เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 04-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


ทำความรู้จัก แนวปะการัง บ้านหลังสำคัญใต้ท้องทะเล ที่กำลังพ่ายให้โลกเดือด!



สปริงชวนทุกคนทำความรู้จัก บ้านหลังสำคัญแห่งโลกใต้ทะเลที่เรียกว่า "แนวปะการัง" ทำไมถึงสำคัญต่อระบบนิเวศ เกิดขึ้นได้ยังไง พบได้ที่ไหน ปัจจุบัน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำร้ายพวกมันไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว ติดตามได้ที่บทความนี้

ขณะนี้ ท้องทะเลสีครามกำลังเกิดสงครามที่เรียกว่า "ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว" หรือ Coral bleaching จากแนวปะการังที่เคยสวยอร่ามงามตา อุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด ปัจจุบัน หากดำน้ำลงไป คุณอาจเห็นพวกมันกลับกลายเป็นสีขาวแล้ว ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย...

สปริงถือโอกาสนี้ชวนทุกคนทำความรู้จัก "แนวปะการัง" เกิดจากอะไร เมื่อชำแหละลึกลงไปแล้วเราจะพบกับสิ่งมีชีวิตใดบ้าง ปัจจุบันแนวปะการังในไทยอยู่ที่แหล่งใดบ้างในประเทศไทย และตบท้ายกันไปด้วยผลพวงของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นตัวการทำให้เกิดปะการังฟอกขาว


แนวปะการังเกิดได้ยังไง?

ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุนิยามของแนวปะการังไว้ว่า แนวปะการังเกิดจากการร่วมกลุ่มกันของแนวปะการัง กระทั่งเกิดเป็นแนวหินปูนใต้ท้องทะเล สามารถพบได้ที่บริเวณน้ำตื้นตามชายฝั่ง

แนวปะการังถือเป็นระบบนิเวศที่สำคัญมาก ในแง่ของการเป็นที่อิงอาศัยให้กับสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ปลาเล็กปลาน้อยต่างใช้แนวปะการังเป็นที่หลบภัย เหมือนที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์เรื่อง Finding Nemo นั่นแหละ


แนวปะการังประกอบไปด้วยสิ่งมีชีวิตใดบ้าง?

1. สาหร่าย (algae)

2. หญ้าทะเล (seagrass)

3. ฟองน้ำ (sponge)

4. ปะการังอ่อน (soft coral)

5. กัลปังหา และแส้ทะเล (sea fan and sea whip)

6. ดอกไม้ทะเล (sea anemone)

7. หนอนทะเล (Polychaete)

8. หอยและหมึก (molluse)

9. ครัสเตเชียน (crustacean) เช่น กุ้ง ปู

10. สัตว์ที่มีผิวหนังเป็นปุ่ม (echinoderm) เช่น เม่นทะเล ปลิงทะเล ดาวทะเล

11. เพรียงหัวหอม (ascidians)

12. ปลา (fish)


แนวปะการังพบได้ที่จังหวัดใดบ้าง?

เว็บไซต์ ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล ได้ฉายให้เห็นภาพรวมแนวปะการังไทยไว้อย่างละเอียด โดยระบุว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ปะการังทั้งสิ้น 149,182 ไร่ พบปะการังทั้งหมด 18 วงศ์ 71 สกุล 273 ชนิด โดยปะการังชนิดที่เด่นที่สุดได้แก่ ปะการังโขด (Porites lutea) ปะการังเขากวาง (Acropora spp.)

ปัจจุบัน สามารถพบแนวปะการังได้ทั้งหมด 17 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจังหวัดฝั่งทะเลอันดามันมีแนวปะการังทั้งหมด 73,756 ไร่ และฝั่งอ่าวไทยมีทั้งสิ้น 75,426 ไร่ โดยจังหวัดที่พบแนวปะการังมากที่สุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี 35,982 ไร่ และแนวปะการังที่ดูจะมีปัญหามากที่สุดอยู่ที่ ตราดและพังงา


จังหวัดที่มีแนวปะการังมีทั้งหมด 17 จังหวัด ดังนี้

1. ตราด
2. จันทบุรี
3. ระยอง
4. ชลบุรี
5. ประจวบคีรีขันธ์
6. ชุมพร
7. สุราษฎร์ธานี
8. นครศรีธรรมราช
9. สงขลา
10. ปัตตานี
11. นราธิวาส
12. ระนอง
13. พังงา
14. ภูเก็ต
15. กระบี่
16. ตรัง
17. สตูล


ทะเลไทยกำลังเดือดเหมือนแช่อยู่ในออนเซ็น

อย่างไรก็ดี ไทย "เคย" เป็นพื้นที่ซึ่งมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันดูจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว เพราะปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ท้องทะเลเดือด

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยผ่านเฟสบุ๊ค Thorn Thamrongnawasawat ว่า ขณะนี้น้ำทะเลไทยเดือดเหมือนแช่อยู่ในออนเซน

