เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #7  
เก่า 25-03-2011
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default


ชวนตื่นตาไปกับ 5 ป่าชายเลนชั้นเยี่ยมของไทย .................. โดย ปิ่น บุตรี

ธรรมชาติมีสมดุลในตัว เมื่อมีสึนามิก็มี“ป่าชายเลน” ซึ่งเปรียบเสมือนเกราะธรรมชาติ ที่นอกจากจะช่วยลดทอนอำนาจทำลายล้างอันร้ายกาจของสึนามิให้อ่อนกำลังลงแล้ว ยังช่วยป้องกันชายฝั่ง ชุมชน และมนุษย์ที่อยู่ในละแวกนั้น ให้ได้รับความสูญเสียน้อยลงหรืออาจจะไม่ได้รับความสูญเสียเลย

ไม่เพียงแต่เป็นเกาะธรรมชาติเท่านั้น ป่าชายเลนยังมีคุณประโยชน์ต่อมนุษย์ชาติอีกหลากหลาย (รายละเอียดในเรื่องนี้ผมได้เขียนไว้ในตอนที่แล้วจึงขอผ่านข้ามไป) รวมถึงคุณประโยชน์ทางอ้อมที่มาแรงไม่น้อยในช่วงหลังก็คือ การเป็นแหล่งท่องเที่ยว แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เป็นห้องเรียนธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ที่มากมายไปด้วยเรื่องราวอันน่าสัมผัสและชวนค้นหา

อย่างไรก็ตามในบรรดาป่าชายเลนชวนเที่ยวที่มีอยู่มากมายหลากหลายในบ้านเรานั้น งานนี้ผมขอหยิบยกป่าชายเลนในดวงใจที่ชื่นชอบเป็นพิเศษ มาบอกเล่าสู่กันฟังกัน 5 ป่าด้วยกัน


“ป่าชายเลนบางขุนเทียน” กทม.


หลักเขต 28 อนุสรณ์ระลึกถึงแผ่นดินที่หายไป ที่ชายทะเลบางขุนเทียน

ชายทะเลจริงๆเพียงหนึ่งเดียวในกรุงเทพฯที่บางขุนเทียน อาจถูกหลายๆคนมองว่ามันสุดแสนธรรมด๊าธรรมดา หาได้มีอะไรน่าสนใจไม่ แถมทะเลยังไม่สวย มีแต่เลนมีแต่ตมอีกต่างหาก

แต่ถ้าหากมองในแง่คุณค่าของชายทะเลจริงๆเพียงหนึ่งเดียวของกรุงเทพฯแล้ว ชายทะเลบางขุนเทียนนับว่ามีดีชวนให้ค้นหาสัมผัสกันไม่น้อยเลย โดยเฉพาะกับ“ป่าชายเลนบางขุนเทียน”อันร่มรื่นน่ายลไปด้วยพืชพรรณ อย่าง โกงกาง แสม ตะบูน ป่าจาก ปู ปลา ปลาตีน ลิงแสม และนกนานาพันธุ์

ป่าชายเลนบางขุนเทียนนอกจากจะเป็นดังปอดชั้นดีของเมืองแล้ว ที่นี่ยังเป็นทั้ง แหล่งอาหาร(อร่อย) แหล่งทรัพยากร แหล่งอาชีพ รวมถึงเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ที่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีชาวเมืองเดินทางมาท่องเที่ยวกินอาหารทะเลที่ชายทะเลบางขุนเทียนกันไม่ได้ขาด

หากใครได้มาล่องเรือชมธรรมชาติที่นี่ จะได้พบกับความร่มรื่นของผืนป่าชายเลนริม 2 ฝั่งคลอง ร่วมด้วยภาพวิถีชาวบ้านที่ใช้ชีวิตผูกพันกับผืนป่าชายเลน ทั้งการออกเรือจับสัตว์น้ำ การเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา รวมถึงการปลูกบ้านเรือนอยู่ในบริเวณผืนป่าชายเลนอย่างแนบแน่นกลมกลืน ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในกรุงเทพเมืองฟ้าอมรอันพลุกพล่านวุ่นวายยังคงมีแง่มุมของภาพวิถีแบบนี้หลงเหลืออยู่

อ้อ !?! ไม่เพียงเท่านั้น ชายทะเลบางขุนเทียนยังมีอีกสิ่งหนึ่งให้เราๆท่านๆได้พึงสังวรไว้ก็คือ หลักเขต 28 ที่กั้นแบ่งระหว่างเขตบางขุนเทียน กทม.กับ จังหวัดสมุทรปราการ ที่ตั้งลอยเด่นอยู่กลางทะเล ซึ่งนอกจากจะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของชายทะเลแห่งนี้แล้ว เสาหลักเขต 28 ยังเป็นเป็นอนุสรณ์เตือนใจ แสดงให้เห็นถึงภัยจากการกัดเซาะชายฝั่ง ที่วันนี้ยังคงรุกเร้ากินแดนดินบนบกเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย


“ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน” จันทบุรี


อนุสรณ์หมูดุด ที่อ่าวคุ้งกระเบน

จากอดีตป่าเลื่อมโทรม ได้ฟ้ามาโปรดจนเกิดเป็น "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ขึ้นมา

หลังจากนั้นผืนป่าแห่งนี้ก็ได้พลิกฟื้นชีวิต กลายมาเป็นป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ มากไปด้วยระบบนิเวศที่หลากหลายในอันดับต้นๆของเมืองไทย อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งบทบาทสำคัญในฐานะห้องเรียนธรรมชาติที่น่าสนใจยิ่ง

โดยในเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ทอดยาวอย่างกลมกลืนเข้าไปในผืนป่าประมาณ 1,800 เมตรนั้น บริเวณสองฟากฝั่งต่างน่ายลไปด้วยระบบนิเวศของผืนป่าชายเลนอันหลากหลายแต่กลมกลืน ไม่ว่าจะเป็น สารพัดพันธุ์พืช อย่าง โกงกาง ฝาด ลำพู ลำแพน แสม พร้อมๆกับมีร่องรอยความอำมหิตของมนุษย์ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้ากับ“ตอแสม”ขนาดเขื่องที่คนใจร้ายเผาต้นมันตายสนิทเหลือแต่ตอดำๆไหม้เกรียมให้ดูต่างหน้า ส่วนบรรดาดาวเด่นของสรรพสัตว์ในผืนป่าแห่งนี้ เห็นจะหนีไม่พ้น ปลาตีนที่วิ่งดุ๊กๆไปมาในดินเลน และปูก้ามดาบที่วิ่งโชว์ก้ามข้างเดียวประกาศศักดาให้ผู้พบเห็นรับรู้

สำหรับเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่าวคุ้งกระเบนก็คือ ที่นี่จะมีป้ายสื่อความหมายและศาลาฐานข้อมูล 8 ฐาน แสดงให้ความรู้เป็นช่วงๆไปตลอดเส้นทาง ส่วนจุดที่เป็นไฮไลท์ในป่าชายเลนคุ้งกระเบนมีอยู่ 2 จุดด้วยกันคือ “สะพานแขวน”ทรงเท่ที่ทอดข้ามคลองเล็กๆ และอนุสรณ์“หมูดุด”หรือ“พะยูน”หรือที่บางคนเรียกว่า “วัวทะเล” ซึ่งอดีตเจ้าสัตว์ชนิดนี้ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งอ่าวคุ้งกระเบน แต่มาวันนี้แทบสูญพันธุ์เหลือแค่รูปปั้นเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

และด้วยศักยภาพ การจัดสรรพื้นที่ การจัดแต่งภูมิทัศน์เพื่อการท่องเที่ยว และการบริหารจัดการที่ดี ทำให้ศูนย์ฯพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนแห่งนี้ ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวหรือรางวัลกินรี ประเภทองค์กรส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยว ใน ปีพ.ศ.2545 เป็นการการันตีในคุณภาพ


“ป่าชายเลนหาดทรายดำ” ตราด


หาดทรายดำ ป่าชายเลนแหลมมะขาม

ปกติเราจะเจอแต่หาดทรายขาว แต่ที่จังหวัดตราดมี“หาดทรายดำ”ให้ชมกันด้วย เป็นหาดทรายดำที่เกิดจากแร่“ไลโมไนต์” ซึ่งเกิดจากการยุบตัวของเศษเหมืองและเปลือกหอยผสมด้วยควอตซ์ หรือเป็นแร่ที่เกิดจากการผุกร่อนของเหล็ก ในโลกนี้มีหาดทรายดำลักษณะนี้เพียง 5 แห่งในโลก คือ ไต้หวัน มาเลเซีย(ลังกาวี) ฮาวาย แคลิฟอร์เนีย และไทย(หาดทรายสีดำที่ปรากฏในประเทศอื่นนอกเหนือจากนี้ จัดเป็นคนละประเภทกัน)

หาดทรายดำตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแหลมมะขาม หรือป่าชายเลนแหลมมะขาม ต.วังกระแจะ อ.เมือง ผืนป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เพราะมีลักษณะเป็นหาดทรายในพื้นที่ป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันได้มีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสะพานไม้ทอดยาวไปในความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า

สำหรับสิ่งน่าสนใจเส้นทางศึกษาธรรมชาติสายนี้ ได้แก่ เส้นทางผ่านดงพืชพันธุ์ไม้อันร่มรื่นเขียวครึ้ม อาทิ โกงกาง ตะบูนดำ ลำพูทะเล ตาตุ่มทะเล แสมทะเล,จุดชมปูแสมที่มีทั้งพันธุ์สีดำกับพันธุ์สีสวย,จุดชมปูก้ามดาบ,จุดชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืน,จุดชมหอยขี้ค้อนตัวตัวรูปทรงแหลมเป็นกรวย และจุดชมปลาตีนตัวโตที่มีพบเห็นเป็นระยะๆไปตลอดทาง ก่อนไปถึงยังบริเวณหาดทรายดำที่ทอดยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ที่ถือเป็นไฮไลท์ในพื้นที่แห่งนี้ ซึ่งนี่ถือเป็นป่าชายเลนที่ถือมีลักษณะค่อนข้างแตกต่างจากป่าชายเลนทั่วไป เพราะมีหาดทรายดำอันแปลกตาให้ได้สัมผัสชื่นชมกัน


“ป่าชายเลนอุทยานฯสิรินธร” เพชรบุรี


สะพานแขวนชวนเที่ยวที่ ป่าชายเลนอุทยานฯสิรินธร

อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติ สิรินธร ตั้งอยู่ใกล้ๆกับพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน(ทางเข้าเดียวกัน) อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ที่นี่มีป่าชายเลนที่หลายคนต่างมองข้ามไป เพราะดูเผินๆเป็นเพียงป่าชายเลนผืนเล็กๆดูไม่อุดมสมบูรณ์เท่าไหร่ หากเทียบกับป่าชายเลนหลายแห่ง แต่ประทานโทษ เมื่อไปดูที่มาที่ไปของป่าชายเลนแห่งนี้แล้ว ผมถึงกับทึ่ง!!!

เพราะนี้เป็นป่าชายเลนที่เกิดจากการปลูกสร้างโดยน้ำมือมนุษย์ หรือป่าชายเลน Man Made แห่งแรก และน่าจะเป็นแห่งเดียวในโลกที่ประสบความสำเร็จถึงระดับนี้

สำหรับจุดกำเนิดของป่าชายเลนแห่งนี้ มาจากการที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯมาทรงงานในค่ายพระรามหก วันหนึ่งพระองค์ท่านทรงจักรยานออกกำลังกายผ่านมาบริเวณนี้ สังเกตเห็นถึงลักษณะของทราย(พื้นที่เสื่อมโทรม)และต้นไม้เล็กๆที่ขึ้น พร้อมทรงตั้งข้อวินิจฉัยว่าที่นี่น่าจะเคยเป็นป่ามาก่อน

จากนั้นเมื่อสมเด็จพระเทพฯเสด็จกลับมา ทรงรับสั่งให้มีดำเนินการค้นคว้า วินิจฉัย ฟื้นฟู และป,กป่าชายเลนแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าหลังจากนั้นไม่นานบนพื้นที่เสื่อมโทรมแห้งแล้งมีแต่ดินทรายก็ได้มีความเขียวขจีของป่าชายเลน Man Made แห่งแรกของโลกตามมา

พูดถึงความน่าสนใจของป่าแห่งนี้ คงต้องยกให้องค์ความรู้ในการปลูกป่าถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุผลหลักที่ป่าชายเลนคนปลูกแห่งแรกของโลกนี้ประสบความสำเร็จอยู่ที่ การวางแผน บริหารจัดการผืนป่าเป็นสำคัญ โดยเริ่มตั้งแต่การปลูกป่าบก และป่าชายหาดให้เชื่อมต่อกัน ต่อด้วยการปลูกป่าชายเลนก็ต้องเลือกพืชพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับ

หลังการเพียรปลูกป่าที่เริ่มต้นจากศูนย์มาร่วมสิบปี ปัจจุบันป่าที่นี่แม้จะยังไม่รกครึ้ม ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นปกคลุม แต่ว่ามันได้แสดงพัฒนาการแบบเกินคาดให้เห็น ด้วยการมี ปู ปลา หอย นก เข้ามาอยู่อาศัยมากมาย ส่วนมนุษย์ก็ได้อาศัยผืนป่าแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เรียนรู้ นับเป็นความสำเร็จของป่าชายเลนคนปลูกที่น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง


“ป่าชายเลนหงาว” ระนอง

“ป่าชายเลนหงาว” หรือ “ศูนย์วิจัยป่าชายเลน จังหวัดระนอง” ต.หงาว อ.เมือง จ.ระนอง เป็นหนึ่งในผืนป่าที่มีระบบนิเวศหลากหลายและอุดมสมบูรณ์มาก จนองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็น "พื้นที่เขตสงวนชีวมณฑล" ใน พ.ศ. 2540

ป่าชายเลนหงาว มีเนื้อที่กว่า 122 ,000 ไร่ ขึ้นกระจายตัวอยู่บริเวณปากแม่น้ำกระบุรี ซึ่งเป็นแนวชายแดนระหว่างประเทศไทยและพม่า ป่าชายเลนแห่งนี้น่าสนใจไปด้วยวิถีการอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพาอาศัยของสัตว์พืชในป่าชายเลนและป่าดิบเขา โดยมีจุดน่าสนใจหลักอยู่ 2 จุดด้วยกัน

จุดแรก คือ สวนรุกขชาติป่าชายเลนที่ทำเป็นสะพานคอนกรีตระยะทางประมาณ 850 เมตรเดินชมทิวทัศน์ พร้อมป้ายสื่อความหมายเป็นระยะๆ ระหว่างทางสามารถมองเห็นสภาพของป่าอันอุดมสมบูรณ์ พร้อมมีสะพานข้ามคลอง สวยๆเท่ๆให้ถ่ายรูป ชมวิว และสัตว์นานาชนิดอย่าง ลิง ปูแสม ปูทะเล ปลาตีน นาก ตะกวด และนกชนิดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวสอดส่ายสายตามองหากัน

จุดที่สอง คือบริเวณป่าชายเลนหาดทรายขาว ที่เต็มไปด้วยป่าโกงกางขนาดใหญ่จำนวนมาก โดยเฉพาะกับไฮไลท์อย่างต้นโกงกางยักษ์ อายุ 200 ปี มีเส้นรอบวง 2 เมตร สูง 25 เมตร ที่ถือเป็นปู่ทวดแห่งโกงกาง ซึ่งน่าจะเป็นต้นโกงกางที่มีอายุเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังมีเส้นทางล่องเรือชมความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าลายเลนและชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวเล ที่น่าสนใจไปด้วย การทำประมงพื้นบ้าน การเลี้ยงหอย ปู ปลาในกระชัง และวิถีความเป็นอยู่อันเป็นเอกลักษณ์


และนั่นก็เป็นผืนป่าชายเลนน่าเที่ยว 5 แห่ง ที่น่าไปสัมผัสเที่ยวชม ซึ่งที่ผ่านมาป่าชายเลนถือเป็นป่าอีกประเภทหนึ่ง ที่ถูกมนุษย์รุกรานทำลายมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น การทิ้งขยะ ปล่อยน้ำเสียง สร้างโรงงานอุตสาหกรรม การตัดไม้ป่าโกงกางไปเผาถ่าน และโดยเฉพาะการทำนากุ้งที่ถือเป็นการฆาตรกรรมผืนป่าชายเลนอย่างเลือดเย็น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องช่วยกันปกป้องอนุรักษ์ผืนป่าชายเลนเอาไว้ รวมถึงผืนป่าบกและผืนป่าธรรมชาติอื่นๆด้วย

เพราะถ้าโลกนี้ไม่มีป่า ไม่มีต้นไม้

คนก็อยู่ไม่ได้




จาก .................. ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 25 มีนาคม 2554
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:01


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger