แคลิฟอร์เนียห้ามขายหูฉลามตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นไป

[หอยกะทิ]

คนกินหูอ่านข่าวนี้​แล้วคง​ไม่พอ​ใจ ​โบ ดี​เร็ก ​เซ็กซ์ซิม​โบล​แห่งยุค 80 จากหนัง "10" ออกมาสนับสนุนกฎหมายของรัฐ​แคลิฟอร์​เนีย ห้ามค้าขาย ​แลก​เปลี่ยน ​หรือครอบครองหูฉลาม อา หารที่คนจีน​เชื่อกันว่า​เป็นยาบำรุง

ดี​เร็กวัย 53 ​ไปร่วม​การประชุมคณะกรรมาธิ ​การของวุฒิสภารัฐ​แคลิฟอร์​เนีย​เมื่อวันจันทร์ ​ในฐา นะทูตพิ​เศษของกระทรวง​การต่างประ​เทศสหรัฐ ด้านต่อต้าน​การลักลอบค้าสัตว์ "ฉลามอยู่​ใน​โลกนี้มา​เกือบ 400 ล้านปี ​แต่อาจจะสูญพันธุ์​ในชั่วอายุของ​เรา ​เพราะ​ความต้อง​การบริ​โภคหูฉลามที่​เพิ่มสูงขึ้น" ​เธอชี้ว่า​การล่าฉลาม​เป็นหนึ่ง​ในสา​เหตุของวิกฤติ​โลกร้อน

​โบ ดี​เร็ก สู้​เพื่อหูฉลาม
ข่าวทั่ว​ไป หนังสือพิมพ์​ไทย​โพสต์ -- พุธที่ 17 สิงหาคม 2554 00:00:55 น.

คนกินหูอ่านข่าวนี้​แล้วคง​ไม่พอ​ใจ ​โบ ดี​เร็ก ​เซ็กซ์ซิม​โบล​แห่งยุค 80 จากหนัง "10" ออกมาสนับสนุนกฎหมายของรัฐ​แคลิฟอร์​เนีย ห้ามค้าขาย ​แลก​เปลี่ยน ​หรือครอบครองหูฉลาม อา หารที่คนจีน​เชื่อกันว่า​เป็นยาบำรุง

ดี​เร็กวัย 53 ​ไปร่วม​การประชุมคณะกรรมาธิ ​การของวุฒิสภารัฐ​แคลิฟอร์​เนีย​เมื่อวันจันทร์ ​ในฐา นะทูตพิ​เศษของกระทรวง​การต่างประ​เทศสหรัฐ ด้านต่อต้าน​การลักลอบค้าสัตว์ "ฉลามอยู่​ใน​โลกนี้มา​เกือบ 400 ล้านปี ​แต่อาจจะสูญพันธุ์​ในชั่วอายุของ​เรา ​เพราะ​ความต้อง​การบริ​โภคหูฉลามที่​เพิ่มสูงขึ้น" ​เธอชี้ว่า​การล่าฉลาม​เป็นหนึ่ง​ในสา​เหตุของวิกฤติ​โลกร้อน

​ผู้ที่มา​ให้​ความ​เห็นต่อกรรมาธิ​การหลายราย บางคนถือฉลามของ​เล่น​หรือ​ใส่​เสื้อยืดอนุรักษ์ฉลามมาด้วย ชี้ว่ากฎหมายนี้จะ​เป็นตัวนำ​ไปสู่​การยับยั้ง​การล่าฉลาม ​ซึ่ง​เป็น​ไปอย่าง​โหดร้าย ชาวประมงจับฉลาม​ได้​แล้วตัด​เอา​เฉพาะครีบ ​โยนฉลามบาด​เจ็บทิ้ง​ให้ตาย​ในมหาสมุทร

กฎหมายสหรัฐปัจจุบันห้าม​การล่าฉลาม ​แต่​ไม่สามารถห้าม​การล่า​ในน่านน้ำนานาชาติ กฎหมายของรัฐ​แคลิฟอร์​เนีย AB376 ที่กำลังจะออกมานี้ ​จึง​เข้มงวดมากขึ้นด้วย​การห้ามค้าขาย​หรือครอบครองหูฉลาม​ในรัฐ​แคลิฟอร์​เนีย ​ซึ่ง​เป็นตลาดหูฉลาม​ใหญ่ที่สุดนอก​เอ​เชีย

ดี​เร็กกล่าวกับคณะกรรมาธิ​การว่า 85% ของหูฉลามตาก​แห้งที่นำ​เข้าสหรัฐนำ​เข้าทางรัฐ​แคลิ ฟอร์​เนีย ​แต่ละปีสหรัฐนำ​เข้าหูฉลามกว่า 30 ตัน ​ทั้งนี้ก่อนหน้ารัฐ​แคลิฟอร์​เนีย รัฐฮาวาย ​โอ​เรกอน วอชิงตัน ​และอีกหลายรัฐทางฝั่ง​แปซิฟิก ​ก็ห้ามค้า​และครอบครองหูฉลาม​แล้ว

ด้านอุตสาหกรรมจำหน่ายหูฉลาม ​ก็คัดค้าน​เป็นธรรมดาว่าจะ​ทำ​ให้คนตกงาน​และรัฐ​เ​ก็บภาษี​ได้ลดลง ​ไม​เคิล กวอง ​เจ้าของบริษัท Hoo Woo Inc. ​ในซานฟรานซิส​โก ​ซึ่งค้าหูฉลามมา 4 ชั่วคน อ้างว่า​การล่าหูฉลาม​เป็นปัญหาระดับ​โลก ​การจะมาห้ามค้าขายทีละรัฐ​ไม่​เป็นประ​โยชน์ ถ้าห้าม​ก็ควรห้าม​ทั้งอ​เมริกา
​ทั้งนี้ที่ด้านนอกรัฐสภา ยังมีกลุ่มคนกินหูมาชูป้ายประท้วง No on 376 ด้วย

หูฉลามมีราคาสูง​ถึง 600 ดอลลาร์ต่อปอนด์ หูฉลาม​ใน​แคลิฟอร์​เนียราคาถ้วยละ 80 ดอลลาร์ ​ผู้​เชี่ยวชาญชี้ว่าฉลามถูกฆ่า​เอาครีบ​ถึงปีละ 73 ล้านตัว ​แต่​ผู้ที่คัดค้านกฎหมาย​ก็อ้างว่า​การห้าม​แค่รัฐ​แคลิฟอร์​เนีย​ไม่​ได้ช่วยอะ​ไร ​แต่กลับจะ​ทำ​ให้มี​การค้าหูฉลาม​เถื่อนมากขึ้น วุฒิสมาชิก คริสติน ​เค​โฮ ประธานกรรมาธิ​การ ​ก็กังวล​เรื่องดังกล่าวว่า​ความนิยมที่มีมานานจะ​ทำ​ให้​ไม่สามารถห้ามคนกินหู​ได้ ​แต่จะมีหู​เถื่อน​เต็ม​ไปหมด ขณะที่วุฒิสมาชิก​เท็ด ลิว อ้างตัว​เลขขององค์​การสมุทรศาสตร์​แห่งชาติว่า ​การนำ​เข้า​และส่งออกหูฉลาม​ในสหรัฐ​ในปีที่ผ่านมามี​เพียง 1% ของตลาด​โลก​เท่านั้น.


ที่มาของข่าว http://www.ryt9.com/s/tpd/1214905

[หอยกะทิ]

ข่าวจากซาคราเมนโต้ เมืองหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 กันยายนวุฒิสภาของรัฐลงมติ 25-9 ผ่านร่างกฎหมายห้ามจำหน่ายจ่ายแจก,ซื้อขายหรือดำเนินการใดๆเกี่ยวกับหูหลาม(Shark fin)อีกต่อไป

ร่างกฎหมายฉบับนี้ถึงข้อยุติและส่งไปให้ผู้ว่าการรัฐลงนามจึงจะมีผลเป็นกฎหมาย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2013 หลังจากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาผู้แทนของรัฐมาตั้งแต่ต้นปี 2011

หูฉลามเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่คนจีนกลายเป็นวัฒนธรรมของการกินจะต้องกิน

”ซุปหูฉลาม”

บรรดาผู้สนับสนุนร่างกฎหมายนี้มีอาทิเช่นดาราดัง เลโอนาร์โด ดิคาปริโอ้ และพ่อครัวชาวเอเชียหลายต่อหลายคน เพื่ออนุรักษ์ปลาฉลามอันเป็นสัตว์ที่เริ่มร่อยหรอลงเพราะมีการจับกันมาก รัฐแคลิฟอร์เนียมีชาวจีนอาศัยอยู่ 1.1 ล้านคนที่เรียกกันว่าไชนีส-อเมริกัน ถือเป็นตลาดที่บริโภค”หูฉลาม”ใหญ่ที่สุดที่อยู่นอกทวีปเอเชีย

วุฒิสมาชิกคริส คีโฮ พรรคเดโมแครต เขตซาน ดิเอโก้ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายนี้ระบุว่าเป็นการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างสุขภาพให้กับมหาสมุทร เหตุเพราะตลาดของเราที่นี่กลายเป็นโรงฆ่าสัตว์ไป

ฝ่ายต่อต้านเห็นว่ากฎหมายนี้ไม่ได้ระบุว่าฉลามพันธุ์ไหนบ้างที่ใกล้จะสูญพันธุ์ ถือเป็นการไม่ยุติธรรมกัลบคนจีน-อเมริกันที่ต้องใช้หูฉลามเป็นอาหารราคาแพงในงานวิวาห์หรือโอกาสพิเศษอื่นๆ

นอกจากนี้ยังระบุว่าร่างกฎหมายนี้ไม่ยุติธรรมเพราะต้องการห้ามเฉพาะ”หูฉลาม”แต่ไม่ได้ห้ามเนื้อฉลาม(shark steaks)ไม่ให้จำหน่าย หรือไม่ได้ห้ามสินค้าที่ทำจากผลิตภัณฑ์ของฉลามอาทิเช่นหนังฉลาม,รองเท้าบู้ธ,กระเป๋าและเข็มขัด




วุฒิสมาชิกเท็ด ลิว พรรคเดโมแครตในเขตทอแรนซ์ กล่าวว่าร่างกฎหมายนี้ถือเป็นการ”เลือกปฏิบัติ”

หูฉลามจำหน่ายในท้องตลาดตกประมาณ 600 ดอลลาร์ต่อปอนด์

ร่างกฎหมายนี้จะถูกส่งไปยังนายเจอร์รี่ บราวน์ ผู้ว่าการรัฐฯภายใน 12 วัน เพื่อลงนามหรือจะวีโต้ก็ได้ แต่หากไม่ทำอะไรเลยภายใน 12 วันก็ถือว่าร่างกฎหมายนี้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นรัฐแคลิฟอร์เนียก็จะเข้าร่วมวงกับรัฐฮาวาย,ออเรกอนและรัฐวอชิงตันที่ห้ามการจำหน่าย”หูฉลาม”ต่อไป

ตามประวัติกล่าวว่าหูฉลามเป็นอาหารโปรดของชาวจีนมาเมื่อ 2 พันปีแล้ว ส่วนใหญ่จะบริโภคกันในหมู่ขุนนางและชนชั้นสูงเพราะเป็นของหายากและราคาแพง ตัวของหูฉลามนั้นไม่มีรสชาติใดๆ แต่จะนำมาต้มจนกระทั่งมันแตกตัวเป็นเส้นเล็กๆเหมือนเส้นผม

จากนั้นจะมีการปรุงด้วยยาจีน,เห็ดหอมหรือสิ่งผสมอื่นๆเข้าไปและปรุงรสชาติให้เกิดความอร่อย กลายเป็นอาหารบนเหลาหรือภัตตาคารใหญ่




ในภาพคือ คุณ โบ ดี​เร็ก ครับ

ที่มาของข่าว http://apacnews.net/news/?p=8742

[สายชล]

ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะน้องเอก...


บ้านอื่นเมืองอื่น เขาเห็นความสำคัญของฉลามในระบบนิเวศทางทะเล มีแต่บ้านเรานี่แหล่ะค่ะ ที่เห็นความสำคัญของหูฉลาม บนโต๊ะเจรจาความเมือง หรืองานฉลองต่างๆ


เวรกรรมของฉลาม(ทะเลไทย)จริงๆ..

[หอยกะทิ]

บ้านเงิน ป่าหมดครับ

[สายน้ำ]

ผู้จัดการออนไลน์


กลุ่มอนุรักษ์เผยภาพ “โรงแล่หูฉลาม” ที่ไต้หวัน ตัดครีบ-ถลกหนัง กองพะเนิน

เอเอฟพี - พิวเอ็นไวโรเมนต์กรุ๊ป องค์กรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมในสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังวลวันนี้ (19) หลังการแพร่ภาพถ่ายชาวประมงไต้หวันที่ล่าปลาฉลามได้จำนวนมาก และตัดครีบมาตากแห้งเพื่อทำหูฉลาม

เว็บไซต์ของกลุ่มอนุรักษ์พิว เอ็นไวโรเมนต์ได้เผยแพร่ภาพถ่าย ขณะชาวประมงลำเลียงปลาฉลามที่ถูกคว้านไส้ลงจากรถบรรทุก กองลงบนพื้นรอการถลกหนัง รวมทั้งภาพครีบปลาฉลามที่กองพะเนินในโรงงานแล่หูฉลาม

แมตต์ แรนด์ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปลาฉลามของพิวเอ็นไวโรเมนต์ กล่าวว่า “ภาพถ่ายชุดนี้แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการล่าฉลามขนาดใหญ่ และหายนะอันเนื่องจากการขาดการดูแลปลาฉลามตามหลักวิทยาศาตร์ … น่าเสียดายที่เราไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการล่าปลาฉลามในทะเลลึก เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ทำนองนี้ก็คงดำเนินต่อไปไม่ลดละ”

ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไต้หวันเคยออกมาตรการที่เคร่งครัดเกี่ยวกับการล่าปลาฉลามเพื่อตัดเอาครีบ รวมทั้งมีการห้ามชาวประมงไม่ให้โยนปลาฉลามกลับลงทะเลและปล่อยให้มันตายอย่างทรมาน หลังจากตัดครีบออกหมดแล้ว

รายงานของพิวเอ็นไวโรเมนต์กรุ๊ป เมื่อเดือนมกราคมระบุว่า ไต้หวันล่าปลาฉลามมากเป็นอันดับ 4 ของโลก ส่วนประเทศที่ล่าปลาฉลามมากที่สุดประกอบด้วย อินโดนีเซีย อินเดีย และสเปน ตามลำดับ

ทั้งนี้ กลุ่มพิวเอ็นไวโรเมนต์ประเมินสถานการณ์ว่า ปลาฉลามทั่วโลกถูกฆ่าเฉลี่ยปีละ 73 ล้านตัว เพื่อหาประโยชน์จากการค้าหูฉลาม พร้อมทั้งเตือนว่า การสูญเสียประชากรฉลามอย่างรวดเร็วเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเลทั้งระบบ

(ภาพจากเว็บไซต์ pewenvironment.org)

[หอยกะทิ]

เคยไปอยู่กับป้าที่แพปลาสงขลามาราว 1 สัปดาห์ เมื่อตอนเด็ก จำได้ว่า
เรือไม่ว่าจะจับฉลามหรือตัวอะไรที่พอจะตับครีบมาทำหูฉลามได้ก็ตัดหมด กองเต็มหน้าร้านเลย

แล้วก็จะให้เด็กในร้านมาเลาะกรามไปตาก ผลกหนังไปฟอก เลาะกระดูกใหญ่ๆออกหมดก็ เอาลงเครื่องโม่ ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาล เกลือ (ส่วนผสมจำมาประสาเด็ก) บดๆๆๆๆๆ แล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ ทุบๆ ตาก เป็นริวกิว ปลาหวาน เหอๆ กินมาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเป็นแบบนี้มั๊ย


ในหัวจำได้ว่ามีทั้ง หูดำ หูขาว โรนิน โรนัน กระเบนผีเสื้อ (หรือนางฟ้า) ฉลามกบ และตัวใหญ่สุดที่เรายังไปกระโดดเหยียบๆ อยู่น่าจะเป็นขี้เซา ป้าเขารับซื้อหมด (เดี๋ยวนี้ก็ยังทำอยู่นะคิดว่า)

[สายชล]

วิถีชีวิตชาวทะเลแบบที่น้องหอยกะทิเล่ามา เป็นอย่างนี้มาแต่โบราณนานเน และคงจะสืบทอดต่อๆกันไป จนกว่าปลาทั้งหลายที่น้องบอกมาหมดทะเลไป ถ้ายังไม่มีการดูแลควบคุมให้เป็นเรื่องเป็นราวนะคะ

ทำใจค่ะ..ทำใจ...

[สายชล]

คราวนี้ ถึงทีพี่ยุ่น ฆ่าฉลามบ้าง...เห็นแล้วทั้งเซ็ง ทั้งเศร้าค่ะ














ขอบคุณภาพจาก...http://picpost.mthai.com/view/17074 และ http://www.alexhofford.com/node/2333

[สายชล]

เวรกรรม...เมือง Kesennuma ที่มีการทำอุตสาหกรรมแล่ฉลามขาย ตามเรื่องข้างบน ถูกสึนามิถล่มซะราบคาบไปแล้ว...



ภาพก่อนเกิดสึนามิ




ภาพหลังเกิดสึนามิ




ดูรายละเอียดที่นี่ค่ะ...http://www.alexhofford.com/node/2378