สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563

[แมลงปอ]

กรมอุตุนิยมวิทยา

ลักษณะอากาศทั่วไป
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย


พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล
เมฆบางส่วนกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
รายละเอียดเพิ่มเติม ออกประกาศ 25 กุมภาพันธ์ 2563 11:00 น.

คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 25 -27 ก.พ. 63 ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้น 1-4 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในช่วงวันที่ 28 ก.พ. - 2 มี.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนบางพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนลดน้อยลง ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตลอดช่วง

ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 25 - 27 ก.พ. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

[แมลงปอ]

ผู้จัดการออนไลน์

น้ำท่วมจากฝนตกหนักทำ ?จาการ์ตา? เป็นอัมพาต ไฟตัดในบางพื้นที่




รอยเตอร์ ? น้ำท่วมจากฝนตกหนักทำให้หลายพื้นที่ใหญ่ในเมืองหลวงของอินโดนีเซียเป็นอัมพาตในวันอังคาร (25) ในขณะที่ถนนใหญ่หลายเส้นถูกท่วมด้วยน้ำสีโคลน และการจ่ายไฟฟ้าในบางพื้นที่ของเมืองถูกตัด

สำนักงานพยากรณ์อากาศของอินโดนีเซียเชื่อมโยงฝนรอบนี้กับพายุไซโคลนเขตร้อนหลายลูกในออสเตรเลียและในมหาสมุทรอินเดียที่ทำให้เกิดสภาพอากาศเลวร้ายทั่วเกาะชวา บาหลี และนุสาเตงการา สำนักงานฯ ยังเตือนให้ระวังคลื่นสูงในทะเลทางใต้ของชวาด้วย

น้ำท่วมมีความรุนแรงเป็นพิเศษในพื้นที่เบกาซี ทางตะวันตกของเมืองหลวง ถึงแม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองลุ่มต่ำแห่งนี้จะได้รับผลกระทบเลวร้ายด้วยเช่นกัน

ตำรวจจาการ์ตา เตือนผ่านบัญชีอินสตราแกรมให้ระวังการปิดถนนเนื่องจากน้ำท่วม และบริการรถไฟส่วนใหญ่ก็มีปัญหาหยุดชะงักเช่นกัน

คลิปวีดิโอและภาพที่ถูกโพสต์โดยตำรวจจาการ์ตา เผยให้เห็น ถนนถูกน้ำท่วมในพื้นที่อุตสาหกรรมในเขตจาการ์ตาตะวันออก โดยมีแถวรถบรรทุกและรถจักรยานยนต์หยุดชะงักเป็นแนวยาว

รัฐวิสาหกิจไฟฟ้า Perusahaan Listrik Negara (PLN) ระบุในถ้อยแถลงว่า กระแสไฟฟ้าไปยังสถานีย่อย 326 แห่งถูกตัดเพื่อรับประกันความปลอดภัย

จาการ์ตามีความเสี่ยงถูกน้ำท่วมบ่อยและเมื่อต้นปีนี้ เมืองนี้ก็เผชิญกับฝนตกหนักที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติการณ์ ทำให้เกิดน้ำท่วมคร่าชีวิตคนกว่า 60 คนและมีผู้พลัดถิ่นประมาณ 175,000 คน





กู้ระเบิดในดงก้อนน้ำมันเกยหาดหัวไทร คาดเป็นของประมงผิดกฎหมายใช้บึ้มฝูงปลา




นครศรีธรรมราช - อีโอดีเข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดในดงก้อนน้ำมัน หลังชาวบ้านแจ้งกำนันตำบลหน้าสตน ถูกพบเกยหาดหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช คาดประมงผิดกฎหมายอาจนำไปใช้ระเบิดฝูงปลา

ที่บริเวณชายหาดหมู่ 8 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช หลังจากที่ชาวบ้านได้พบวัตถุคล้ายวัตถุระเบิด มีสลักและกระเดื่องครบสมบูรณ์เกยหาด พร้อมแพขยะ และก้อนน้ำมันจำนวนมาก โดยชาวบ้านได้เข้าแจ้งต่อ นายสุกิจ แก้วเนียม กำนันตำบลหน้าสตน ซึ่งต่อมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวไทร เข้าตรวจสอบ และใช้ยางรถยนต์เข้าครอบทับป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่วานนี้ (24 ก.พ.)

โดยล่าสุดนั้น พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผู้กำกับการกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ประยงค์ ช่วยชู รองสารวัตรสรรพาวุธ กองกำกับการสืบสวน นำกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด หรือที่เรียกว่าอีโอดี เข้าทำการตรวจสอบเก็บกู้ โดยเจ้าหน้าที่สามารถเข้าทำการเก็บกู้ได้อย่างปลอดภัย และนำไปทำลายตามขั้นตอนความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่า ระเบิดที่พบเป็นระเบิดที่สร้างเสียงดังรุนแรง แต่ไม่มีสะเก็ดอันตราย ผลิตจากประเทศจีน ใช้สำหรับการควบคุมฝูงชน หรือการปราบจลาจล สันนิษฐานว่าอาจมีเรือประมงที่ใช้วิธีการทำประมงที่ผิดกฎหมายกลางทะเลเปิด เช่น การระเบิดต้อนฝูงปลาเข้าอวน หรือการระเบิดฝูงปลาทำให้ปลาช็อก แล้วกวาดเก็บปลาได้ง่ายขึ้น โดยระเบิดลูกนี้พร้อมใช้งาน อาจถูกทิ้งลงทะเลพร้อมขยะแล้วติดอยู่กับแพขยะไม่จมใต้น้ำ ก่อนถูกคลื่นซัดมาเกยหาดจนเจ้าหน้าที่มาพบดังกล่าว

[แมลงปอ]

จนท.ลุยเก็บตัวอย่าง ?ก้อนน้ำมัน? เกลื่อนหาดหัวไทร นำวิเคราะห์หาแหล่งที่มา




นครศรีธรรมราช - เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร เข้าเก็บตัวอย่าง ?ก้อนน้ำมัน? และน้ำทะเลบริเวณชายหาดหัวไทร นำวิเคราะห์ลักษณะทางเคมี ยอมรับยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้

จากสถานการณ์ก้อนน้ำมัน หรือที่เรียกว่า ?ทาร์บอล? พร้อมทั้งคราบแพน้ำมันที่อยู่บนผิวน้ำทะเล ถูกคลื่นสูงซัดเข้าเกยหาดบริเวณชายหาดใน อ.หัวไทร โดยเฉพาะบ้านหน้าศาล บ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา ต.เกาะเพชร และ ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เป็นทางยาวตลอดแนวชายหาดยาวหลายกิโลเมตร และมีรายงานว่า พบก้อนน้ำมันลักษณะเดียวกันที่ชายหาดใน อ.ระโนด และ อ.สทิงพระ จ.สงขลา บางส่วนอีกด้วย

ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ระบบนิเวศชายหาดอย่างมาก ท่ามกลางความสงสัยของชาวบ้านที่ทำประมง เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อมีคลื่นลมรุนแรง แต่ไม่เคยได้รับคำตอบถึงแหล่งที่มาของก้อนน้ำมันดังกล่าว



โดยล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ได้นำอุปกรณ์เข้าเก็บตัวอย่าง ซึ่งประกอบด้วย น้ำทะเลที่มีลักษณะคราบคล้ายน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ รวมทั้งก้อนน้ำมันที่ตกค้างอยู่บริเวณชายหาด เพื่อนำไปวิเคราะห์ทางเคมี หาแหล่งที่มาของก้อนน้ำมัน หรือแหล่งกิจกรรมที่ทำให้ก้อนน้ำมันแพร่กระจายลงในทะเลจำนวนมาก ตามลักษณะการพบตลอดแนวชายหาดหลายกิโลเมตร

น.ส.ศิริลักษณ์ ลิ้มธนกุล นักวิชาการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ระบุว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าก้อนน้ำมันมาจากกิจกรรมใด หรือมีโครงสร้างทางเคมีอย่างไร โดยตัวอย่างทั้งหมดจะนำไปวิเคราะห์ และรายงานไปยังกรมฯ เพื่อดำเนินการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อหลายปีก่อนนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้เก็บตัวอย่างก้อนน้ำมันในลักษณะเดียวกันนี้ ที่พบบริเวณหาดบ้านเราะ ต.กลาย อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ไปวิเคราะห์ทางเคมี ได้ระบุผลตัวอย่างว่า มีลักษณะทางโครงสร้างทางเคมีคล้ายน้ำมันดิบ ที่ถูกทำให้โครงสร้างทางเคมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ สำหรับกรณีของเหตุการณ์ใน อ.หัวไทร กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีแท่นขุดเจาะกลางทะเลแหล่งใดที่เกิดการรั่วไหล