"ผมลงดำน้ำดูปะการังฟอกขาวตั้งแต่ปี 2534 ถือเป็นครั้งแรกที่ปะการังฟอกขาวในทะเลไทยที่ถูกบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ"

"หนที่หนักที่สุดคือช่วงปี 2541 ปะการังเขากวางที่อ่าวไทยตายเกือบทั้งอ่าว และบางแห่งยังไม่ฟื้นคืนกลับมาเลย"

"ปัญหาคือปีนี้น้ำยังร้อนจัดต่อไป ฟ้ายังใสแดดยังแรงฝนยังไม่มา หากเป็นแบบนี้ อีก 7-8 วัน ปะการังภาคตะวันออกจะเข้าจุดพีค และถ้าฝนยังไม่มาอีก ความตายครั้งใหญ่จะมาเยือนทะเลไทย"

"ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว 2567 ยังไม่จบ เพิ่งเริ่มเท่านั้น ฟอกขาว 30% วันนี้ อีก 5-6 วันอาจกลายเป็น 80-90%"

ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย มันใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด...


ที่มา: กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ระบบเตือนภัยท่องเที่ยวทางทะเล


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/850008
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 04-05-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก SpringNews


โลกเหลือเวลา 5 ปี 2 เดือน แก้วิกฤตโลกเดือด ก่อนไม่สามารถหวนกลับไปแก้ไขได้ .............. โดย SUTHEEMON KUMKOOM


SHORT CUT

- Carbon Clock หรือ นาฬิกาคาร์บอน ชี้ มนุษย์เหลือเวลา 5 ปี 2 เดือน แก้วิกฤตโลกเดือด ก่อนที่โลกจะแตะ 1.5 องศาเซลเซียส

- ข้อมูลในนาฬิกาคาร์บอนอ้างอิงมาจากข้อมูลจริงโดย IPCC

- หากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกแตะ 1.5 องศาเซลเซียส วิกฤตสภาพภูมิอากาศจะอยู่ในจุดที่ไม่สามารถหวนกลับไปแก้ไขได้




โลกไม่มีวันหวนคืนได้อีกแล้ว Carbon Clock เผยว่า มนุษย์เหลือเวลาอีกเพียง 5 ปี 2 เดือนเท่านั้น ในการแก้วิกฤตโลกเดือด ให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส

นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ถ้าหากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกแตะ 1.5 องศาเซลเซียส โลกจะตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตด้านสภาพภูมิอากาศที่ไม่อาจหวนกลับมาแก้ไขได้อีกแล้ว

Carbon Clock หรือนาฬิกาคาร์บอน ถูกสร้างขึ้นโดย Mercator Research Institute on Global Commons and Climate Change หรือ สถาบันวิจัยสิ่งมีชีวิตและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจากประเทศเบอร์ลิน ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ได้รับข้อมูลและการตรวจสอบจากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) แล้ว

โดยมีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าโลกเหลือความสามารถในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศได้มากเพียงใด และมีการจำลองว่า หากคาร์บอนที่ปล่อยออกไปจำนวนมากนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ นาฬิกาจะคำนวนว่า มนุษยชาติเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ จึงจะทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกแตะ 1.5 องศาเซลเซียส และ 2 องศาเซลเซียส

ซึ่งจากตัวเลขล่าสุด การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะแตะ 1.5 องศาเซลเซียสได้นั้น มนุษย์เหลือเวลาอีกเพียง 5 ปี 2 เดือน 18 วันเท่านั้น นอกจากนี้มนุษย์ก็ยังเหลือเวลาอีกแค่ 22 ปี 11 เดือน 27 วันเท่านั้น ในการทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกแตะ 2 องศาเซลเซียส

หากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกแตะ 1.5 องศาเซลเซียส จะทำให้โลกเดินทางมาถึงจุดผลิกผันด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate tipping points) ที่ไม่สามารถหวนคืนไปแก้ไขได้ หรือกลับมาเป็นแบบเดิมได้ อาทิ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สัตว์หลายชนิดล้มตายและสูญพันธุ์ ปะการังตายหมู่ พายุรุนแรงขึ้น สภาพอากาศแปรปรวนรุนแรง เดี๋ยวร้อนจัดหนาวจัด และระบบนิเวศที่ล่มสลาย ไปจนถึงกระทบกับมนุษย์ทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ทรัพยากรที่ใช้ในชีวิตประจำวัน การเจ็บป่วย และความล้มเหลวของระบบการบริหารและการใช้ชีวิตทุกด้าน

อย่างไรก็ตาม นาฬิกาคาร์บอน (Carbon Clock) นี้อ้างอิงการจำลองมาจากข้อมูลจริง เพื่อแสดงให้มนุษยชาติเห็นว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือภาวะโลกเดือดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ควรช่วยกันแก้ไขขนาดไหน

ที่มาข้อมูล MCC


https://www.springnews.co.th/keep-th...-change/850014

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:21


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger