#1
|
||||
|
||||
ป้องกัน...'โลมาสีชมพู' สูญพันธุ์
ป้องกัน...'โลมาสีชมพู' สูญพันธุ์ ชายหาดทะเลที่ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จัดเป็นทะเลที่สะอาด มีความสวยงามตามธรรมชาติ อยู่มาก อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์สำคัญที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวอย่าง โลมาสีชมพู ให้มาเยี่ยมชมทะเลขนอมไม่ขาดสาย เนื่องจากโลมาสีชมพูมีแหล่งหากินใกล้ชายฝั่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพบเห็น โลมาได้ทุกวันตลอด ทั้งปี ไม่เพียงแต่ขนอมเท่านั้น แต่ที่ อ.ดอนสัก และ อ.สิชล ก็เป็นพื้นที่ที่โลมาสีชมพูไปปรากฏตัว ซึ่งโลมาสีชมพูที่เห็นกันนั้นเป็นสายพันธุ์โลมาหลังค่อมมีชื่อเรียกอย่าง เป็นทางการว่า โลมาหลังค่อมอินโด-แปซิฟิค มีหลากสีตั้งแต่สีเหลือง ชมพู ขาว เทา ตัวโตเต็มที่อาจยาวได้ถึง 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 150-200 กิโลกรัม ลักษณะจะคล้ายกับโลมาปากขวดมาก จนบางครั้งเกิดการสับสนระหว่าง โลมาทั้งสองชนิด จากการเก็บสถิติการสำรวจโลมาสีชมพูบริเวณอ่าวขนอมของศูนย์วิจัยทรัพยากรทาง ทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง พบว่ามีฝูงโลมาสีชมพูอาศัยอยู่ราว 30-50 ตัว แต่จากรายงานตั้งแต่ต้นปี 2553 เป็นต้นมา มีรายงานโลมาสีชมพูมาตายเกยตื้นริมฝั่งทะเลขนอมถึง 6 ตัวแล้ว หรือถ้านับรวมภายในระยะเวลา 5 ปี โลมาสีชมพูมาเกยตื้นเสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 30 ตัว สาเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงไม่ว่า จะเป็นการติดตาข่ายอวนหาปลา เรืออวนรุนหรือโดนใบจักรเรือบาดบริเวณอวัยวะสำคัญ นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า จากสถิติและสาเหตุการตายของโลมาทำให้เป็นห่วงว่าจะเกิดการสูญพันธุ์ ทช.จึงได้เร่งแก้ปัญหาเบื้องต้นโดยให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง อ่าวไทยตอนล่างประสานไปยังกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่อ่าวขนอมและบริษัททัวร์ เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลถึงหลักปฏิบัติในการชมโลมาสีชมพูใน พื้นที่อ่าวขนอมอย่างถูกต้อง รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุรักษ์โลมาสีชมพูให้แก่ชาว ประมง ชาวบ้าน และที่สำคัญคือมัคคุเทศก์ในพื้นที่ เพื่อช่วยกันดูแลอย่างจริงจัง เนื่องจากบ่อยครั้งที่มัคคุเทศก์และผู้ขับเรือใช้วิธีการแล่นเรือต้อนฝูง โลมาเพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวเห็นโลมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งทำให้โลมาเกิดความเครียดอย่างมาก ซึ่งการชมโลมาที่ถูกต้องนั้น ไม่ควรเข้าใกล้ฝูงเกินกว่า 100 เมตร และไม่ส่งเสียงดังเป็นการรบกวนโลมา ขณะนี้ประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองโลมาและแหล่งอาศัย โดยพระราชบัญญัติการประมง พ.ศ. 2490 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และ พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ไว้ลงโทษผู้กระทำผิด แต่ก็ยังมี การสูญเสียโลมาอย่างต่อเนื่อง จึงควรมีการปลุกจิตสำนึกให้ชุมชนมีใจที่จะรักษาโลมา และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง เป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว นายบำรุงศักดิ์ ฉัตรอนันทเวช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ทช. กล่าวว่า ทางศูนย์วิจัยฯ ได้สำรวจทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่อ่าวขนอมไปแล้วบางส่วนเพื่อจัด ทำข้อมูล สรุปสถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับจังหวัดและระดับกระทรวงให้มี การประกาศพื้นที่อ่าวขนอมเป็นพื้นที่อนุรักษ์ มีการเตรียมประชุมหารือร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์ องค์การบริหารส่วนตำบล ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ตลอดจนตัวแทนชุมชนในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่อ่าวขนอม ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังมีโครงการอนุรักษ์โลมาทะเลขนอมซึ่งชุมชนใกล้ชายฝั่งได้ร่วมกัน ทำความสะอาดชายหาดและ ใต้ทะเลบริเวณแนวปะการังอ่าวขนอม มีการวางทุ่นผูกเรือในเขตปะการังบริเวณใกล้เคียง ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำด้วยการปล่อยเต่าทะเลและลูกพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น ปลาการ์ตูน และหอยมือเสือ เป็นต้น การประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้ หรือแม้กระทั่งการมีกฎหมายเข้ามาควบคุมอาจ ทำได้ไม่ถาวร ปัญหาคือเส้นทางหากินของ ฝูงโลมาเป็นเส้นทางหากินเดียวกับชาวประมง ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายที่มีส่วน เกี่ยวข้องต้องหารือกันเพื่อหาจุดที่ลงตัว นาย บำรุงศักดิ์ กล่าว ขณะนี้มีหลายฝ่ายพยายามจะป้องกันและแก้ไขไม่ให้โลมาสีชมพูที่เป็นทั้งสัตว์ ทะเลหายากและมีส่วนสำคัญกับการท่องเที่ยวของ จ.นครศรีธรรมราช ต้องเสียชีวิตด้วยการกระทำจากมนุษย์ ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะได้ผลมากน้อยเพียงไร หากเส้นทางหากินระหว่างโลมากับคนยังคงทับซ้อนกันอยู่?. ขอบคุณภาพและข่าวจากเดลินิวส์.... http://www.dailynews.co.th/newstartp...ontentID=77730
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 15-07-2010 เมื่อ 10:47 |
#2
|
||||
|
||||
ที่แม่น้ำบางปะกงแถวฉะเชิงเทราก็มีเหมือนกันครับมาช่วงฤดูหนาวมีเรือรับจ้างพาออกไปดูด้วย
แต่ตอนนี้ไม่รู้เป็นไงบ้างไม่ได้ไปมา3-4ปีแล้วครับแถวนั้นโรงงานเยอะด้วยสิ |
#3
|
||||
|
||||
ไปดูโลมาที่บางปะกงมาเมื่อ 3-4 ปีก่อนเหมือนกันค่ะ ครั้งหลังสุดไม่ประทับใจเท่าไร...เลยเลิกไป... เชิญอ่านเรื่องๆดีที่นี่ค่ะ... http://www.saveoursea.net/oldboard/v...eef1b031a071c0
__________________
Saaychol |
|
|