีย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการเพื่อขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ กล่าวว่า ผลประโยชน์ด้านสุขภาพที่ได้จากการควบคุมมลพิษทางอากาศในประเทศไทย เมื่อทำการเปรียบเทียบค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศตามเกณฑ์แนะนำของ WHO ระหว่างค่ามาตรฐานเดิมในปี 2548 กับค่ามาตรฐานใหม่ปี 2564 พบว่า หากประเทศไทยใช้เกณฑ์แนะนำเดิม - ที่ค่าเฉลี่ยรายปี 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร - จะลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 110,000 รายต่อปี - คิดเป็นมูลค่าผลประโยชน์ด้านสุขภาพ 3.75 ล้านล้านบาทต่อปี หากใช้เกณฑ์แนะนำปี 2564 - ที่ค่าเฉลี่ยรายปีอยู่ที่ 5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร - จะลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึง 170,000 รายต่อปี - คิดเป็นมูลค่าผลประโยชน์ด้านสุขภาพถึง 5.82 ล้านล้านบาทต่อปี มลพิษทางอากาศกระตุ้นเกิดโรคโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ปัญหามลพิษทางอากาศต้นเหตุสำคัญในการกระตุ้นให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งคิดเป็น 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตจากทั้งหมดของประเทศ สอดคล้องกับในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 73 ปี 2561 ประกาศที่ให้มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยความเสี่ยง 1 ใน 5 ร่วมกับพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกหลักโภชนาการ สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่มีกิจกรรมทางกาย สสส. ตระหนักถึงผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดขึ้น จึงมุ่งขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ระดับพื้นที่ไปจนถึงระดับนโยบายเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน สสส. เน้นขยายผลจากระดับปัจเจกหรือระดับพื้นที่ นำไปสู่การผลักดันนโยบายเพื่อการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่ผ่านมา สสส. ร่วมกับสภาลมหายใจ 8 จังหวัดภาคเหนือ ขับเคลื่อนการแก้ปัญหาวิกฤตฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ภาคเหนือ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่านิยมในระดับภูมิภาค เช่น ลดการเผาภาคเกษตร จัดทำแนวกันไฟชุมชน พร้อมจัดตั้งศูนย์วิชาการเพื่อการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อพัฒนางานวิชาการที่ตอบโจทย์บริบทของสังคม เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้เป็นแนวทางการทำงานแต่ละพื้นที่ มุ่งผลักดันให้เกิดการมีส่วนร่วมของคนในสังคม ลดปัญหามลพิษอากาศที่ส่งผลกระทบสุขภาพคนในประเทศ https://www.nationtv.tv/news/378847969
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|