#1
|
|||
|
|||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 11 มีนาคม 2563
กรมอุตุนิยมวิทยา
ลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. รายละเอียดเพิ่มเติม ออกประกาศ 11 มีนาคม 2563 05:00 น. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 10 - 11 มี.ค. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 16 มี.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 10 - 11 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 16 มี.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย |
#2
|
|||
|
|||
ข่าวสด
ร้อนตับแลบ! กรมอุตุฯ เตือนวันนี้ไทยตอนบนร้อนจัด อุณหภูมิทะลุ 40องศา กรุงระอุ กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนร้อนจัด อุณหภูมิทะลุ 40 องศา ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วย ระบุสุดสัปดาห์นี้ พายุฤดูร้อนจ่อถล่มอีกรอบ มีลูกเห็บตก-ลมกระโชกแรง กรมอุตุฯ / วันที่ 11 มี.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 13-16 มี.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 04.00 น. หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนโดยทั่วไป สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ส่งเสริมเกษตรกรใช้ประโยชน์จากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก (ฝายน้ำล้น) และคลองส่งน้ำ คสล. การทำการเกษตรของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่เกษตรกรทำการเกษตรบนพื้นที่ลาดชันและพื้นที่ที่เป็นหุบเขา ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาในการใช้น้ำรดพืชผลทางการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน จึงได้ดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก (ฝายน้ำล้น) และคลองส่งน้ำ คสล. ขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้มีน้ำใช้เพียงต่อการทำเกษตรกรรม นายเทวินทร์ รวมสุขนิรันดร ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า.. สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ได้ดำเนินการการใช้ประโยชน์จากโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก (ฝายน้ำล้น) และคลองส่งน้ำ แหล่งน้ำขนาดเล็กตั้งแต่ ปี 2524-2562 คือ ฝายน้ำล้น สระน้ำ อ่างเก็บน้ำ ขุดลอกคู คลอง หนอง บึง และระบบกระจายน้ำ รวม 69 แห่ง ในพื้นที่ ต.ห้วยผา มีงานพัฒนาแหล่งน้ำจำนวน 10 แห่ง และในพื้นที่บ้านนาปลาจาดมีระบบส่งน้ำ 2 แห่ง บ้านห้วยมะส้าน มีฝายน้ำล้น 1 แห่ง ระบบส่งน้ำ 1 แห่ง เนื่องจากเกษตรกรมีน้ำไม่เพียงพอในการทำการเกษตร ซึ่งพื้นที่เป็นพื้นที่หุบเขาและลาดชันลักษณะค่อนข้างสูง เกษตรกรจึงเข้าไปขอสนับสนุนงบประมาณจากกรมพัฒนาที่ดิน โดยสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน จึงได้ให้ช่างมาสำรวจพื้นที่และดำเนินการก่อสร้างฝายน้ำล้นและคลองส่งน้ำ คสล. ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพียงพอต่อความต้องการ และมีน้ำใช้รดพืชผลทางการเกษตรหมุนเวียนตลอดทั้งปี ด้าน ว่าที่ร้อยตรี ธเนศ แซวหลี นักวิชาการเกษตรปฏิบัติการ สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า..เมื่อเกษตรกรได้รับการสนับสนุนฝายน้ำล้น และคลองส่งน้ำที่เป็นคอนกรีตแล้ว ทำให้เกษตรกรสามารถใช้น้ำอย่างเต็มประสิทธิภาพ จากที่แต่เดิมปลูกพืชผลทางการเกษตรได้เพียงรอบเดียว พอมีน้ำใช้เพียงพอทำให้สามารถปลูกได้ถึง 3 รอบต่อปี มีรายได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น จากการปลูกผักขาย เลี้ยงปลาในบ่อ นอกจากนี้สถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน ยังสนับสนุนเกษตรกรในการผลิตปุ๋ยใช้เอง ซึ่งเป็นการลดต้นทุนเพิ่มมูลค่าผลผลิต ช่วยฟื้นฟูสภาพดินให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ได้อีกทางหนึ่งด้วย นายเกษม แสนฤทธิ์เจริญ เกษตรกร จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเพิ่มเติมว่า.. ตอนนี้ทำการเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงปลาในบ่อ หลังจากการปลูกข้าวเสร็จ ก็จะมีการปลูกกระเทียม ปลูกถั่ว ปลูกข้าวโพด สามารถนำน้ำจากตรงนี้ไปใช้ในการเกษตรได้หลากหลาย จึงอยากขอบคุณทางสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างมากที่ได้เข้ามาสนับสนุนการทำคลองส่งน้ำ นอกเหนือจากนี้ยังสนับสนุนในเรื่องของการทำน้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยหมัก อีกทั้งยังสนับสนุนเมล็ดปอเทืองเพื่อมาปลูกเป็นปุ๋ยพืชสดในการปรับปรุงบำรุงดิน อย่างไรก็ตามสถานีพัฒนาที่ดินแม่ฮ่องสอน นอกจากจะสนับสนุนโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กฝายน้ำล้นและคลองส่งน้ำ คสล. แล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่คอยลงพื้นที่เป็นพี่เลี้ยงในการทำเกษตรกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่ อบรมให้ความรู้ และสนับสนุนปัจจัยการผลิตต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรที่ยั่งยืน ช่วยเหลือตนเอง มีกิน มีใช้ และรู้จักการใช้น้ำในพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อีกด้วย |
|
|