#1
|
||||
|
||||
พรปีใหม่ จาก 3 ผู้นำศาสนา
"สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์" (ช่วง วรปุญฺโญ) ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) ประทานพรใน ส.ค.ส. ว่า ""ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ขออ้างอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขออำนวยอวยพร ตามบทกลอนที่ว่า ปีใหม่แล้ว ขออวยพร สุนทรสวัสดิ์ จงกำจัดเรื่องชั่วร้าย กลายเป็นดี เมตตานี้ประเสริฐจริง ยิ่งสิ่งใด ทุกคนไซร้สามัคคี คือจริงจริง ขอให้ทุกคน จงรักษากายและวาจา จงควบคุมใจ จงเพิ่มพูนปัญญาให้ดี และขอให้ทุกคน มีเมตตา สามัคคี ทำหน้าที่ให้ดี จงรักภักดี ก็จะประสบความสุข ความเจริญ รุ่งเรืองร่ำรวย และจะได้ความสำเร็จในชีวิต ตลอดปี 2556 และตลอดไป"" สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ 17 ธันวาคม 2556 ตัวแทนประมุขศาสนาคริสต์ "บาทหลวง ดร.บรรจง สันติสุขนิรันดร์" ศูนย์วรรณกรรมซาเลเซียน อดีตอธิการบดีโรงเรียนเซนต์ดอมินิก ให้พรกับคริสต์ศาสนิกชนว่า "เริ่มต้นปีใหม่ ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน ส่งท้ายปีเก่าให้ความรู้สึกการสิ้นสุดแห่งวันเวลา ในขณะที่ตัวเลขอายุที่เพิ่มขึ้น พร้อมความทรงจำมากมายให้เป็นสุข ภาคภูมิใจ ผิดหวัง เสียใจ เริ่มต้นปีใหม่ ให้ความรู้สึกของวันเวลาที่รออยู่ข้างหน้า พร้อมความคาดหวัง ความฝันใฝ่ ความมุ่งมั่นตั้งใจ และก็เป็นธรรมเนียมทำกันมาช้านาน เราอวยชัยให้พรกันทั้งสำหรับวันท้ายปีเก่าและวันเริ่มต้นปีใหม่ เหมือนกับจะขอบคุณวันเวลา ขอบคุณทุกผู้ทุกคน สำหรับหนึ่งปีผ่านมาด้วยกัน พร้อมกันนั้นก็อวยพร ส่งจิตอธิษฐานให้ก้าวเข้าสู่ใหม่ด้วยความสุขสันต์ ความสมหวัง การอวยพรไม่หยุดอยู่แค่นั้น หากแต่ต้องต่อเนื่องไปเป็นพันธะ ความรับผิดชอบ ที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้พรเป็นจริง ทั้งสำหรับตนเอง ทั้งสำหรับคนที่รับพร เพราะฉันจะเป็นสุขไม่ได้ หากตัวฉันไม่พยายามและออกแรงทำทุกอย่างเพื่อมีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน ในเมื่อความสุขแท้เริ่มจากภายในจิตใจ บุคคล สิ่งของ และสถานการณ์ภายนอกเป็นแค่ตัวแปรที่เสริมที่เติมเต็มความสุขภายใน หรือจะพูดให้ถูก เป็นจิตใจนั่นแหละที่บันดาลให้บุคคล สิ่งของ และสถานการณ์ภายนอกเป็นสุขเป็นความพอใจ เพราะคนอื่นจะเป็นสุขไม่ได้หากฉันไม่พยายามและออกแรงทำทุกอย่างเพื่อให้คนข้างตัว คนรอบตัวเป็นสุข มีความพึงพอใจ หากคำนึงถึงหลักที่ว่าคนเราให้อะไรก็จะได้รับสิ่งนั้น หากฉันเป็นสุขและหว่านความสุขให้คนรอบข้าง ฉันก็จะได้รับความสุขจากการที่ทุกคนรอบข้างฉันเป็นสุข อารมณ์ดี จิตใจหรรษาเริงร่า เพราะหากฉันเป็นสุข แต่ความสุขของฉันทำให้คนรอบข้างเป็นทุกข์ ลำบาก ไร้สันติ ย่อมแสดงว่าความสุขของฉันไม่ใช่ความสุขแท้ หากเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตนเป็นหลัก ความสุขแท้ต้องเป็นความสุขสำหรับฉันและเป็นความสุขสำหรับคนอื่นเฉกเช่นความดี หากเป็นความดีแท้ต้องเป็นความดีสำหรับฉันและความดีสำหรับทุกคน ในบริบทความขัดแย้งในสังคมไทยทุกวันนี้ที่แต่ละฝ่ายต่างยืนหยัดยืนยันว่าเพื่อความดีของประเทศชาติ เพื่อความผาสุกของประชาชนนั้น คงต้องหันกลับมาทบทวนว่าที่อ้างว่าดีนั้น ดีแท้ หรือดีเฉพาะฝ่ายเฉพาะตน ถ้าดีแท้ ต้องเป็นความดีสำหรับทุกฝ่าย สำหรับทุกคน สำหรับประเทศชาติบ้านเมือง คนเป็นแม่คงไม่มีความสุข หากลูกสองคนอ้างว่ารักแม่ แต่ทะเลาะกัน เกลียดชังกัน เอาชนะกัน ความคิดเห็นต่างกันไม่จำเป็นต้องเป็นความแตกแยกกัน หากแต่ละความคิดเห็นมีความดีของประเทศชาติเป็นหลัก" "พรที่อธิษฐานสำหรับตนเองและสำหรับคนที่รักนับถือในปีใหม่นี้น่าจะเป็นพรและพันธะในเวลาเดียวกันจึงจะเป็นจริง ไม่ใช่เพียงคำพูดคำจา" ท่าน "อาศิส พิทักษ์คุมพล" จุฬาราชมนตรี ให้พรปีใหม่เป็นหลักในการดำเนินชีวิตของคนมุสลิมว่า "ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ" เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่พุทธศักราช 2557 ขอวิงวอนต่ออัลลอฮฺพระผู้เป็นเจ้า ทรงโปรดประทานพรแก่พี่น้องชาวไทยทุกท่าน ให้ได้รับหลักชัยแห่งชีวิตที่จะนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขอันสถาพร ขอทรงโปรดประทานแสงสว่างเพื่อให้คนไทยก้าวพ้นจากวิกฤตต่างๆ ของประเทศ บนพื้นฐานของการใช้สิตสัมปชัญญะการยังยั้งชั่งใจ ความบริสุทธิ์ใจ มีความรัก ความสามัคคี และความปรารถนาดีต่อกัน หันหน้ามาปรึกษาหารือกันด้วยดี เคารพในความเป็นมนุษย์ของกันและกัน อดทนต่อความแตกต่างทางความคิด และให้อภัยซึ่งกันและกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นปึกแผ่นและความสันติสุขของประเทศชาติให้คงอยู่สืบไป "สามัคคีคือพลังพัฒนาชาติไทย"
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 12-08-2014 เมื่อ 08:32 |
|
|