สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ทช.ช่วยโลมาหลังโหนกโดนเชือกรัดโคนหาง

กรมทรัพยากรทางทะเล ลงพื้นที่หาดสำราญ จ.ตรัง ช่วยโลมาหลังโหนกโดนเชือกไซปูรัดโคนหาง ประสานเครือข่ายเฝ้าระวังสังเกตอาการ



เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง (ศวอล.) ว่าพบโลมาถูกเชือกพันรัดบริเวณโคนหาง ระหว่างออกสำรวจสัตว์ทะเลหายากด้วยวิธีการสำรวจทางเรือ บริเวณระหว่างหาดสำราญกับเกาะเหลาเหลียง ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง



จากการเข้าตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นโลมาหลังโหนก ความยาวประมาณ 2 เมตร อยู่ในช่วงวัยรุ่น ไม่ทราบเพศ มีบาดแผลเกิดจากถูกเชือกพันรัดบริเวณโคนหางลึกประมาณ 1 ซม. พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ ศวอล. ได้ทำการช่วยเหลือโลมาตัวดังกล่าว โดยการตัดเชือกที่พันรัดบริเวณโคนหางออกได้สำเร็จต่อมาได้ทำการติดตามและสังเกตอาการโลมาตัวดังกล่าวหลังจากทำการช่วยเหลือ พบว่าโลมายังสามารถว่ายน้ำและขึ้นมาหายใจได้ปกติ



นายโสภณ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามชาวประมงในพื้นที่ทราบว่าเชือกที่พันรัดบริเวณหางเป็นเศษเชือกไซปู ความยาวประมาณ 4 เมตร อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ศวอล. เร่งประสานงานร่วมกับเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายาก และชาวบ้านในพื้นที่ ติดตามเฝ้าระวังและสังเกตอาการของโลมาตัวดังกล่าวต่อไป


https://www.dailynews.co.th/news/768684/

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยโพสต์


คลื่นแรงซัดหินภูเขาไฟเต็มชายหาดสงขลาอีกรอบ ชาวบ้านแห่เก็บใช้เพาะปลูกพืช



15 ก.พ.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพพื้นที่ตามแนวชายหาดของจ.สงขลา หลายแห่งยังคงพบตะกอนหินขนาดเล็กคล้ายหินพัมมิช หรือที่เรียกว่าหินภูเขาไฟถูกคลื่นซัดขึ้นมากองอยู่บริเวณชายหาด ต่อเนื่องมากกว่า 1 สัปดาห์ เช่นบริเวณชายหาดชลาทัศน์

บางจุดยังเต็มไปด้วยหินภูเขาที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเต็มชายหาดเนื่องจากตอนนี้สภาพคลื่นลมยังมีกำลังแรงทำให้ซัดเอาหินภูเขาไฟขึ้นมาด้วย นอกจากนี้สภาพผืนน้ำทะเลริมชายฝั่งก็ยังมีหินภูเขาไฟลอยเป็นแพสีดำอยู่บนผิวน้ำอย่างชัดเจน



อย่างไรก็ตามสำหรับบริเวณพื้นที่ตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลาทั้งสองฝั่งซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งหาดชลาทัศน์และหาดแหลมสมิหลา ทางเทศบาลนครสงขลาได้ทำความสะอาดจัดเก็บหินภูเขาไฟเพื่อไม่ให้ชายหาดสกปรกกระทบกับการท่องเที่ยว

สำหรับหินภูเขาไฟที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาขณะนี้เริ่มมีชาวบ้านมาเก็บไปใช้ประโยชน์กันบ้างแล้วจากคุณสมบัติที่มีรูพรุนช่วยให้รากของพืชรับอาการได้ดี เก็บความชื้นได้ดี ไม่จับตัวเป็นก้อน ช่วยให้รากของพืชเดินได้ดีเหมาะกับพืชที่รากเน่าได้ง่าย แต่กรณีของหินภูเขาไฟใต้ทะเลที่พบนี้หากจะใช้ต้องน้ำไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้ความเค็มเจอจาง


https://www.thaipost.net/district-news/86031/

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


23 จังหวัดใช้แนวเขตทะเลชายฝั่งใหม่ ลดขัดแย้งประมงพื้นบ้าน

ครม.ผ่านร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง 23 จังหวัด ใช้แนวเขตใหม่เป็นเส้นตรงลากผ่านจุดพิกัด ลดปัญหาพื้นที่ประมงทับซ้อน



วันนี้ (15 ก.พ.2565) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง แยกเป็นรายจังหวัด 23 จังหวัด ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เพื่อให้ทราบถึงเขตทะเลชายฝั่งที่ชัดเจนและสามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการลดความขัดแย้งของชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่งให้อยู่ในภาวะที่สมดุลสามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน

สำหรับร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งแยกเป็นรายจังหวัด 23 จังหวัด ได้แก่ จ.กระบี่ ชลบุรี ตรัง ตราด พังงา ภูเก็ต ระนอง สตูล สุราษฎร์ธานี จันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และกรุงเทพมหานคร โดยกำหนดระยะแนวเขตทะเลชายฝั่งเป็น "เส้นตรงลากผ่านจุดพิกัด" จากเดิมที่กำหนดเป็น "เส้นโค้งเว้า"

ทั้งนี้ ในกรณีที่เขตทะเลชายฝั่งทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าตามกฎหมายว่าด้วยสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าหรือเขตอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติตามกฎหมายอื่นใด การทำการประมงหรือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่งนั้นต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดด้วย

นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเลิกการกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ.2560 กฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 และกฎกระทรวงกำหนดเขตทะเลชายฝั่ง (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563 เนื่องจากกฎกระทรวงฯ พ.ศ.2560 เป็นการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งของ 9 จังหวัดเป็นเส้นโค้งเว้า ซึ่งทำให้เกิดความไม่ชัดเจนและเป็นปัญหาสำหรับชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย และได้มีการปรับปรุงแนวเขตทะเลชายฝั่งและแผนที่ทะเลชายฝั่งใหม่เฉพาะ จ.ตราด และชลบุรี โดยออกเป็นกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 พ.ศ.2563 แต่ยังไม่ครอบคลุมจังหวัดอื่นที่ติดทะเล จึงมีความจำเป็นต้องยกเลิกร่างกฎกระทรวงทั้ง 3 ฉบับดังกล่าว

น.ส.รัชดา กล่าวว่า เนื่องจาก จ.ตราด ระนอง สตูล และนราธิวาส มีเขตแดนและเขตทางทะเล ประชิดกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมจึงให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของค่าพิกัดและแผนที่แสดงแนวเขตบริเวณที่กำหนดแนบท้ายกฎกระทรวงของจังหวัดดังกล่าวกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือด้วย


https://news.thaipbs.or.th/content/312711