เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 21-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 21 เมษายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดในหลายพื่นที่ และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนลดลง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 22- 25 เมษายน 2563 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วนกับอากาศร้อน ในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 20 - 21 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

ส่วนในช่วงวันที่ 22 ? 26 เม.ย. 63 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่า และลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระในระยะต่อไป สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 20 - 21 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่ร้อนไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 22 ? 26 เม.ย. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงลูกเห็บตก โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 22 - 25 เมษายน 2563)" ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 21 เมษายน 2563

ในช่วงวันที่ 22- 25 เมษายน 2563 จะมีบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้เกิดการปะทะกันของมวลอากาศเย็นและอากาศร้อน ส่งผลทำให้มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะได้รับผลกระทบก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือจะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า และลูกเห็บตกที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


ในช่วงวันที่ 22 เมษายน 2563

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดดสกลนคร นครพนม มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี


ในช่วงวันที่ 23-24 เมษายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด


ในช่วงวันที่ 25 เมษายน 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิขอนแก่น มหาสารคาม นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง: จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 21-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


โควิด-19 ทำให้ธรรมชาติฟื้นฟูฝูงฉลามหูดำกว่า 20 ตัวโผล่เล่นน้ำหน้าหาดเกาะตาชัย

โควิด-19 ทำให้ธรรมชาติฟื้นฟูจากการประการปิดเกาะห้ามนักท่องเที่ยวเข้าชม พบฝูงฉลามหูดำกว่า 20 ตัว โผล่เล่นน้ำหน้าหาดเกาะตาชัย อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา



วันที่ 20 เม.ย.63 ขณะที่นายถนอมศักดิ์ แฝดสุระ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ออกปฏิบัติหน้าที่ประจำวันในยามเช้าได้พบฝูงฉลามหูดำ เกือบ 20 ตัว ว่ายเล่นน้ำอยู่บริเวณหน้าหาดเกาะตาชัย ของอุทยานแห่งหมู่เกาะสิมิลัน จึงทำการบันทึกภาพไว้ สร้างความตื่นเต้นและดีใจให้กับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ตามที่นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ลงนามประกาศปิดการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่ง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งมีหลายบริษัททัวร์นำเที่ยวได้หยุดให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไป

สำหรับปลาฉลามครีบดำ หรือ ปลาฉลามหูดำ (อังกฤษ: Blacktip reef shark; ชื่อวิทยาศาสตร์: Carcharhinus melanopterus) เป็นปลาฉลามชนิดหนึ่ง มีรูปร่างเพรียวยาว ปากกว้าง มีแถบดำที่ครีบหลัง ครีบไขมัน ครีบก้น และครีบหางตอนล่าง เป็นที่มาของชื่อ กินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร มีนิสัยไม่ดุร้ายเมื่อเทียบกับปลาฉลามชนิดอื่น ๆ นิยมอยู่รวมเป็นฝูงบริเวณใกล้ชายฝั่ง และอาจเข้ามาในบริเวณน้ำกร่อย หรือปากแม่น้ำ โดยสามารถเข้ามาหากินใกล้ชายฝั่ง แม้กระทั่งในพื้นที่ ๆ มีน้ำสูงเพียง 1 ฟุต เป็นปลาหากินในเวลากลางคืน ในเวลากลางวันจะหลบซ่อนตัวพักผ่อนตามแนวปะการัง โดยจะหากินอยู่ในระดับน้ำความลึกไม่เกิน 100 เมตร ขนาดโตเต็มที่ประมาณ 2 เมตร ตัวเมียตั้งท้องนาน 18 เดือน ออกลูกเป็นตัว ครั้งละ 2-4 ตัว เมื่อโตขึ้นมาแล้วสีดำตรงที่ครีบหลังจะหายไป คงเหลือไว้แต่ตรงครีบอกและครีบส่วนอื่น


https://www.naewna.com/likesara/487646

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 21-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Greennews


โลกร้อนยังกระหน่ำแรง มีนาคมปีนี้ ร้อนสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์

NOAA เผย มีนาคมที่ผ่านมาร้อนสุดอันดับสองในรอบ 141 ปี ทำอุรหภูมิโลกสูงกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยในศตวรรษที่ 20 ถึง 1.16 องศาเซลเซียส คืบเข้าใกล้เส่นตายข้อตกลงปารีสที่ 1.5 องศาเซลเซียส ผู้เชี่ยวชาญชี้ แนวปะการังใหญ่ที่สุดในโลกเสี่ยงฟอกขาวอีกครั้ง เตือนไทยเฝ้าระวังด้วย

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2563 National Centers for Environmental Information (NOAA) ศูนย์วิจัยด้านสมุทรศาสตร์ ภูมิอากาศและภูมิศาสตร์สหรัฐฯ เผย เดือนมีนาคมที่ผ่านมานับเป็นเดือนมีนาคมที่อุณหภูมิโลกสูงสุดเป็นอันดับสองตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา 141 ปี


โลกร้อนอุณหภูมิเฉลี่ยในทวีปและมหาสมุทร มีนาคม พ.ศ.2563 // ขอบคุณภาพจาก: NOAA

อุณหภูมิพื้นผิวทั้งในแผ่นดินและมหาสมุทรเฉลี่ยสูงขึ้น 1.16 องศาเซลเซียส เทียบกับอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงศตวรรษที่ยี่สิบ กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้รายงานข้อมูลที่ใกล้เคียงกัน พบว่าอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 1.04 องศาเซลเซียส แม้ว่าเดือนมีนาคมปีนี้จะไม่ได้เกิดปรากฏการณ์ เอลนิญโญ (El Ni?o) เหมือนกับปีพ.ศ. 2559 ที่ครองตำแหน่งเดือนมีนาคมซึ่งร้อนที่สุด อย่างไรก็ตาม มีนาคมปีนี้กลับร้อนน้อยกว่าปีที่เจอเอลนิญโญรุนแรงเพียง 0.15 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างชัดเจนในทวีปเอเชีย หลายพื้นที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 2.5 องศาเซลเซียส ขณะที่รัฐฟลอริดา ทางตะวันออกของสหรัฐและประเทศแถบอเมริกาใต้ประสบกับเดือนมีนาคมที่ร้อนที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูล นอกจากนั้น ทะเลน้ำแข็งในอาร์กติก (Arctic sea ice extent) ช่วงเดือนดังกล่าวมีขนาดเล็กลง 650,087 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 4.2 % จากค่าเฉลี่ยปีพ.ศ.2524 ? 2553 กล่าวได้ว่า มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับที่ 11 ในรอบ 42 ปี ศตวรรษที่ 21 นี้ได้เปิดศักราชอุณหภูมิโลกสูงทุบสถิติ พบว่า เดือนมีนาคม 10 เดือนที่ร้อนที่สุดเท่าที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นช่วงสามสิบปีที่ผ่านมา


โลกร้อนความผันแปรของอุณหภูมิในทวีปและมหาสมุทร เดือนมีนาคม ในรอบ 40 ปี // ขอบคุณภาพจาก: NOAA

แม้อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย หากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาล กรมอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลีย เผยน้ำทะเลอุณหภูมิสูงขึ้นที่ฝั่งตะวันออกของรัฐควีนส์แลนด์ช่วงกุมภาพันธ์และมีนาคมเป็นสาเหตุให้ แนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก "Great Barrier Reef" กำลังเผชิญสถานการณ์ฟอกขาวหมู่ขั้นรุนแรง นับว่าเป็นปรากฏการณ์ฟอกขาวครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปี ส่งผลต่อปะการัง กว่า 2,300 กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและที่พักพิงให้สัตว์น้ำ อันเป็นอู่อาหารของผู้คนหลายล้าน

อุณหภูมิมหาสมุทรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปะการังอยู่ในภาวะเครียด และขับสาหร่ายที่เป็นแหล่งพลังงานและตัวสร้างสีสันออก การฟอกขาวไม่ได้ทำให้ปะการังตายทันที ทว่าหากอุณหภูมิน้ำทะเลยังคงสูงอย่างต่อเนื่องและเกิดถี่ยิ่งขึ้น โอกาสฟื้นฟูจึงมีน้อยลง


ปะการังฟอกขาวแนวโน้มอุณหภูมิทะเลเฉลี่ยรายเดือนบริเวณแหลมพันวา ภูเก็ต แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ที่จะเกิดปะการังฟอกขาว // ขอบคุณภาพจาก: ดร.ลลิตา ปัจฉิม สถาบันวิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ด้านประเทศไทย NOAA ได้เตือนให้เฝ้าระวังปรากฎการณ์ปะการังฟอกขาว ช่วงเดือนเมษายน ? กรกฎาคม เนื่องจากอุณหภูมิเฉลี่ยทะเลรายเดือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ใกล้เคียงกับปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเกิดปะการังฟอกขาวระดับปานกลางในเดือนเมษายน สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะทำการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป


https://greennews.agency/?p=20907

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 21-04-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


ธรรมชาติไทยฟื้นฟูช่วงโควิด-19 เมื่อไร้เงานักท่องเที่ยว

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ประเทศไทยมีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และปิดบริการที่ไม่จำเป็นหลายประเภท รวมถึงอุทยานต่าง ๆ ซึ่งปรากฏว่ามีสัตว์ในธรรมชาติปรากฏตัวออกมาให้เห็น



เดือนเมษายนของทุกปีได้ชื่อว่าเป็นช่วงเวลาของการท่องเที่ยวสำหรับคนไทย เพราะมีทั้งวันหยุดจักรี (6 เม.ย.) และวันหยุดยาวช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ (13-15 เม.ย.) แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ในปีนี้บรรยากาศการท่องเที่ยวเงียบเหงาอย่างมาก

โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศปิดการท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยที่ลดลงก็มีผลดีปรากฏให้เห็น เพราะเช่นเดียวกับในต่างประเทศ ไทยเองก็มีภาพธรรมชาติที่หาดูยากออกมาให้เห็นในช่วงนี้


เขาใหญ่ฟื้นตัวช่วงโควิด-19

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สำรวจพื้นที่อุทยานฯ ช่วงวันที่ 5-8 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่ามีสัตว์ป่าหลายชนิดออกหากินอยู่ใกล้ถนนสัญจรในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของธรรมชาติหลังไม่มีผู้คนไปรบกวน โดยเฉพาะการพบเห็นนกกก ซึ่งเป็นนกขนาดใหญ่จำพวกนกเงือก ปรากฏตัวให้เห็นโดยง่ายขณะที่มันกำลังจับแย้กิน ซึ่งเป็นภาพที่หาชมยาก




ค่างแว่นแฝดเผยโฉม เยียวยาจิตใจช่วงโควิด-19

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก "สำนักอุทยานแห่งชาติ" เผยภาพ ครอบครัวค่างแว่นพากันออกมาเที่ยวเล่นกลางสนามหญ้าหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยแม่ค่างแว่นอุ้มลูกน้อยฝาแฝดสีเหลืองทองออกมาด้วย

ข้อความของเพจระบุว่า "ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง หมู่เกาะกลางทะเลอันไกลแสนไกล ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เราหนีเรื่องเครียด ๆ มาชมภาพชีวิตที่สวยงามและแสนจะอบอุ่นของครอบครัวค่างแว่นถิ่นใต้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงปราศจากนักท่องเที่ยว ค่างแว่นจะออกจากป่ามาเดินเล่น นั่งเล่น นอนเล่นกลางสนามหญ้าหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอย่างสนุกสนาน ซึ่งหากใครอยากชมก็ชมภาพถ่ายไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ สังเกตดี ๆ ว่ามีฝาแฝดอ่างทองตัวน้อย ๆ ออกมาโชว์ตัวด้วย"


โลมาเริงร่าทะเลภูเก็ต

วันที่ 8 เม.ย. 63 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โพสต์รูปภาพโลมารวมกลุ่มว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน ผ่านเพจเฟซบุ๊ก "กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" พร้อมข้อความ "ทะเลสดใส พบฝูงโลมารวมกลุ่มเริงร่าในทะเลภูเก็ต"

จากการจัดทีมสำรวจสัตว์ทะเลหายากบริเวณเกาะไม้ท่อน จ.ภูเก็ต ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ร่วมกับการใช้กล้องถ่ายภาพ DSLR ทีมงานพบโลมาปากขวด 1 ฝูง จำนวน 15 ตัว มีลูก 2 ตัว กำลังหาอาหาร และพบพฤติกรรมการผสมพันธุ์จำนวน 1 คู่

ทั้งนี้ ทช. ยังมีแผนออกสำรวจและติดตามจำนวนประชากรโลมาปากขวด ซึ่งเป็นกลุ่มโลมาปากขวดประจำถิ่น ต่อไป



เต่าทะเลวางไข่ หลังหาดสงขลาสะอาดปราศจากภัย

วันที่ 10 เม.ย. 63 เพจเฟซบุ๊ก ทช. โพสต์รูปภาพไข่เต่าทะเลบริเวณชายหาดสงขลา พร้อมข้อความ "ชายหาดสงขลาสะอาด พบเต่าทะเลวางไข่" ระบุว่า พบเต่าทะเลไม่ทราบชนิดขึ้นมาวางไข่ ประมาณ 50-60 ฟอง บริเวณชายหาด ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา

ทาง ทช. คาดการณ์ว่า เต่าทะเลน่าจะขึ้นมาวางไข่ในช่วงกลางดึกของวันที่ 9 เม.ย. 63 ผลการตรวจสอบไม่พบแม่เต่าที่ขึ้นวางไข่ พบเห็นแค่รอยเต่า ขนาดรอยกว้างประมาณ 120 ซม. จึงประสานเครือข่ายและชาวบ้านในพื้นที่ ช่วยสังเกตการณ์เนื่องจากมีแนวโน้มว่าแม่เต่าอาจมีการขึ้นมาวางไข่อีกครั้งในช่วง 14 วันถัดจากนี้ ส่วนไข่เต่าที่พบได้ประสานผู้ใหญ่บ้านในการจัดการเฝ้าระวัง และกั้นเขตพื้นที่ล้อมรอบหลุมเต่า เพื่อป้องกันการขุดหลุมไข่


ช้าง ช้าง ช้าง

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2563 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โพสต์รูปภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ก "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ - Khao Yai National Park" เผยให้เห็นช้างป่าตัวหนึ่ง ออกมาเดินเล่นอยู่กลางถนน

ข้อความในเพจระบุว่า "ช้างค่ะ ช้างค่ะ หนูชื่อช้าง มาตัวเดียวไม่ได้มากับใคร ไม่มีนักท่องเที่ยวลูกพี่ขอเดินเล่นนะ รูปภาพจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #ปิดอุทยาน 11.04.2563 #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ #เราจะดูแลธรรมชาติและสัตว์ป่าเพื่อคุณ"

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมาในช่วงสงกรานต์ ก็มีการเผยแพร่ภาพ "ช้างป่า 12 ตัว ออกมาสวัสดีปีใหม่ไทย ณ หอดูสัตว์หนองผักชี"




พบพะยูนและสัตว์ทะเลหายากที่ตรัง

วันที่ 13 เม.ย. 63 สำนักอุทยานแห่งชาติโพสต์ภาพ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ออกสำรวจติดตามประเมินสถานภาพพะยูนและสัตว์ทะเลหายาก โดยการเฝ้าสังเกตทางเรือและการบิน Drone สำรวจ บริเวณแหล่งหญ้าทะเลหาดหยงหลำ หาดหยงหลิง และเกาะมุกด์ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม

จากการสำรวจพบว่า มีพะยูนจำนวน 4 ตัว โลมาจำนวน 4 ตัว และเต่าทะเลจำนวน 8 ตัว โดยพะยูนพบบริเวณระหว่างหัวแหลมหาดหลงหลำกับเกาะมุกด์ ขณะที่เต่าทะเลพบแพร่กระจายตั้งแต่หาดหยงหลำจนถึงสะพานเกาะมุกด์ มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ ส่วนโลมาพบบริเวณหาดหยงหลิง มีพฤติกรรมว่ายน้ำโผล่ขึ้นมาหายใจและบิดตัวขณะกระโดด

จากการสำรวจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตลอดจนอาสาสมัครและภาคประชาชนท้องถิ่น ในปี พ.ศ. 2562 พบพะยูนในทะเลตรัง จำนวน 185 ตัว ถือเป็นแหล่งที่มีพะยูนอาศัยอยู่มากที่สุดของประเทศไทย โดยจากการสำรวจทั่วประเทศ พบพะยูน จำนวน 261 ตัว


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/123928

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:19


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger