เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #9  
เก่า 19-01-2010
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


วิปโยคเฮติ...ต้องศึกษา 'ธรณีพิโรธใหญ่' ไทย...ต้องตื่นตัวรับมือ



ธรณีพิโรธ “แผ่นดินไหว” ระดับ 7 ริคเตอร์ ซึ่งเกิดที่ประเทศเฮติ โดยมีศูนย์กลางการเกิดอยู่ห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์เมืองหลวง ทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 16 กิโลเมตร ลึกลงไปใต้ดินราว 10 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ ไร้ที่อยู่อาศัย-อาหาร เป็นแสนๆ ซึ่งขนาดทำเนียบประธานาธิบดีก็ยังถล่มเป็นซากนั้น.....

นี่ไม่เพียงเป็นภัยรุนแรงที่สุดในรอบ 200 ปีของเฮติ

แต่ยังเป็นแผ่นดินไหวที่เขย่าขวัญผู้คนทั่วทุกมุมโลก

และสำหรับเมืองไทย-คนไทยก็อย่าได้คิดว่าไกลตัว !!

“เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับประเทศไทย ในเรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาแผ่นดินไหว” ...นี่เป็นเนื้อความตอนหนึ่งจากการระบุผ่านสื่อของ ดร.พิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการองค์กรศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติ แห่งเอเชีย หรือเอดีพีซี โดย ดร.พิจิตตยังได้ระบุถึงเรื่อง “รอยเลื่อน” ซึ่งเกี่ยวโยงกับแผ่นดินไหว-กับเขื่อน ที่อาจสร้างโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในไทย รวมถึงพื้นที่กรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตาม ณ ที่นี้ “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” จะสะท้อนย้อนภาพรวมตามที่เคยมีผู้สันทัดกรณีด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องเคยชี้เตือนไว้ เช่น รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต เคยระบุไว้หลังการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงประมาณ 7.8 ริคเตอร์ เขย่ามณฑลเสฉวน และพื้นที่ใกล้เคียง ในประเทศจีน เมื่อบ่ายวันที่ 12 พ.ค. 2551 ซึ่งเพียงถึงเช้าวันที่ 13 พ.ค. ก็มีรายงานตัวเลขพบผู้เสียชีวิตกว่า 9,200 ศพ สูญหาย กว่า 60,000 คน อาคาร-ที่พักอาศัยพังถล่มกว่า 500,000 หลัง สรุปได้ว่า.....

เหตุการณ์แผ่นดินไหว แม้จุดศูนย์กลางจะห่างจากไทย แต่การสั่นของรอยเปลือกโลกก็ส่งผลทำให้เกิดการกระตุ้นที่ตะแกรงรอยเลื่อนของเปลือกโลก หรือที่เรียกกันว่าแอ๊คทีฟ ฟอลท์ (Active Fault) ซึ่งย่อมส่งผลกระทบกับภูมิศาสตร์ของหลายประเทศได้ด้วย ซึ่งสำหรับไทยพื้นที่ที่จะมีผลกระทบคือพื้นที่ที่มีลักษณะกายภาพเป็นดินอ่อน ซึ่งมีโอกาสยุบตัวง่าย และลักษณะทางกายภาพดังว่านี้...ก็รวมถึง “กรุงเทพฯ” เมืองหลวงของไทย

แผ่นดินไหวในประเทศอื่น ๆ ไทยจึงต้องให้ความสนใจ

เมืองหลวงประเทศไทยก็ใช่ว่าไม่เสี่ยงกับ “ธรณีพิโรธ”

และแม้จะอยู่บ้านชั้นเดียว-อาคารเตี้ย ๆ ก็อาจอันตราย !!

ทั้งนี้ อย่างที่ ชาติชาย สุภัควนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูพลัส ซอฟท์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีก่อสร้าง-การก่อสร้างยุคใหม่ สะท้อนผ่าน “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ไว้ว่า... ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ค่อยมีการคำนึงถึงกฎปฏิบัติในการออกแบบก่อสร้างเพื่อต้านแรงแผ่นดินไหวมากนัก เพราะในไทยมีประวัติเกิดแผ่นดินไหวไม่มาก วิศวกรที่จบปริญญาตรีกว่า 95% ก็ไม่ได้เรียนรู้เรื่องแผ่นดินไหวลึกซึ้ง ความรู้เรื่องนี้จะอยู่ระดับปริญญาโท

“การสร้างโครงสร้างอาคารในบ้านเราที่ผ่านๆมามักใช้ความรู้ความชำนาญที่เป็นการคำนวณด้วยมือ จากการดูแบบพิมพ์เขียว ซึ่งการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวนั้นจะใช้แต่ประสบการณ์ ความรู้ความชำนาญที่มีอยู่ของวิศวกรอย่างเดียวไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีอย่างคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยในการคำนวณโครงสร้างอาคารด้วย จึงจะมีประสิทธิภาพ” ...ชาติชายระบุ

พร้อมทั้งยังชี้ไว้ด้วยว่า... หากพิจารณาอย่างละเอียดจะพบว่าที่ผ่านมาเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในเมืองไทยอาคาร ที่เป็นตึกสูงที่ออกแบบโดยวิศวกรด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ มักจะไม่ค่อยมีปัญหา “ในเมืองไทยนั้น ที่มักได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมาก มักจะเป็นอาคารหรือที่อยู่อาศัยที่เป็นตึกไม่สูง สรุปก็คือโครงสร้างอาคารบ้านเรือนคนไทยส่วนใหญ่ไม่พร้อมรับแรงสั่นสะเทือนการเกิดแผ่นดินไหวอย่างมีประสิทธิภาพ”

ในเมืองไทย “บ้านยุคเก่า-ตึกยุคเก่า” อยู่ในข่ายต้องระวัง

และอาคารสูงยุคใหม่ถ้ามีคอร์รัปชั่นงบก่อสร้างก็น่าห่วง !!

อีกทั้งความน่าเป็นห่วงยังอาจรวมถึง “สึนามิจากแผ่นดินไหว” อย่างที่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ เคยเผยแพร่เป็นบทความเกี่ยวกับ “แผ่นดินไหว-สึนามิ” ไว้ในเว็บไซต์ของศูนย์วิจัยภัยธรรมชาติ บางช่วงบางตอนว่า... “ได้ทำการวิเคราะห์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด ใหญ่ (9 ริคเตอร์) ในทะเลอันดามัน (บริเวณหมู่เกาะนิโคบาร์) และอ่าวไทย (บริเวณทิศตะวันตกหมู่เกาะฟิลิปปินส์) ซึ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่มีโอกาสเกิด ผลจากการวิเคราะห์พบว่า ชายฝั่งอันดามันจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงกว่าเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547”

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรจะมีการเตรียมการที่ดี มีแผนจัด การในภาวะฉุกเฉินรองรับภัยธรรมชาติ...” “สิ่งที่คนไทยควรจะทำคือต้องเตรียมรับมือไว้ให้พร้อม โดยศึกษาจากสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เคยเกิดขึ้น แต่ก็ควรเป็นไปในลักษณะการตื่นตัวแต่ไม่ใช่ตื่นตระหนกตกใจจนเกินไป...” ...รศ.ดร.เสรี ระบุไว้

และ “แผ่นดินไหว” ที่เฮติ...ก็น่าจะเป็นกรณีศึกษาของไทย

เพื่อรับมือ “ธรณีพิโรธ” ที่เกิดได้...แม้แต่ใต้บ้านนายกฯ !!.



จาก : เดลินิวส์ วันที่ 19 มกราคม 2553
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:44


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger