#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 10 - 11 เม.ย. 63 บริเวณประเทศไทยจะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ และมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 14 เม. ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก หลังจากนั้น ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ตลอดช่วง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12 - 14 เม. ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
สัตว์ทางทะเลหนีอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้น อุณหภูมิความร้อนที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 1.5 องศาเซลเซียสในช่วงปี พ.ศ.2593 มีนักวิจัยหลายคนให้ความเห็นว่าชนิดพันธุ์ของ สัตว์ มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงการกระจายประชากรในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า เมื่อเร็วๆนี้ นักนิเวศวิทยาวิวัฒนาการจากมหาวิทยาลัย บริสตอลในอังกฤษ เผยว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่เพียงแต่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น สัตว์ทะเลบางชนิดดูเหมือนจะได้รับประโยชน์ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่สิ่งมีชีวิตทางทะเลบางชนิดก็ไม่สามารถปรับตัวได้เร็วพอที่จะรักษาชีวิตรอดได้ จากการค้นพบว่าสัตว์ที่อาศัยอยู่ทางทะเลกำลังอพยพ ไปยังขั้วโลก เพื่อหนีอุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้นใกล้เคียงกับอุณหภูมิตรงเส้นศูนย์สูตร ทำให้ระบุได้ว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนาดประชากรและการแพร่กระจายของสัตว์ทะเล ยกตัวอย่าง เช่น ประชากรปลาเฮอริงแอตแลนติกและเพนกวินอาเดลี มีจำนวนลดลงอย่างมากตรงบริเวณใกล้กับเส้นศูนย์สูตร แต่กลับชุกชุมเพิ่มขึ้นในแถบขั้วโลก นอกจากนี้ ยังพบแนวโน้มแบบเดียวกันในสิ่งมีชีวิตทางทะเลทุกกลุ่ม ตั้งแต่แพลงก์ตอน ไปจนถึงสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังในทะเล ปลา หรือนกทะเล ซึ่งการวิจัยยังชี้ว่าสิ่งมีชีวิตบางชนิดเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่เย็นกว่า. https://www.thairath.co.th/news/foreign/1815478
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ตื่นตา!! ชาวประมงบ้านกรูดพบโลมาปากขวดฝูงใหญ่กว่า 30 ตัว ประจวบคีรีขันธ์ - พบฝูงโลมา 30 ตัว ในท้องทะเลบ้านกรูด อ.บางสะพาน จ.ประจวบฯ ว่ายอวดโฉมแข่งมากับเรือ ด้านอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชี้เป็นผลจากการที่ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทำให้วันนี้ได้เห็นฝูงโลมาปากขวดขนาดใหญ่ ว่ายในท้องทะเล นายอิทธิพัทธ์ เนียมทัต ชาวประมงบ้านกรูด เล่าว่า วันนี้(9 เม.ย.) ณะนำเรือออกไปกู้อวนปลา ห่างจากชายฝั่งทะเลบ้านกรูด-อ่าวบ่อทองหลาง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร ระหว่างเดินทางกลับเข้าชายฝั่ง พบเห็นฝูงโลมานับดูรวมๆแล้วกว่า 30 ตัว มีทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ มากันเป็นแบบครอบครัว รวมทั้งยังเห็นโลมาสีชมพูด้วย ว่ายตามข้างเรือไปมาโดยรอบๆเรือให้เห็นอย่างชัดเจนโดยตนเองต้องชะลอเรือให้แล่นช้าลงเพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมา ตนเองและทุกคนที่อยู่บนเรือได้เห็นฝูงโลมาอยู่ประมาณ 20 นาที ซึ่งสภาพวันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสคลื่นลมสงบมาก โดยตนเองและลูกเรืออีก 4 คนต่างรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาในช่วงนั้น จึงบันทึกไฟล์วีดีโอและไลฟ์สดผ่าน เฟซบุ๊กของตนเอง โดยฝูงโลมาทั้งหมดได้ว่ายมุ่งหน้าขึ้นไปทางอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งออกเรือประมงมาไม่เคยพบฝูงโลมามากขนาดนี้ในท้องทะเลประจวบคีรีขันธ์ อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมีนาคม-ถึงขณะนี้พบโลมาในท้องทะเล แต่ครั้งนี้ถือว่ามากที่สุดและใกล้มากๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบวาฬบรูด้า 1 ตัวว่ายหากินที่ท้องทะเลบ้านกรูดน้ำลึกประมาณ 10 กว่าเมตร ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนหันมาช่วยกันดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันมากขึ้นดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันต่อไป ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่าภายหลังได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านกรูดถึงการพบเห็นฝูงโลมาใหญ่ ยอมรับว่ารู้สึกดีใจที่มีการพบเห็นโลมานั้นตรวจสอบตามภาพถ่ายที่ส่งมาให้แล้ว พบเป็นโลมาปากขวด(Indo-Pacific bottlenose dolphin; Tursiops aduncus) โดยโลมาปากขวดโตเต็มที่ มีความยาว 2.7 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม ลูกแรกเกิดขนาดประมาณ 1 เมตร โลมาปากขวดมีลำตัวอ้วน โหนกหัวกลมมน จะงอยปากค่อนข้างสั้นและใหญ่ ครีบข้างเรียวยาว ครีบหลังค่อนข้างใหญ่และโค้ง อยู่กึ่งกลางหลัง ลำตัวสีเทา ท้องสีขาวอมชมพู มีแถบสีดำพาดจากหลังดวงตาถึงครีบข้าง เมื่อโตเต็มวัยมีจุดสีเทาเข้มประปรายตามข้างลำตัวและท้อง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวอีกว่าโลมาปากขวดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 ปี ตั้งท้องนาน 12 เดือน ออกลูกทุก 4-6 ปี ลูกจะกินนมแม่นานประมาณ 1.5-2 ปี โดยโลมาปากขวดมีอายุยืนมากกว่า 40 ปี ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 185 ตัว พบได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอ่าวไทยพบมากที่จังหวัดตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลาส่วนฝั่งทะเลอันดามันพบมากที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลผลจากการสร้างความรู้ความเข้าใจและจิตสำนึกในการอนุรักษ์ท้องทะเลของภาครัฐ ให้ชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ท้องทะเล และทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้วันนี้เราจะพบเห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆได้มากขึ้นไม่ว่าการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล วาฬบรูด้า และฝูงโลมาตามท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากพี่น้องชาวประมงพบเห็นฝูงโลมา ก็ขอให้ชะลอความเร็วของเรือลงด้วย เพื่อความปลอดภัยของโลมา https://mgronline.com/local/detail/9630000036946
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
หนุ่มไลฟ์โชว์ โลมาปากขวดฝูงใหญ่ ว่ายหยอกล้อทะเลบ้านกรูด วันที่ 9 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอิทธิพัทธ์ เนียมทัต อายุ 22 ปีชาวประมงบ้านกรูด ได้เฟซบุ๊กไลฟ์โชว์ให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของท้องทะเลบ้านกรูด ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะวิ่งเรืออยู่กลางทะเลพบฝูงโลมาปากขวดฝูงใหญ่ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก กว่า 30 ตัว ว่ายน้ำแข่งเคียงข้างเรือประมงอยู่นาน นายอิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า วันนี้ท้องฟ้าโปร่งใสคลื่นลมสงบมาก ขณะนำเรือออกทะเลเพื่อไปกู้อวนปลา ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลบ้านกรูดกับอ่าวบ่อทองหลาง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 5 ไมล์ทะเล ระดับน้ำลึกประมาณ 30 เมตร ระหว่างที่กำลังขับเรือกลับเข้าชายฝั่งที่หาดบ้านกรูด พบเห็นฝูงโลขนาดใหญ่ ประเมินด้วยสายตาและพยายามนับดูแล้ว น่าจะมีไม่น้อยกว่า 30 ตัว ทั้งขนาดเล็กขนาดใหญ่ น่าจะมากันเป็นครอบครัวใหญ่ และพบว่าในฝูงดังกล่าวมีโลมาสีชมพูรวมอยู่ด้วย โดยว่ายกระโดดโต้คลื่นทะเล และเมื่อเรือประมงเข้าใกล้ ปรากฎว่า ฝูงโลมาต่างตามว่ายหยอกล้ออยู่แถวข้างเรือทำให้สามารถถ่ายคลิปวีดีโอเห็นโลมาขนาดใหญ่ได้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อนั่งข้างเรือและห้อยเท้าไปข้างนอกเรือรู้สึกเหมือนได้ขี่หลังโลมาเลยที่เดียวเพราะใกล้มาก ซึ่งเมื่อเห็นว่าโลมาเข้าใกล้เรือ ได้ชะลอเรือให้แล่นช้าลงเพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมา ตนเองและลูกเรือประมางอีก 4 คนที่อยู่บนเรือได้เห็นฝูงโลมาว่ายน้ำเคียงข้างเรืออยู่นานกว่า 20 นาที วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นอย่างใกล้ชิด