เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 10-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 10 - 11 เม.ย. 63 บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 14 เม. ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก หลังจากนั้น ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม. ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 10-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


สัตว์ทางทะเลหนีอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้น



อุณหภูมิความร้อนที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียสในช่วงปี พ.ศ.2593 มีนักวิจัยหลายคนให้ความเห็นว่าชนิดพันธุ์ของ สัตว์ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงการกระจายประชากรในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า เมื่อเร็วๆนี้ นักนิเวศวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัย บริสตอลในอังกฤษ เผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น

สัตว์ทะเลบางชนิดดูเหมือนจะได้รับประโยชน์ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่สิ่งมีชีวิตทางทะเลบางชนิดก็ไม่สามารถปรับตัวได้เร็วพอที่จะรักษาชีวิตรอดได้ จากการค้นพบว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ทางทะเลกำลังอพยพ ไปยังขั้วโลก เพื่อหนีอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้นใกล้เคียงกับอุณหภูมิตรงเส้นศูนย์สูตร ทำให้ระบุได้ว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดประชากรและการแพร่กระจายของสัตว์ทะเล

ยกตัวอย่าง เช่น ประชากรปลาเฮอริงแอตแลนติกและเพนกวินอาเดลี มีจำนวนลดลงอย่างมากตรงบริเวณใกล้กับเส้นศูนย์สูตร แต่กลับชุกชุมเพิ่มขึ้นในแถบขั้วโลก นอกจากนี้ ยังพบแนวโน้มแบบเดียวกันในสิ่งมีชีวิตทางทะเลทุกกลุ่ม ตั้งแต่แพลงก์ตอน ไปจนถึงสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในทะเล ปลา หรือนกทะเล ซึ่งการวิจัยยังชี้ว่าสิ่งมีชีวิตบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่เย็นกว่า.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1815478

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 10-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ตื่นตา!! ชาวประมงบ้านกรูดพบโลมาปากขวดฝูงใหญ่กว่า 30 ตัว



ประจวบคีรีขันธ์ - พบฝูงโลมา 30 ตัว ในท้องทะเลบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ว่ายอวดโฉมแข่งมากับเรือ ด้านอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชี้เป็นผลจากการที่ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำให้วันนี้ได้เห็นฝูงโลมาปากขวดขนาดใหญ่ ว่ายในท้องทะเล

นายอิทธิพัทธ์ เนียมทัต ชาวประมงบ้านกรูด เล่าว่า วันนี้(9 เม.ย.) ณะนำเรือออกไปกู้อวนปลา ห่างจากชายฝั่งทะเลบ้านกรูด-อ่าวบ่อทองหลาง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร ระหว่างเดินทางกลับเข้าชายฝั่ง พบเห็นฝูงโลมานับดูรวมๆแล้วกว่า 30 ตัว มีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ มากันเป็นแบบครอบครัว รวมทั้งยังเห็นโลมาสีชมพูด้วย ว่ายตามข้างเรือไปมาโดยรอบๆเรือให้เห็นอย่างชัดเจนโดยตนเองต้องชะลอเรือให้แล่นช้าลงเพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมา ตนเองและทุกคนที่อยู่บนเรือได้เห็นฝูงโลมาอยู่ประมาณ 20 นาที

ซึ่งสภาพวันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสคลื่นลมสงบมาก โดยตนเองและลูกเรืออีก 4 คนต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาในช่วงนั้น จึงบันทึกไฟล์วีดีโอและไลฟ์สดผ่าน เฟซบุ๊กของตนเอง โดยฝูงโลมาทั้งหมดได้ว่ายมุ่งหน้าขึ้นไปทางอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งออกเรือประมงมาไม่เคยพบฝูงโลมามากขนาดนี้ในท้องทะเลประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมีนาคม-ถึงขณะนี้พบโลมาในท้องทะเล แต่ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดและใกล้มากๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบวาฬบรูด้า 1 ตัวว่ายหากินที่ท้องทะเลบ้านกรูดน้ำลึกประมาณ 10 กว่าเมตร ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนหันมาช่วยกันดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันมากขึ้นดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันต่อไป



ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าภายหลังได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านกรูดถึงการพบเห็นฝูงโลมาใหญ่ ยอมรับว่ารู้สึกดีใจที่มีการพบเห็นโลมานั้นตรวจสอบตามภาพถ่ายที่ส่งมาให้แล้ว พบเป็นโลมาปากขวด(Indo-Pacific bottlenose dolphin; Tursiops aduncus) โดยโลมาปากขวดโตเต็มที่ มีความยาว 2.7 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม ลูกแรกเกิดขนาดประมาณ 1 เมตร โลมาปากขวดมีลำตัวอ้วน โหนกหัวกลมมน จะงอยปากค่อนข้างสั้นและใหญ่ ครีบข้างเรียวยาว ครีบหลังค่อนข้างใหญ่และโค้ง อยู่กึ่งกลางหลัง ลำตัวสีเทา ท้องสีขาวอมชมพู มีแถบสีดำพาดจากหลังดวงตาถึงครีบข้าง เมื่อโตเต็มวัยมีจุดสีเทาเข้มประปรายตามข้างลำตัวและท้อง

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวอีกว่าโลมาปากขวดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 ปี ตั้งท้องนาน 12 เดือน ออกลูกทุก 4-6 ปี ลูกจะกินนมแม่นานประมาณ 1.5-2 ปี โดยโลมาปากขวดมีอายุยืนมากกว่า 40 ปี ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 185 ตัว พบได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอ่าวไทยพบมากที่จังหวัดตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลาส่วนฝั่งทะเลอันดามันพบมากที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง

ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลผลจากการสร้างความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกในการอนุรักษ์ท้องทะเลของภาครัฐ ให้ชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ท้องทะเล และทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้วันนี้เราจะพบเห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆได้มากขึ้นไม่ว่าการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล วาฬบรูด้า และฝูงโลมาตามท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากพี่น้องชาวประมงพบเห็นฝูงโลมา ก็ขอให้ชะลอความเร็วของเรือลงด้วย เพื่อความปลอดภัยของโลมา


https://mgronline.com/local/detail/9630000036946

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 10-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


หนุ่มไลฟ์โชว์ โลมาปากขวดฝูงใหญ่ ว่ายหยอกล้อทะเลบ้านกรูด



วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพัทธ์ เนียมทัต อายุ 22 ปีชาวประมงบ้านกรูด ได้เฟซบุ๊กไลฟ์โชว์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเลบ้านกรูด ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะวิ่งเรืออยู่กลางทะเลพบฝูงโลมาปากขวดฝูงใหญ่ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กว่า 30 ตัว ว่ายน้ำแข่งเคียงข้างเรือประมงอยู่นาน

นายอิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสคลื่นลมสงบมาก ขณะนำเรือออกทะเลเพื่อไปกู้อวนปลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลบ้านกรูดกับอ่าวบ่อทองหลาง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร

ระหว่างที่กำลังขับเรือกลับเข้าชายฝั่งที่หาดบ้านกรูด พบเห็นฝูงโลขนาดใหญ่ ประเมินด้วยสายตาและพยายามนับดูแล้ว น่าจะมีไม่น้อยกว่า 30 ตัว ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ น่าจะมากันเป็นครอบครัวใหญ่ และพบว่าในฝูงดังกล่าวมีโลมาสีชมพูรวมอยู่ด้วย

โดยว่ายกระโดดโต้คลื่นทะเล และเมื่อเรือประมงเข้าใกล้ ปรากฎว่า ฝูงโลมาต่างตามว่ายหยอกล้ออยู่แถวข้างเรือทำให้สามารถถ่ายคลิปวีดีโอเห็นโลมาขนาดใหญ่ได้เห็นอย่างชัดเจน

เมื่อนั่งข้างเรือและห้อยเท้าไปข้างนอกเรือรู้สึกเหมือนได้ขี่หลังโลมาเลยที่เดียวเพราะใกล้มาก ซึ่งเมื่อเห็นว่าโลมาเข้าใกล้เรือ ได้ชะลอเรือให้แล่นช้าลงเพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมา ตนเองและลูกเรือประมางอีก 4 คนที่อยู่บนเรือได้เห็นฝูงโลมาว่ายน้ำเคียงข้างเรืออยู่นานกว่า 20 นาที

วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติก็มักจะเห็นบ่อยๆแต่ว่ายอยู่ไกลๆ ไม่เคยได้ใกล้ชิดขนาดนี้ และไม่เคยเจอรวมฝูงใหญ่มากขนาดนี้มาก่อน โดยฝูงโลมาทั้งหมดได้ว่ายน้ำมุ่งหน้าไปทางอ่าวประจวบคีรีขันธ์

ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบวาฬบรูด้า 1 ตัวว่ายน้ำหากินที่ท้องทะเลบ้านกรูดน้ำ ความยาวประมาณ 10 กว่าเมตรได้ โดยเชื่อว่าเพราะทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนหันมาช่วยกันดูแลอนุรักษ์ฯกันมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันต่อไป

ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านกรูด ว่าพบโลมาฝูงใหญ่ รู้สึกดีใจมาก เมื่อตรวจสอบตามคลิปวีดีโอและภาพถ่ายที่ส่งมานั้น ชี้ว่า โลมาฝูงดังกล่าวคือ โลมาปากขวด ซึ่งโลมาปากขวดนั้นเมื่อโตเต็มที่ จะมีความยาวถึง 2.7 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม ลูกแรกเกิดขนาดประมาณ 1 เมตร

โลมาปากขวดมีลำตัวอ้วน โหนกหัวกลมมน จะงอยปากค่อนข้างสั้นและใหญ่ ครีบข้างเรียวยาว ครีบหลังค่อนข้างใหญ่และโค้ง อยู่กึ่งกลางหลัง ลำตัวสีเทา ท้องสีขาวอมชมพู มีแถบสีดำพาดจากหลังดวงตาถึงครีบข้าง เมื่อโตเต็มวัยมีจุดสีเทาเข้มประปรายตามข้างลำตัวและท้อง

โลมาปากขวดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 ปี ตั้งท้องนาน 12 เดือน ออกลูกทุก 4-6 ปี ลูกจะกินนมแม่นานประมาณ 1.5-2 ปี โดยโลมาปากขวดมีอายุยืนมากกว่า 40 ปี ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 185 ตัว พบได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอ่าวไทยพบมากที่จังหวัดตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลา ส่วนฝั่งทะเลอันดามันพบมากที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การพบฝูงโลมาฝูงใหญ่นี้ เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ผลจากชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้วันนี้เราจะพบเห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆได้มากขึ้น

ไม่ว่าการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล วาฬบรูด้า และฝูงโลมาตามท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากพี่น้องชาวประมงพบเห็นฝูงโลมาว่ายน้ำใกล้เรือประมง ขอให้ชะลอความเร็วของเรือและระวังเรื่องใบพัดเรือ เพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมาด้วย


https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3920430

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 10-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


เศร้า! พบซาก 'เต่าตนุ' ขนาดใหญ่เกยตื้นหาดระยอง



9 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เข้าตรวจสอบซากเต่าตนุตายเกยตื้นบริเวณชายหาดทะเลระยอง ใกล้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านปลวกเกตุ ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หลังจากได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ว่ามีเต่าตนุขนาดใหญ่ตายเกยตื้นชายหาดดังกล่าว

ตรวจสอบพบว่า เต่าตนุตัวดังกล่าว เป็นเต่าตนุเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี วัดลำตัวยาวกว่า 1 เมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าซากเต่าตนุตัวดังกล่าว เพื่อตรวจหาสาเหตุการตาย พบว่า ภายในกระเพาะของเต่ามีเศษหญ้าและเศษอาหารรวมทั้งเม็ดทราย แต่ไม่พบมีเศษถุงพลาสติกอยู่ในกระเพาะแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าปอดของเต่าอักเสบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บอวัยวะภายใน ซากกระดองเต่า รวมทั้งเศษอาหารที่พบในกระเพาะไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้อีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ นางสาว อรณี จงกลแพทย์ สัตวแพทย์ของสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เผยว่า เบื้องต้นนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้ได้ พบเพียงว่าบริเวณปอดของเต่ามีการอักเสบ และจากการตรวจสอบยังพบว่าเต่าตนุตัวนี้มีหมายเลข 111 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหมายเลขประจำตัวของเต่าแต่ไม่พบมีการฝังชิบติดตัวเอาไว้แต่อย่างใด


https://www.naewna.com/likesara/485272

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:23


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger