เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 22-07-2022
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


จากอ่าวไทยถึงรัฐสภา : บันทึกเดินเรือทวงคืนน้ำพริกปลาทู .............. โดย Songwut Jullanan



ปลาทูเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่อยู่คู่ครัวไทยมานาน เพราะราคาถูก รสชาติอร่อย และเต็มไปด้วยสารอาหาร มันจึงช่วยเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนไทยมานานหลายชั่วอายุคน

แต่ปลาทูไทยวันนี้ไม่ได้มีราคาถูกและหาง่ายเหมือนดังแต่ก่อน ที่วางขายในตลาดหรือห้างร้านนับวันยิ่งตัวเล็กลง และส่วนมากนำเข้าจากต่างประเทศ

เมื่อเทียบปี 2557 และ 2562 ผลผลิตปลาทูไทยลดลงเกือบ 6 เท่า[1] และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ ที่เป็นเช่นนี้ เพราะเราปล่อยให้มีการทำประมงเกินขนาดและจับสัตว์น้ำวัยอ่อนโดยไร้การควบคุม

หลายปีที่ผ่านมา ชาวประมงพื้นบ้านจึงรวมตัวกันรณรงค์ให้หยุดซื้อ-จับ-ขาย สัตว์น้ำวัยอ่อน พวกเขาร่วมกันทำบ้านปลา ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน สร้างข้อตกลงในชุมชนไม่จับสัตว์น้ำบริเวณดังกล่าว สื่อสารวิกฤตครั้งนี้กับสังคม หรือแม้กระทั่งเดินทางมายื่นหนังสือต่อห้างร้านในกรุงเทพฯ เพื่อขอความร่วมมือให้หยุดรับซื้อสัตว์น้ำวัยอ่อน

"ปัจจุบันมีการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนมากขึ้น ทำให้ประมงพื้นบ้านที่เป็นประมงขนาดเล็ก ที่จับปลาตัวใหญ่ได้ผลกระทบโดยตรง รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องซื้ออาหารทะเลในราคาที่แพงขึ้น การรณรงค์ในเรื่องของการห้ามซื้อห้ามขายสัตว์น้ำวัยอ่อนทั่วกรุงเทพฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความมั่นคงทางอาหารในอนาคต" ปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เล่าให้เราฟังขณะรอยื่นหนังสือต่อห้างสรรพสินค้าให้หยุดรับซื้อสัตว์น้ำวัยอ่อน

ความพยายามเหล่านี้ช่วยสร้างความตระหนักในกลุ่มผู้บริโภคและชาวประมงในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ ปิยะมองว่า มาตรการควบคุมจากภาครัฐเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

แต่ตลอดเวลาที่ชาวประมงร่วมกันรณรงค์ ภาครัฐกลับไม่มีส่วนร่วมในการผลักดันและควบคุมการจับสัตว์น้ำวัยอ่อน แม้จะมี "กุญแจ" สำคัญอยู่ในมือ

กุญแจสำคัญที่ว่า คือพระราชกําหนดการประมง พ.ศ. ๒๕๕๘ มาตราที่ 57 ซึ่งระบุว่า "ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ําหรือนําสัตว์น้ําที่มีขนาดเล็กกว่าที่รัฐมนตรีประกาศกําหนดขึ้นเรือประมง" แต่มันกลับไม่เคยถูกนำมาใช้เปิดทางออกจากวิกฤต กฎหมายข้างต้นไม่เคยถูกนำมาบังคับใช้

ชาวประมงพื้นบ้านจาก 23 จังหวัดจึงรวมตัวกันจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ "ทวงคืนน้ำพริกปลาทู"

ซึ่งแสดงถึงความพยายามปกป้อง "ปลาทู" ตัวแทนความมั่นคงทางอาหาร วัฒนธรรม และทรัพยากรทางธรรมชาติที่กำลังจะสูญหายไป

พวกเขาออกเดินทางจากหาดปัตตานีวันที่ 27 พฤษภาคม มุ่งหน้าสู่สัปปายะสถานรัฐสภา กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลให้เริ่มบังคับใช้กฎหมายควบคุมการจับสัตว์น้ำวัยอ่อน และประกาศมาตรการเพื่อแก้ไขวิกฤต โดยระหว่างทางนักกิจกรรมได้หยุดตามชุมชนชายฝั่ง เพื่อพูดคุยถึงปัญหาสัตว์น้ำวัยอ่อน และทำกิจกรรมกับท้องถิ่นเพื่อสื่อสารปัญหาออกสู่สาธารณะ

ระยะทางกว่าพันกิโลเมตรที่นักกิจกรรมขึ้นรถลงเรือ ผ่านแดดฝ่าฝน กระทั่งในวันที่ 8 มิถุนายน ซึ่งตรงกับวันมหาสมุทรโลก ขบวน "ทวงคืนน้ำพริกปลาทู" ได้ล่องมาถึงท่าเรือหลังรัฐสภา และเดินเท้าต่อเพื่อเข้ายื่นหนังสือภายในรัฐสภา

วิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย และเป็นหนึ่งในแกนนำกิจกรรมครั้งนี้ อธิบายว่า จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาทูกลายเป็นอาหาร "หรู" ที่คนบางกลุ่มเท่านั้นมีโอกาสได้ทาน

"อาหารทะเลซึ่งควรเป็นอาหารที่คนไทยทุกคนควรเข้าถึงได้ง่าย แต่กลับแพงขึ้น เข้าถึงได้ยากขึ้น กลุ่มคนที่ถึงอาหารทะเลคุณภาพดีมีน้อยลง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ทะเลไทยเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ เลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนไทยมาเป็นเวลานาน เราตั้งใจเดินทางมาครั้งนี้ ระยะทางกว่าพันกิโลเมตร กินเวลาเป็นสิบ ๆ วัน เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าวิกฤตครั้งนี้ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะจากภาครัฐซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการออกมาตรการและบังคับใช้กฎหมาย"

ภาพของเรือประมงลำเล็กที่ล่องอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีฉากหลังเป็นรัฐสภา แสดงถึงความกล้าหาญของชาวประมงซึ่งลุกขึ้นพูดความจริงต่ออำนาจเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และบ้านเกิดของตน

แม้กิจกรรมจะสิ้นสุดลง แต่การเดินทางครั้งนี้ได้ช่วยยกระดับความเข้าใจต่อวิกฤตอาหารทะเลไทยในปัจจุบัน และสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับอุตสาหกรรมประมงทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี เป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้วหลังจากรัฐบาลรับหนังสือเรียกร้องและตกปากรับคำว่าจะมีมาตรการในการปกป้องสัตว์น้ำวัยอ่อน แต่จวบจนวันนี้ (22 กรกฎาคม 2565) ยังไม่มีมาตรการใดๆออกมา ขณะที่ชาวประมงขีดเส้นตาย 60 วัน ก่อนจะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง


https://www.greenpeace.org/thailand/...hai-mackerels/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger