|
|
Share | คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
#1
|
||||
|
||||
เหตุผลที่ sos ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ระหว่างการออกไปดำน้ำทำกิจกรรมใต้ทะเล
บทความเรื่อง "แอลกอฮอล์ กับการดำน้ำ ... ภัยร้ายที่ถูกมองข้าม" ของ สุขภาพการดำน้ำ โดยหมอเอ๋ เป็นคำตอบที่ดีที่สุด สำหรับคำถามที่ว่า...ทำไมเวลาออกไปดำน้ำทำงานกับ SOS เราจึงห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด จนกว่ากิจกรรมดำน้ำทำงานจะเสร็จสิ้นลง เชิญอ่านดูนะคะ... https://www.facebook.com/profile.php...ation=timeline "แอลกอฮอล์ กับการดำน้ำ ... ภัยร้ายที่ถูกมองข้าม" ........ ขอ recycle อีกเรื่องนะครับ ... อยากรนณรงค์เรื่องนี้อย่างมาก ... Dive ... Do not drink. เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณ และเพื่อนร่วมดำน้ำครับ. หากการเมาแล้วขับนั้นมีอันตราย การดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำการดำน้ำนั้นยิ่งมีอันตรายมากกว่า เพราะไม่ต้องดื่มจนเกิดอาการมึนเมา ก็สร้างหายนะใหญ่หลวงให้แก่นักดำน้ำได้ครับ ผลของแอลกอฮอล์ ที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงทางสรีระวิทยาของนักดำน้ำ เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ ความเปลี่ยนแปลงแรกที่สังเกตุได้ชัดคือ ผิวหนังจะร้อน หน้าแดง ตัวแดง หัวใจเต้นเร็วและแรงขึ้น เป็นผลมาจาก แอลกอฮอล์ จะกระตุ้นให้หัวใจ บีบตัวเร็วและแรงขึ้น หลอดเลือดที่บริเวณผิวหนังเกิดการขยายตัว มีเลือดถูกสูบฉีดไปที่ผิวหนัง มากขึ้น เราจึงรู้สึก ร้อนที่ผิวหนังของร่างกายและใบหน้า เหตุการณ์ดังกล่าว หากเกิดขึ้นในขณะที่เราอยู่ใต้น้ำ ผลเสียที่เกิดขึ้นคือ ผลในระยะแรก - เราจะสูญเสียความร้อนในร่างกายได้มากขึ้นและไวขึ้น เนื่องจากผลของแอลกอฮอลที่ทำให้หลอดเลือดฝอยที่ผิวหนังขยายตัว ทำให้เลือดไปยังผิวหนังมากขึ้นพร้อมกับนำความร้อนในร่่างกายไปด้วย เมื่อสัมผัสกับน้ำจึงเสียความร้อนด้วยการพา มากขึ้น - เมื่อเริ่มดำลงใต้น้ำ การสูบฉีดโลหิตเพิ่มขึ้นจาำกแอลกอฮอล์ จะทำให้มีการขนถ่ายก๊าซไนโตรเจนไปยังบริเวณเนื้อเยื่อต่างๆ ได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ทำให้เกิดการสะสมก๊าซไนโตรเจนที่เนื้อเยื่อต่างๆมากกว่าปกติ ในขณะดำลง และ ในขณะดำขึ้น ก็ยังเป็นผลให้มีการปลดปล่อยก็าซไนโตรเจนออกมาเร็วและมากกว่าปกติ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการเกิด DCS ให้สูงขึ้นและรุนแรงขึ้น - แอลกอฮอล์ มีฤทธิ์กดระบบประสาท ทำให้มีอาการเคลิบเคลิ้ม ง่วงซึม การตัดสินใจผิดพลาด มีความระมัดระวังลดลง ความคิดบ้าบิ่นมากขึ้น เมื่ออาการดังกล่าว ไปเสริมฤทธิ์กับ Nitrogen nacrosis จะทำให้อาการรุนแรงขึ้น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือ หมดสติ ขณะดำน้ำ - แอลกอฮอล์ ปริมาณมาก มีฤทธิ์กดการหายใจ ทำให้อัตราการหายใจช้าลง อาจเกิดความเสี่ยงในการเกิดภาวะคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ ภาวะพร่องออกซิเจนได้ ผลในระยะต่อมา - แอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายนักดำน้ำ เกิดภาวะขาดน้ำที่รุนแรงมากขึ้น จากเดิมที่ในภาวะปกติ นักดำน้ำก็มีภาวะขาดน้ำกันอยู่ทุกคนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว - ภาวะขาดน้ำที่เกิดจากแอลกอออล์ จะทำให้ อาการ DCS นั้นแย่ลง รุนแรงมาก เนื่องจากความเข้มข้นของเลือดสูง ความหนืดของเลือดมาก การไหลเวียนจะช้าลง การปลดปล่อย และการกำจัดก๊าซไนโตรเจนออกจากร่างกายจะทำได้ยากและช้า จะเห็นได้ว่า แอลกอออล์ มีผล ร้ายแรงต่อสภาพทางสรีระวิทยาเมื่ออยู่ใต้น้ำ ดังนั้น การดื่มแอลกอฮอล์ ก่อน ,ระหว่างหรือหลังการดำน้ำ ในช่วง 24 ชม. จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยง และ เป็นอันตรายอย่างมาก ต่อการดำน้ำ อันตรายนั้นไม่เพียงแต่จะเกิดแก่นักดำน้ำเอง แต่ ยังส่งผลถึงเพื่อน บัดดี้ที่ต้องลงดำน้ำด้วย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เมื่อจะไปดำน้ำครับ
__________________
Saaychol |
#2
|
||||
|
||||
จากบทความของหมอเอ๋ข้างต้น...ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการดำน้ำแล้ว การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก็ยังส่งผลเสียให้กับร่างกายอยู่นะคะ ฉะนั้น หลังการดำน้ำทำงานเสร็จสิ้นแล้ว การดื่มก็ควรจะงดเสียเป็นดีที่สุดค่ะ รอให้พ้น 24 ชั่วโมง หลังดำน้ำไปแล้ว ค่อยดื่มจะดีกว่าค่ะ....
__________________
Saaychol แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 31-07-2013 เมื่อ 16:05 |
|
|