เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 28-07-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ฟิลิปปินส์เตือน เชื้อเพลิงเริ่มรั่วจากเรือบรรทุกน้ำมัน ล่มในอ่าวมะนิลาแล้ว

หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ตรวจพบว่า เชื้อเพลิงอุตสาหกรรม 1.4 ล้านลิตรบนเรือบรรทุกน้ำมัน ที่ล่มในอ่าวมะนิลา เริ่มรั่วไหลออกมาบ้างแล้ว



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หน่วยยามฝั่งของประเทศฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันเสาร์ที่ 27 ก.ค. 2567 ว่า น้ำมันเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม 1.4 ล้านลิตรที่เรือบรรทุกน้ำมัน เอ็มที เทอร์รา โนวา (MT Terra Nova) ขนมา ก่อนจะอับปางในอ่าวมะนิลาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานั้น เริ่มรั่วไหลออกมาบ้างแล้ว

เอ็มที เทอร์รา โนวา อับปางกลางทะเลท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายเพราะของพายุมรสุมซึ่งรุนแรงจากอิทธิพลของไต้ฝุ่น แคมี ที่เคลื่อนตัวผ่านฟิลิปปินส์ไปก่อนหน้านั้น ทำให้ลูกเรือเสียชีวิต 1 ศพ ส่วนอีก 16 คนได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัย แต่แดนตากาล็อกกำลังเผชิญกับความเสี่ยงเกิดหายนะน้ำมันรั่วครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศ

หลังจากเรือล่มและจมทะเลเมื่อวันพฤหัสบดี หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ตรวจพบคราบน้ำมันกระจายตัวกินพื้นที่ประมาณ 3.7 กม. ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลของเรือที่รั่วออกมา ไม่ใช่เชื้อเพลิงอุตสาหกรรมที่เป็นสินค้า

อย่างไรก็ตาม ในวันเสาร์ คราบน้ำมันดังกล่าวขยายตัวมากกว่า 3 เท่าจนครอบคุลมพื้นที่ 12-14 กม. ในอ่าวมะนิลา ซึ่งชาวประมงและธุรกิจท่องเที่ยวจำนวนมากของฟิลิปปินส์ต้องพึ่งพาเพื่อหาเลี้ยงชีพ

พลเรือตรี อาร์มันโด บาลิโล โฆษกหน่วยยามฝั่งเปิดเผยว่า นักประดาน้ำที่ถูกส่งลงไปตรวจสอบตัวเรือ พบเห็นการรั่วไหล "เล็กน้อย" จากวาล์ว แต่ยังไม่อยู่ในระดับที่น่ากังวล และพวกเขาหวังว่า จะสามารถเริ่มการถ่ายเทน้ำมันออกจากเรือลำนี้ได้ในวันอาทิตย์นี้ โดยคาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 7 วันจึงจะเสร็จสิ้น

อนึ่ง เรือ เอ็มที เทอร์รา โนวา อับปางห่างจากเมืองท่าลิเมย์ ทางตะวันตกของกรุงมะนิลา เพียง 7 กม. และจมอยู่ใต้ทะเลที่ความลึก 34 ม.เท่านั้น ซึ่งหน่วยยามฝั่งเคยเตือนก่อนหน้านี้ว่า หากน้ำมันอุตสาหกรรม 1.4 ล้านลิตรบนเรือลำนี้รั่วไหลออกมาทั้งหมด มันจะทำให้เกิดหายนะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง

ฟิลิปปินส์เคยเผชิญเหตุน้ำมันรั่วกลางทะเลมาแล้ว โดยเมื่อปีก่อน เรือบรรทุกน้ำมันขนเชื้อเพลิงอุตสาหกรรม 800,000 ลิตร ล่มนอกชายฝั่งเกาะมินดาเนา ทำให้น้ำมันรั่วไหลเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำทะเลกับชายหาดปนเปื้อน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการประมงและการท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกหลายเดือนกว่าจะกำจัดคราบน้ำมันได้ทั้งหมด

ที่มา : cna


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2803751

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 28-07-2024
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


สำรวจพบพะยูน-เต่าทะเล-โลมา สมบูรณ์ "ปิ่นสักก์" ใช้อากาศยานปีกตรึงบินทั่วอันดามัน



ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเพิ่มขึ้นและลดลงของจำนวนสัตว์ทะเลหายากที่นับวันใกล้สูญพันธุ์ไปจากท้องทะเลไทย จึงมอบหมายให้ ทช.ติดตามสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันพร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสำรวจให้ได้มากที่สุด รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัด ตนจึงได้สั่งการให้ทีมนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญของ ทช.ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน สำนักงานปลัด ทส. กรมอุทยานฯ และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด ออกสำรวจการแพร่กระจายสัตว์ทะเลหายากบริเวณพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน อาทิ จ.สตูล กระบี่ พังงา ภูเก็ต และระนอง ด้วยวิธีการบินสำรวจ โดยใช้อากาศยานปีกตรึง 9 ที่นั่ง สำรวจแบบ Line transect ระหว่างเดือน มิ.ย.- ก.ค.ที่ผ่านมา พื้นที่ จ.กระบี่ อ่าวนาง อ่าวท่าเลน อ่าวน้ำเมา เกาะลันตา เกาะศรีบอยา เกาะจำเกาะปู และบริเวณแนวหญ้าทะเลใกล้เคียงครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของ จ.กระบี่ สำรวจพบพะยูน 26 ตัว เป็นพะยูนคู่แม่ลูกอย่างน้อย 1 คู่ เต่าทะเล 31 ตัว และโลมาไม่ทราบชนิด 1 ตัว พื้นที่ จ.พังงา อ่าวพังงา เกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่ ปากคลองมะรุ่ย เกาะหมากน้อย หมู่เกาะระ-เกาะพระทอง พื้นที่ จ.ภูเก็ต อ่าวป่าคลอก อ่าวมะขาม แหลมพันวา พื้นที่ จ.ระนอง หมู่เกาะช้าง เกาะพยาม เกาะกำน้อย และเกาะกำใหญ่ สำรวจพบพะยูน 10 ตัว เต่าทะเล 21 ตัว โลมาหัวบาตรหลังเรียบ 6 ตัว โลมาไม่ทราบชนิด 1 ตัว และพื้นที่ จ.สตูล เกาะลิดี เกาะตันหยงอุมา เกาะสาหร่าย และหมู่เกาะใกล้เคียงพื้นที่จังหวัดสตูล สำรวจพบพะยูน 3 ตัว เต่าทะเล 3 ตัว โลมาหลังโหนก 6 ตัว และโลมาไม่ทราบชนิด 7 ตัว

ดร.ปิ่นสักก์กล่าวต่อว่า ทช. ได้มีการศึกษาเทคนิค เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆตามข้อสั่งการของ รมว.ทส. เพื่อช่วยในการพัฒนางานด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก รวมถึงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผสานองค์ความรู้ทางวิชาการและความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการมีส่วนร่วมของทุกกระบวนการ ดังนั้น หากพบการกระทำผิดกฎหมาย บุกรุก ทำลายทรัพยากรทางทะเล หรือพบเจอสัตว์ทะเลหายากเกยตื้นทั้งมีชีวิตและตาย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ทช. ในพื้นที่ เพื่อจะได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือได้ทันท่วงที หรือแจ้งมาที่สายด่วนพิทักษ์ป่าและรักษาทะเล โทร.1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.


https://www.thairath.co.th/news/local/2803629

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ

คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:40


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger