เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


กำแพงกันคลื่น จำเป็นหรือ? รับมือการกัดเซาะชายฝั่งแบบไหนไม่ทำร้ายธรรมชาติ


SHORT CUT

- จากการศึกษาพบว่าหาดทรายกำลังหายไปเรื่อยๆ จากโครงสร้างของกำแพงกันคลื่น

- บันไดหรือกำแแพงกันคลื่นอาจส่งผลกระทบกับระบบนิเวศทางทะเล

- การป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ตั้งกำแพงกันคลื่นแบบทุ่นลอย หรือปลูกหญ้าทะเล




จากข่าวหาดวอนนภา บางแสนเปลี่ยนไปได้ถูกแทนที่ด้วยกำแพงกันคลื่นหรือบันได้กันคลื่น เพื่อกันน้ำทะเลเซาะตลิ่ง ทำให้ความสวยงามตามธรรมชาติหายไปและอาจเป็นอันตรายแต่นักท่องเที่ยวเพราะความลื่นที่อาจเกิดจากตะไคร่น้ำอีกด้วย

กำแพงกันคลื่นหรือบันไดกันคลื่นที่ชายหาดวอนนภา บางแสน และกำแพงกันคลื่นในอีกหลายที่กำลังถูกต้องข้อสงสัย ถึงความจำเป็น และอาจเป็นสิ่งก่อสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย แล้วจะมีทางออกอื่นที่ดีกว่ามั้ยในการรับมือกับการกัดเซาะกับชายฝั่ง นอกจากกำแพงกันคลื่นที่อาจส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและอันเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยว


หรืออนาคตชายหาดอาจถูกแทนที่ด้วยกำแพงกันคลื่น?

หาดวอนนภา บางแสน ชายหาดอันสวยงามและเป็นที่นิยมกับนักท่องเที่ยว ตอนนี้หาดบางส่วนกำลังถูกแทนที่ด้วยกำแพงกันคลื่นหรือบันไดกันคลื่น ที่จะมาทำหน้าที่ป้องกันน้ำทะเลเซาะชายฝั่ง โดยจะมีการก่อสร้างเป็นแนวยาวตั้งแต่ช่วงต้นหาด ส่วนที่สร้างเสร็จแล้วจะมีลักษณะคล้ายขั้นบันได อาจทำให้ลงเล่นน้ำทะเลลำบาก อาจเกิดอุบัติเหตุจากลื่นล้มจากตะไคร่น้ำได้ นักท่องเที่ยวควรระวัง และในช่วงน้ำขึ้นจะมองไม่เห็นชายหาดต้องรอน้ำลด นอกจากนี้บันไดกันคลื่นอาจส่งผลกระทบกับระบบนิเวศทางทะเลได้


กำแพงกันคลื่นอาจทำให้ชายหาดหายไป

กำแพงกันคลื่นหรือบันไดกันคลื่น มีขึ้นเพื่อประโยชน์ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ช่วยป้องกันที่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยไม่ให้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะ ในบางประเทศอาจใช้กำแพงกันคลื่นในรูปแบบแนวหิน แต่จากการศึกษาพบว่าหาดทรายกำลังหายไปเรื่อยๆ จากโครงสร้างของกำแพงกันคลื่น

อธิบายได้จากปรากฏการณ์การเคลื่อนที่ของคลื่น เมื่อคลื่นเคลื่อนที่จากเขตน้ำลึกเข้าสู่เขตน้ำตื้น คลื่นจะสูญเสียพลังงานไประหว่างการเคลื่อนที่ เนื่องจากแรงเสียดทานของพื้นทราย ทำให้อัตราเร็วและยาวของคลื่นลดลง คลื่นจึงยกตัวขึ้นก่อนจะแตกสลายบริเวณหาดทราย แต่เมื่อมีโครงสร้างที่แข็งมาขวางกั้น คลื่นที่ซัดเข้ากับโครงสร้างแข็งจะเกิดการสะท้อนกลับ ทำให้ตะกอนที่ฐานของโครงสร้างถูกกัดเซาะออก


วิธีป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งส่งผลกระทบกับผู้คนในพื้นที่ และจริงอยู่ที่กำแพงกันคลื่น บันไดกันคลื่นเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ แต่ก็มีอีกหลายวิธีในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันมีวิธีรักษาหาดทรายที่เป็นมิตรขึ้นหลายวิธี เช่น

- กำหนดระยะถอยร่น (Setback) เพื่อแบ่งเขตชุมชนและเขตหาด
- ทำแนวรั้วดักทราย (Sand facing)
- ติดตั้งกำแพงกันคลื่นแบบทุ่นลอย (Floating breakwater)
- กำแพงกันคลื่นแบบรูพรุนเล็ก (Small porous breakwater)
- การปลูกหญ้าทะเล (Seagrass building)

นอกจากนี้ยังมีนักพัฒนาเกี่ยวกับพลังงานคลื่น และพลังงานน้ำขึ้นน้ำลง ได้คิดค้นการผสมผสานโครงสร้างบรรเทาการกัดเซาะชายฝั่งและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเข้าด้วยกัน เป็นกำแพงกันคลื่นใต้น้ำติดตั้งใบพัดผลิตไฟฟ้าด้วย


ที่มา : คลังความรู้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง / Beach for life / นิตยสารสาระวิทย์


https://www.springnews.co.th/keep-th...ronment/848175

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-03-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


เมื่อโลกร้อนขึ้น ปลาจึงมีขนาดเล็กลง จริงหรือ ?


SHORT CUT

- ทฤษฎีวิวัฒนาการถูกท้าทายอีกครั้ง เมื่อการศึกษาพบว่า ปลาสามารถปรับตัวให้เล็กลงได้ (ใช้เวลาไม่นาน)

- "ปลาเทราต์" ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง จะปรับตัวให้เล็กลง ศึกษาจากลูกปลาเทราต์น้ำหนัก 1 - 2 กรัม

- "ปัญหาโลกร้อน" กับการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ควรมีการศึกษาอย่างจริงจังและแพร่หลาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบที่ตามมา



การศึกษาใหม่พบ ปลาเทราต์ในน้ำอุณหภูมิสูง ปรับลดขนาดตัวเองลง เพื่อให้อยู่รอดจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เรื่องราวเป็นอย่างไรติดตามได้ที่นี่

ได้ยินกันมาเนิ่นนานว่า สัตว์จะปรับเปลี่ยนร่างกายเพื่อให้อยู่รอดตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ซึ่งกินระยะเวลาหลายล้านปีจากระบบวิวัฒนาการ ทว่า แนวคิดนี้กำลังถูกท้าทายอีกครั้ง...


เมื่อโลกร้อนขึ้น ปลาจึงมีขนาดเล็กลง จริงหรือ?

เว็บไซต์ Earth นำเสนอการศึกษาเรื่องผลกระทบของโลกร้อน โดยเผยว่า อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น มีส่วนทำให้มีขนาดเล็กลง โดยการศึกษาดังกล่าวเป็นการร่วมมือกันของนักวิจัย National Oceanic and Atmospheric Administration และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส

ปลาที่ว่านี้คือ "ปลาเทราต์" (Trout) โดยทีมผู้วิจัยทดลองข้อสันนิษฐานดังกล่าว ด้วยการศึกษาลูกปลาเทราต์ ซึ่งมีน้ำหนักตัวระหว่าง 1 ถึง 2 กรัม โดยถูกแช่อยู่ในถังน้ำที่มีอุณหภูมิ 15 องศาเซลเซียส และถังที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส

หลังจากนั้นผู้วิจัยก็เริ่มเก็บข้อมูลการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียด การทดลองกินระยะเวลาเกือบครึ่งปี เฝ้าดูน้ำหนัก ขนาด ปริมาณออกซิเจน อัตราการเผาผลาญ จากนั้นนำมาเทียบกันว่าปลาเทราต์จากน้ำต่างอุณหภูมิมีการปรับตัวแตกต่างกันอย่างไร

ผลการศึกษาพบว่า ปลาเทราต์ที่อาศัยอยู่ในถังที่อุณหภูมิสูงกว่ามีขนาดเล็กลง ในความหมายคือโตช้ากว่าปลาที่อยู่อีกถัง ซึ่งการปรับตัวของปลาในลักษณะนี้ ชี้ให้เห็นว่า ปลาเทราต์มีการปรับขนาดตัวจริง ๆ ยามที่ต้องอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง


ควรต่อยอดการศึกษาเพิ่มพูลความรู้โลกเดือด

ทั้งนี้ แม้แต่ Joshua Lonthair อาจารย์ด้านชีววิทยาและผู้ศึกษางานวิจัยชิ้นนี้ ก็ยังไม่มั่นใจนักเกี่ยวกับเกี่ยวปรับลดขนาดตัวของปลาและความเชื่อมโยงเรื่องอุณหภูมิน้ำ โดยเจ้าตัวเผยว่า

"เรา (ทั้งโลก) ทราบกันดีว่า โลกกำลังเจอกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ผืนน้ำกำลังระอุกว่าในอดีต สัตว์น้ำหลายชนิดลดขนาดลง แม้จะมีการวิจัยกันมาแล้วหลายสิบปี ทว่าเราก็ยังไม่เข้าใจขนาดนั้นว่าทำไมพวกมัน (สัตว์) ถึงลดขนาดตัวเองลง เมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้น"

"มีปัจจัย (ที่เป็นไปได้) หลายประการที่ส่งผลต่อการปรับขนาดตัวเองของปลา เราต้องช่วยกันทำการศึกษามากกว่านี้ เพื่อในที่สุดเราจะได้เข้าใจมากขึ้นว่า ปลามีวิธีปรับตัวให้เข้ากับโลกที่ร้อนขึ้นอย่างไรกันแน่" ลอนแฮร์ กล่าว

ทั้งนี้ นี่เป็นเพียงการศึกษาหนึ่งที่สนใจ ศึกษา และนำเสนอให้เห็นว่าอุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นส่งผลให้ปลาปรับลดขนาดตัวเองลงจริง ๆ แต่ก็มีคำถามอยู่ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นกับปลาชนิดอื่น ๆ หรือไม่ กระทั่งสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ

สำหรับใครที่สนใจ SUS-TREND เทรนด์ความยั่งยืนกู้โลก สามารถติดตามงาน Special Talk : Climate Action Trend 2024 การขับเคลื่อนนโยบาย สู้ภาวะโลกรวน อย่างยั่งยืน จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และวิทยากรระดับแถวหน้าแสดงวิสัยทัศน์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วันที่ 11 มีนาคม 2567 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท


ที่มา: Earth.com


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/848204

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:02


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger