![]() |
|
|
|
#1
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
นักวิจัยเผย โลกร้อนขึ้น 1 องศาเซลเซียส ทำให้ฝนตกหนักขึ้น 15% นักวิจัยหลายคนกล่าวว่า ภาวะโลกร้อนทำให้ฝนตกหนักขึ้น ตามระดับความสูงที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประชากรราว 2,000 ล้านคน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขา หรือปลายน้ำที่ไหลจากภูเขา มีความเสี่ยงที่จะเผชิญอุทกภัยและดินถล่มมากขึ้น ![]() สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า รายงานในวารสาร Nature ระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุกองศาเซลเซียส จะเพิ่มความหนาแน่นของฝนตกหนักขึ้น 15% ที่ระดับความสูงมากกว่า 2,000 เมตร และความสูงที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1,000 เมตร จะเพิ่มปริมาณน้ำฝนอีก 1% หรืออีกนัยหนึ่งคือ หากโลกร้อนขึ้น 3 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม มันจะมีความเป็นไปได้ของการเกิดอุทกภัยที่รุนแรงกว่าเดิมเกือบครึ่งหนึ่ง ผู้เขียนรายงานกล่าวเตือนว่า การค้นพบดังกล่าวเน้นย้ำถึงความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐาน ที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรง ขณะที่รายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาล ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ (ไอพีซีซี) ระบุเสริมว่า จากแนวโน้มในปัจจุบัน โลกจะร้อนขึ้น 2.8 องศาเซลเซียส ภายในสิ้นศตวรรษนี้ งานศึกษาชิ้นใหม่ ซึ่งอ้างอิงจากข้อมูลในช่วง 70 ปีที่ผ่านมา และการประมาณการตามแบบจำลองสภาพอากาศ พบปัจจัยขับเคลื่อนหลัก 2 อย่าง ที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นในเหตุการณ์ฝนตกหนักบนพื้นที่สูง ในโลกที่ร้อนขึ้น โดยประการแรกคือ การมีน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์รู้มานานแล้วว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทุก ๆ 1 องศาเซลเซียส จะเพิ่มปริมาณความชื้นในชั้นบรรยากาศได้ถึง 7% ทว่าปัจจัยประการที่สองนั้นน่าประหลาดใจยิ่งกว่า เพราะนักวิจัยต้องดูว่าเหตุการณ์นั้นเป็นฝนตกหนัก หรือหิมะตกหนัก เนื่องจากน้ำฝนทำให้เกิดการไหลบ่าอย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่ความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุทกภัย, ดินถล่ม และการพังทลายของดิน อนึ่ง พื้นที่ภูเขา และที่ราบน้ำท่วมถึงที่อยู่ติดกัน มีแนวโน้มที่จะประสบกับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากฝนตกหนัก ทั้งบริเวณในและรอบ ๆ เทือกเขาหิมาลัย และเทือกเขาฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ของทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ควรเตรียมแผนการปรับตัวด้านสภาพอากาศที่มั่นคง "พวกเราจำเป็นต้องพิจารณาถึงการเพิ่มขึ้นของเหตุการณ์ฝนตกหนัก ในการออกแบบและสร้างเขื่อน, ทางหลวง, ทางรถไฟ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ หากเราต้องงการทำให้แน่ใจว่า สิ่งเหล่านั้นจะคงอยู่อย่างยั่งยืนในสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น" นายโมฮัมเหม็ด ออมบาดี นักวิจัย และผู้เขียนนำของรายงาน กล่าว https://www.dailynews.co.th/news/2486329/
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
#2
|
||||
|
||||
|
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการ
ตัวที่ 6 ของปี พะยูนตายในทะเลกระบี่ กระบี่ - ตัวที่ 6 ของปี เศร้า! พบพะยูนเพศเมียขนาดโตเต็มวัย ตายลอยติดชายหาด ทับแขก ต.หนองทะเล จ.กระบี่ ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ ส่งซากให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อวินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัดต่อไป ![]() เมื่อเวลา 11.40 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) นางรักชนก แพน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ พพ.4 (ทับแขก) ว่า พบซากพะยูน เพศเมีย น้ำหนักประมาณ 140 กิโลกรัม ความยาว 204 เซนติเมตร ลอยตายอยู่บริเวณหน้าหาดทับแขก อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาสดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี หลังรับแจ้งจึงส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น สภาพซากยังสมบูรณ์ ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์บริเวณภายนอก มีเพียงรอยแผลถลอก เป็นแผลตื้นจากการโดนโขดหิน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายซากพะยูนมาไว้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อมอบซากพะยูน ให้ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อนำซากไปวินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัดต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลพบว่าปีนี้พบพะยูนตาย ในทะเลกระบี่ พบที่เกาะลันตา เกาะศรีบอหยา อำเภอเหนือคลอง ตำบลเขาคราม และตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ รวมแล้ว จำนวน 6 ตัว มีทั้งลูกพะยูน และพะยูนโตเต็มวัย https://mgronline.com/south/detail/9660000059183
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
![]() |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
| เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|