ซึ่งปกติก็มักจะเห็นบ่อยๆแต่ว่ายอยู่ไกลๆ ไม่เคยได้ใกล้ชิดขนาดนี้ และไม่เคยเจอรวมฝูงใหญ่มากขนาดนี้มาก่อน โดยฝูงโลมาทั้งหมดได้ว่ายน้ำมุ่งหน้าไปทางอ่าวประจวบคีรีขันธ์ ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็พบวาฬบรูด้า 1 ตัวว่ายน้ำหากินที่ท้องทะเลบ้านกรูดน้ำ ความยาวประมาณ 10 กว่าเมตรได้ โดยเชื่อว่าเพราะทะเลมีความอุดมสมบูรณ์ ทุกคนหันมาช่วยกันดูแลอนุรักษ์ฯกันมากขึ้น ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลกันต่อไป ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวประมงบ้านกรูด ว่าพบโลมาฝูงใหญ่ รู้สึกดีใจมาก เมื่อตรวจสอบตามคลิปวีดีโอและภาพถ่ายที่ส่งมานั้น ชี้ว่า โลมาฝูงดังกล่าวคือ โลมาปากขวด ซึ่งโลมาปากขวดนั้นเมื่อโตเต็มที่ จะมีความยาวถึง 2.7 เมตร น้ำหนัก 230 กิโลกรัม ลูกแรกเกิดขนาดประมาณ 1 เมตร โลมาปากขวดมีลำตัวอ้วน โหนกหัวกลมมน จะงอยปากค่อนข้างสั้นและใหญ่ ครีบข้างเรียวยาว ครีบหลังค่อนข้างใหญ่และโค้ง อยู่กึ่งกลางหลัง ลำตัวสีเทา ท้องสีขาวอมชมพู มีแถบสีดำพาดจากหลังดวงตาถึงครีบข้าง เมื่อโตเต็มวัยมีจุดสีเทาเข้มประปรายตามข้างลำตัวและท้อง โลมาปากขวดเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 12 ปี ตั้งท้องนาน 12 เดือน ออกลูกทุก 4-6 ปี ลูกจะกินนมแม่นานประมาณ 1.5-2 ปี โดยโลมาปากขวดมีอายุยืนมากกว่า 40 ปี ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรรวมประมาณ 185 ตัว พบได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยฝั่งอ่าวไทยพบมากที่จังหวัดตราด ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช และสงขลา ส่วนฝั่งทะเลอันดามันพบมากที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และตรัง อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การพบฝูงโลมาฝูงใหญ่นี้ เป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเล ผลจากชาวประมงช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ ทำให้วันนี้เราจะพบเห็นสัตว์ทะเลชนิดต่างๆได้มากขึ้น ไม่ว่าการขึ้นวางไข่ของเต่าทะเล วาฬบรูด้า และฝูงโลมาตามท้องทะเลทั้งฝั่งอันดามัน และฝั่งอ่าวไทย อย่างไรก็ตามหากพี่น้องชาวประมงพบเห็นฝูงโลมาว่ายน้ำใกล้เรือประมง ขอให้ชะลอความเร็วของเรือและระวังเรื่องใบพัดเรือ เพื่อความปลอดภัยของฝูงโลมาด้วย https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3920430
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
เศร้า! พบซาก 'เต่าตนุ' ขนาดใหญ่เกยตื้นหาดระยอง 9 เมษายน 2563 เจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เข้าตรวจสอบซากเต่าตนุตายเกยตื้นบริเวณชายหาดทะเลระยอง ใกล้กับกลุ่มประมงพื้นบ้านปลวกเกตุ ตำบลเชิงเนิน อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หลังจากได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้าน ว่ามีเต่าตนุขนาดใหญ่ตายเกยตื้นชายหาดดังกล่าว ตรวจสอบพบว่า เต่าตนุตัวดังกล่าว เป็นเต่าตนุเพศเมีย อายุประมาณ 10 ปี วัดลำตัวยาวกว่า 1 เมตร ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าซากเต่าตนุตัวดังกล่าว เพื่อตรวจหาสาเหตุการตาย พบว่า ภายในกระเพาะของเต่ามีเศษหญ้าและเศษอาหารรวมทั้งเม็ดทราย แต่ไม่พบมีเศษถุงพลาสติกอยู่ในกระเพาะแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าปอดของเต่าอักเสบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บอวัยวะภายใน ซากกระดองเต่า รวมทั้งเศษอาหารที่พบในกระเพาะไปตรวจสอบหาสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ นางสาว อรณี จงกลแพทย์ สัตวแพทย์ของสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ระยอง เผยว่า เบื้องต้นนี้ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายของเต่าตัวนี้ได้ พบเพียงว่าบริเวณปอดของเต่ามีการอักเสบ และจากการตรวจสอบยังพบว่าเต่าตนุตัวนี้มีหมายเลข 111 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหมายเลขประจำตัวของเต่าแต่ไม่พบมีการฝังชิบติดตัวเอาไว้แต่อย่างใด https://www.naewna.com/likesara/485272
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|