เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #6  
เก่า 13-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


น้ำท่วม : ชายผู้ออกแบบเมืองในจีนให้เป็น "ฟองน้ำยักษ์" รับมือน้ำท่วม


มณฑลเจ้อเจียง บ้านเกิดของ ศ.อวี๋ หลังปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ตามแนวคิด "ฟองน้ำยักษ์"

อวี๋ ข่งเจียน ยังจำเหตุการณ์ตอนที่เขาเกือบจมน้ำที่บ้านเกิดของเขาได้ดี

ตอนนั้นเขาอายุ 10 ขวบ หลังจากฝนตกหนักและน้ำทะลักจากแม่น้ำเข้ามาในที่นาที่หมู่บ้านเขา อยู่ดี ๆ แผ่นดินก็ทรุดลง ร่างเขาถูกพัดไปกับกระแสน้ำท่วม

ยังดีที่ต้นหลิวและต้นกกที่ปลูกริมน้ำช่วยชะลอความเร็วของกระแสน้ำไว้ได้

เขาบอกกับบีบีซีว่า ถ้าตลิ่งริมแม่น้ำถูกทำให้ราบเรียบด้วยคอนกรีตเหมือนปัจจุบัน เขาคงจมน้ำตายไปแล้ว

ประสบการณ์ครั้งนั้นส่งผลต่อตัวเขาอย่างมากและก็นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายเมืองของจีนด้วย

อวี๋ ข่งเจียน กลายมาเป็นนักออกแบบชุมชนเมืองคนสำคัญของจีน และเป็นคณบดีคณะสถาปัตยกรรมอันโด่งดังของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เขาเป็นนักออกแบบผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดการจัดการน้ำท่วมที่นำไปใช้ในหลายสิบเมืองของจีน

เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็น "เมืองฟองน้ำ" จะช่วยให้สามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่มีความเชื่อมโยงกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้


"อย่าสู้กับน้ำ"


สวนในเมืองเมืองเทียนจินซึ่งปรับเอาแนวคิดแบบ "เมืองฟองน้ำ" มาใช้ .............. ที่มาของภาพ,TURENSCAPE

ความคิดหลักของ ศ.อวี๋ คือให้เราโอบรับน้ำแทนที่จะไปรู้สึกเกรงกลัวมัน

วิธีการจัดการน้ำแบบปกติประกอบไปด้วยการสร้างท่อหรือที่ระบายเพื่อถ่ายน้ำออกไปให้เร็วที่สุด หรือไม่ก็เสริมความแข็งแกร่งของริมฝั่งแม่น้ำด้วยคอนกรีตเพื่อให้น้ำไม่ทะลักออกมา

แต่เมืองฟองน้ำเป็นการใช้วิธีตรงกันข้ามโดยใช้แบ่งกระบวนการออกเป็นสามขั้นตอนด้วยกัน

หนึ่ง สร้างบ่อน้ำหลายจุดเพื่อให้บริเวณต้นน้ำเหมือนมีฟองน้ำที่คอยดูดซับน้ำเอาไว้

สอง แทนที่จะระบายน้ำเป็นเส้นตรงให้เร็วที่สุด ให้สร้างคลองหรือแม่น้ำระบายน้ำที่คดเคี้ยว และปลูกพืชริมชายฝั่งเพื่อช่วยลดความเร็วของกระแสน้ำ เหมือนกับตอนที่เขารอดชีวิตมาได้เมื่อตอนเด็ก

ขั้นตอนนี้ยังทำให้เกิดผลพลอยได้คือทำให้เกิดพื้นที่สีเขียว สวนสาธารณะ และที่อยู่อาศัยของสัตว์เพิ่มขึ้น

สาม พาน้ำไปปล่อยที่ปลายทางซึ่งอาจจะเป็นแม่น้ำ ทะเลสาบ หรือทะเล โดย ศ.อวี๋แนะนำให้กันพื้นที่ลุ่มเหล่านี้ไว้สำหรับรองรับน้ำ ไม่ควรสร้างสิ่งก่อสร้างบริเวณดังกล่าว เพราะว่า "คุณไม่สามารถสู้กับน้ำได้ คุณต้องปล่อยมันไป"

ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อความยั่งยืน ดร.นีร์มาล คิชนานี จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ บอกว่า แม้มีการนำวิธีคิดที่คล้ายกันไปปรับใช้กับที่อื่น แต่เมืองฟองน้ำโดดเด่นตรงที่การให้กระบวนการตามธรรมชาติเป็นตัวแก้ปัญหาในเมืองนั้น ๆ

ศ.อวี๋ ได้แรงบันดาลใจหลายอย่างจากเทคนิคการทำไร่แบบโบราณ อาทิ การกักเก็บน้ำฝนในบ่อน้ำ ที่บ้านเกิดของเขาที่มณฑลเจ้อเจียงซึ่งอยู่ริมชายฝั่งทางตะวันออกของจีน ไอเดียเหล่านี้ทำให้บริษัทภูมิสถาปัตย์ Turenscape ของ ศ.อวี๋ ชนะมาหลายรางวัลแล้ว

"ไม่มีใครจมน้ำ แม้จะในหน้ามรสุม เราใช้ชีวิตอยู่กับน้ำ เราปรับตัวเข้ากับน้ำเวลาเกิดน้ำท่วม" ศ.อวี๋ เล่า

เขาเดินทางออกจากบ้านเกิดไปกรุงปักกิ่งตอนอายุ 17 ปี และเข้าเรียนด้านภูมิสถาปัตย์ในเวลาต่อมา ก่อนที่จะไปเรียนด้านการออกแบบที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

เมื่อเขาเดินทางกลับบ้านเกิดในปี 1997 จีนกำลังอยู่ในยุคที่ผู้คนเร่งสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ กันอย่างบ้าคลั่ง เขาเริ่มพยายามชักนำให้คนกลับมาใช้ปรัชญาออกแบบที่อิงแนวคิดดั้งเดิมของจีน เพราะไม่ชอบสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่ที่ "ทึมเทาและไร้ชีวิตชีวา"

ศ.อวี๋ บอกว่า เทคนิคด้านการออกแบบเมืองที่พัฒนาก้าวหน้าในประเทศยุโรปไม่สามารถปรับมาใช้กับเมืองในภูมิภาคนี้ที่ต้องเจอกับภูมิอากาศแบบมรสุม

นอกจากเขาจะวิพากษ์วิจารณ์ "เขื่อนสามผา" (ซานเสียต้าป้า - Three Gorges Dam) ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของจีนแล้ว การที่เขาเรียนจบและได้รับเสียงชื่นชมจากประเทศตะวันตกทำให้เขาโดนกล่าวหาว่าเป็นคนไม่รักชาติ เป็น "สายลับของชาติตะวันตก"

"ผมไม่ใช่ชาวตะวันตก ผมเป็นนักอนุรักษนิยมแบบจีน" ศ.อวี๋ กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา เขาบอกว่าชาวจีนมีประสบกาณ์ด้านนี้มาเป็นพัน ๆ ปี และพวกเขาต้องแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการแบบจีน

แต่แล้วเขาก็เอาชนะใจทางการได้สำเร็จ ในปี 2015 หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ออกมาให้การสนับสนุนแนวคิดนี้ รัฐบาลจีนประกาศริเริ่มโครงการมูลค่าหลายล้านหยวนที่ตั้งเป้าว่าภายในปี 2030 จะทำให้ 80% ของพื้นที่เทศบาลในจีนมีองค์ประกอบของเมืองฟองน้ำ และนำน้ำฝนกลับมาใช้ให้ได้ 70%


โครงการซึ่งออกแบบโดยบริษัท Turenscape ในเมืองไห่โข่ว มณฑลไห่หนาน ................ ที่มาของภาพ,TURENSCAPE

แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าเมืองฟองน้ำอาจรับมือได้แค่พายุฝนที่ไม่รุนแรงมากเท่านั้น ขณะที่สภาพอากาศทั่วโลกกำลังรุนแรงขึ้นอย่างสุดขั้ว

เฟธ ชาง ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการน้ำท่วมจากมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม หนิงโป ในจีน บอกว่า ต้องใช้โครงสร้างอย่างท่อและถังเก็บน้ำในการช่วยระบายน้ำควบคู่ไปด้วย

นอกจากนี้ เขาบอกว่าในเมืองที่มีผู้คนแออัดและที่ดินมีราคาสูง การจะหาพื้นที่ในการทำตามแนวคิดเมืองฟองน้ำก็อาจไม่ใช่เรื่องง่าย

แม้จีนจะลงเงินไปหลายล้านหยวน แต่ก็ยังเจอกับวิกฤตน้ำท่วมหนักอยู่

สหประชาชาติประเมินว่า น้ำท่วมหลายระลอกในช่วงฤดูร้อนที่แล้ว ทำให้ผู้คนในจีนเสียชีวิตไปเกือบ 400 ราย ส่งผลกระทบต่อคน 14.3 ล้านคน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจถึง 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ ศ.อวี๋ ยืนยันว่าภูมิปัญญาแบบจีนไม่ผิดและใช้ได้ผลแน่นอน เขายกตัวอย่างเหตุน้ำท่วมหนักที่เมืองเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนานเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาว่าเป็นเพราะบ่อน้ำในเมืองถูกถมไปและที่ต้นน้ำก็ไม่มีช่องทางให้ระบายน้ำมากพอเมื่อฝนเริ่มตก

นอกจากนี้ เขาบอกว่าช่องทางระบายน้ำจากแม่น้ำที่เป็นคอนกรีตทำให้น้ำไหลเร็ว และเมืองก็ดันไปสร้างสถานที่สำคัญ ๆ อย่างโรงพยาบาลบริเวณที่ลุ่มน้ำด้วย

ศ.อวี๋ เสริมว่า นอกจากจีนแล้ว ประเทศที่เสี่ยงน้ำท่วมอย่างบังกลาเทศ มาเลยเซีย อินโดนีเซีย ก็สามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ได้ และประเทศอย่างสิงคโปร์ สหรัฐฯ และรัสเซีย ก็ได้เริ่มโครงการที่มีแนวคิดคล้ายกันแล้ว

เขาบอกว่า หากทำตามแนวคิดนี้อย่างถูกต้อง เมืองต่าง ๆ จะใช้ทุนในการสร้างเพียง 1 ใน 4 ของเงินที่ใช้ลงไปกับวิธีรับมือน้ำท่วมที่ทำกันอยู่ เขายกตัวอย่างว่า การปลูกสิ่งก่อสร้างบนที่สูงและกันพื้นที่ลุ่มน้ำไว้ให้น้ำท่วม ใช้ต้นทุนต่ำกว่าการไปสร้างระบบท่อและถังกักเก็บน้ำเสียอีก

ศ.อวี๋ บอกว่า บริษัทของเขากำลังตั้งเป้าแก้ไขโครงสร้างในการจัดการกับน้ำท่วมของเมืองต่าง ๆ ที่ลงเงินกันไปหลายล้าน ทั้งที่จริง ๆ แล้วสามารถประหยัดงบประมาณก้อนโตนั้นได้หากออกแบบให้เมืองเป็นเมืองฟองน้ำตั้งแต่แรก

เขาบอกว่าการใช้โครงสร้างคอนกรีตจัดการกับปัญหาน้ำท่วมเป็นเหมือนการ "กินยาพิษเพื่อดับกระหายน้ำ ...เราต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตขอเราเพื่อปรับตัวเข้ากับสภาพภูมิอากาศ หากพวกเขาไม่ทำตามวิธีของผม พวกเขาจะต้องล้มเหลว"


https://www.bbc.com/thai/international-59253576

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:50


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger