เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 12-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางแห่ง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 63 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

ส่วนในช่วงวันที่ 14 - 17 พ.ค. 63 บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดนำความชื้นเข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 11 - 13 พ.ค. 63 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมทั้งฟ้าผ่าไว้ด้วย




*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2563)" ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2563

ในช่วงวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2563 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย

จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้


ในช่วงวันที่ 12-13 พฤษภาคม 2563

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี ชัยนาท อ่างทอง สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา อุทัยธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 12-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


นักดำน้ำตื่นตาฟ้าสวยน้ำใส เห็นฉลามวาฬโผล่ว่ายหากิน ในทะเลที่ระยอง

นักดำน้ำที่ระยองพบฉลามวาฬตัวยักษ์ ว่ายน้ำออกหากินในทะเล บริเวณหินเพลิง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง 13 ไมล์ทะเล ท่ามกลางทะเลที่เป็นใจ ฟ้าสวยน้ำใส คลื่นลมราบเรียบ



เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีนักดำน้ำพบฉลามวาฬบริเวณหินเอาว์บา (หินเพลิง) ในเขตจังหวัดระยอง ห่างจากฝั่งตำบลกร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง ระยะทางประมาณ 13 ไมล์ทะเล ไปตรวจสอบพร้อมนักดำน้ำโดยเรือของบริษัทเดอะทอย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที ช่วงนี้ทะเลคลื่นลมราบเรียบ น้ำทะเลสีใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง บริเวณหินเพลิงเป็นกองหินธรรมชาติใต้ทะเล มีอยู่ด้วยกัน 2 กอง กองตะวันตกจะเป็นหินสูง เวลาน้ำลงหินจะโผล่มองเห็น (ชาวบ้านเรียกหินเล่นน้ำ มองเห็นแต่ไกล)

ส่วนกองตะวันออกเป็นหินจม ความลึกของน้ำบริเวณนี้อยู่ที่ 15-20 ฟุต เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนาๆชนิด เพราะเรืออวนลากไม่สามารถเข้าไปลากได้ จึงเป็นที่อยู่ของปลา มีแพลงก์ตอน แมงกะพรุน อาหารสำหรับปลา โดยเฉพาะฉลามวาฬ ซึ่งมักจะพบเห็นฉลามวาฬบริเวณนี้ปีละไม่เกิน 2-3 ครั้ง ในช่วงทะเลราบเรียบหรือช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค. ก่อนจะเข้าฤดูมรสุม หลังจากที่ได้ลงดำน้ำอยู่ในช่วงบ่ายๆ

ขณะที่นักดำน้ำตามหาเจ้าฉลามวาฬ ก็ได้พบฉลามวาฬว่ายน้ำแบบเงียบๆ ช้าๆ มีฝูงปลาเล็กว่ายตามมาจำนวนมาก ความยาวประมาณ 5-6 เมตร ว่ายเข้ามาให้เก็บภาพอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง นักดำน้ำต่างได้ชมฉลามวาฬกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ด้วยความที่หาตัวพบได้ยาก ต่างได้ภาพไว้เป็นระลึก จากนั้นฉลามวาฬก็ว่ายน้ำหายไปในท้องทะเลลึก

ลักษณะของฉลามวาฬที่แตกต่างจากฉลามส่วนใหญ่ คือ หัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว และปากที่อยู่ด้านหน้าแทนที่จะอยู่ด้านล่าง ฉลามวาฬ เกือบทั้งหมดที่พบมีขนาดใหญ่กว่า 3.5 เมตร ใช้เหงือกในการหายใจ มีช่องเหงือก 5 ช่อง มีครีบอก 2 อัน ครีบหาง 2 อัน และครีบก้น (หาง) 1 อัน หางของปลาฉลามวาฬอยู่ในแนวตั้งฉาก และโบกไปมาในแนวซ้าย-ขวา แตกต่างจากสัตว์เลือดอุ่นในทะเลที่หางอยู่ในแนวขนานและหายใจด้วยปอด อาทิ วาฬ, โลมา หรือพะยูน เป็นต้น และกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร โดยใช้วิธีกรอง ฉลามวาฬปกติเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำลึก และจะขึ้นมากินแพลงก์ตอนในเวลากลางคืนบริเวณผิวน้ำ โดยใช้การดูดน้ำเข้าปากแล้วผ่านช่องกรอง โดยจะทิ้งตัวเป็นแนวดิ่งกับพื้นน้ำ

มีข้อมูลว่าที่เมืองออสลอบ ในจังหวัดเซบู ของฟิลิปปินส์ ชาวพื้นเมืองที่นั่นซึ่งดั้งเดิมมีอาชีพประมงจับปลาทั่วไป ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 เป็นต้นมา ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการโปรยอาหารเลี้ยงฉลามวาฬ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจนกลายเป็นไฮไลต์ของการท่องเที่ยวดำน้ำของที่นี่ โดยอาหารที่ป้อนนั้น คือ เคย และจะมีช่วงเวลาที่ป้อนตั้งแต่ 05.00 หรือ 06.00-13.00 น. ในแต่ละวัน จากนั้นฉลามวาฬก็จะว่ายออกไปทะเลลึกเพื่อหากินเอง ซึ่งเชื่อว่าวิธีการแบบนี้จะไม่ทำให้พฤติกรรมของฉลามวาฬเปลี่ยนไป.


https://www.thairath.co.th/news/local/east/1841564


*********************************************************************************************************************************************************


หนุ่มแคลิฟอร์เนียฝืนล็อกดาวน์ โต้คลื่นในทะเล ถูกฉลามขย้ำดับสลด

ชายหนุ่มฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมโควิด ออกโต้คลื่นในทะเลแคลิฟอร์เนีย ก่อนถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายหนุ่มวัย 26 ปี ซึ่งไม่มีการเปิดเผยชื่อ ออกโต้คลื่นในทะเลนอกหาดแมนเซรา สเตต บีช ในเขต ซานตา ครูซ เคาน์ตี ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อเวลาประมาณ 13:30 น. วันเสาร์ที่ 9 พ.ค. ก่อนที่เขาจะถูกฉลามจู่โจมขณะอยู่ห่างจากชายฝั่งราว 100 หลา

ตามการเปิดเผยของสำนักงานสวนสาธารณะและสันทนาการ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ชายหนุ่มคนนี้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าฉลามสายพันธ์ุใดที่ทำร้ายเขา อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานออกคำสั่งปิดหาดเป็นเวลา 5 วัน จนถึงวันพฤหัสบดีเพื่อความปลอดภัยแล้ว พร้อมทั้งติดป้ายเตือนระวังฉลามเอาไว้ด้วย

อนึ่ง แม้ยังไม่มีการยืนยันว่า ฉลามที่ก่อเหตุเป็นสายพันธ์ุใด แต่เป็นที่รู้กันว่าเคยมีฉลามขาวยักษ์มาปรากฏตัวในน่านน้ำแถบนี้ แต่อยู่ห่างจากชายฝั่งมาก อย่างไรก็ตาม ช่างภาพสมัครเล่นหลายคนบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 จำนวนฉลามในบริเวณนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งนี้ มาตรการควบคุมไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ของเขต ซานตา ครูซ เคาน์ตี กำหนดให้ปิดหาดระหว่างเวลา 11:00 น. ถึง 17:00 น. โดยอนุญาตให้ประชาชนลงไปเดินตามชายหาด หรือลงน้ำในระดับตื้น แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1841003
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 12-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ใช้ข้อมูลดาวเทียมตรวจจับพลาสติกในทะเล



ขยะลอยทะเลได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ของโลกที่ดูจะยืดเยื้อยาวนาน นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจำนวนมากพยายามค้นหาวิธีแก้ปัญหามลพิษเหล่านี้ การใช้ดาวเทียมมาช่วยก็คือแนวทางหนึ่ง โดยเฉพาะการตรวจหาพลาสติกชิ้นขนาดใหญ่ในสภาพแวดล้อมทางทะเล ซึ่งพลาสติกประเภทนี้เมื่ออยู่ในทะเลนานๆก็จะแตกหักย่อยสลาย

ความคิดการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจทรัพยากรขององค์การอวกาศยุโรปในโครงการ Sentinel-2 ถูกเสนอขึ้น เนื่องจากสามารถแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นได้อย่างแม่นยำ ดาวเทียมดังกล่าวจะตรวจวัดความยาวคลื่นของแสงที่มองเห็นและแสงอินฟราเรดที่ดูดกลืนและสะท้อนออกมา


Credit : CC0 Public Domain

นักวิทยาศาสตร์ได้ทดสอบวิธีการจากข้อมูลใน Sentinel-2 ตรงน่านน้ำชายฝั่ง 4 แห่งที่แตกต่างกันคือ กรุงอักกราของกานา, หมู่เกาะซานฮวนในแคนาดา, เมืองดานังในเวียดนาม และตะวันออกของสกอตแลนด์

พบว่าวิธีการนี้ประสบความสำเร็จในการแยกแยะพลาสติกจากวัสดุอื่นๆที่ลอยน้ำหรือน้ำทะเล มีความแม่นยำเฉลี่ย 86% และจากทั้ง 4 ตำแหน่ง มีความแม่นยำ 100% จากหมู่เกาะซานฮวน ซึ่งคาดหวังว่าจะสามารถใช้วิธีนี้กับโดรนหรือดาวเทียมความละเอียดสูง เพื่อปรับปรุงการติดตามเกี่ยวกับการทิ้งขยะพลาสติกในทะเลทั่วโลกและช่วยในการทำให้สภาพแวดล้อมสะอาดขึ้น.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840769


*********************************************************************************************************************************************************


ฟอสซิลกระดูกฉลามยักษ์ยุคไดโนเสาร์



ในปี พ.ศ.2539 มีนักบรรพชีวินวิทยาค้นพบซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลโครงกระดูกของฉลามยักษ์ทางชายฝั่งตอนเหนือของสเปนใกล้กับเมืองซันตันเดร์ ชายฝั่งแถบนี้มีกำแพงหินปูนสูงราวๆเมตร ซึ่งทับถมมานานนับจากยุคครีเตเชียสเมื่อประมาณ 85 ล้านปีก่อนในช่วงที่ไดโนเสาร์ยังคงครองดินแดนบนบกทั่วโลก

ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเวียนนา ในออสเตรีย ได้ตรวจสอบบางส่วนของกระดูกสันหลังของฉลามดังกล่าว ระบุได้ว่าอยู่ในกลุ่ม Ptychodontidae คือฉลามที่สูญพันธุ์ไปแล้ว นักวิทยาศาสตร์เผยว่าฟันและกระดูกสันหลังของฉลามจะมีข้อมูลทางชีวภาพ เช่น ขนาดร่างกาย การเติบโต และอายุ ซึ่งกระดูกสันหลังทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆเกี่ยวกับชีววิทยาของกลุ่มฉลามลึกลับนี้ที่หายตัวไปก่อนเหตุการณ์สูญพันธุ์ครั้งใหญ่

นอกจากกระดูกสันหลังแล้วยังพบเกล็ดแบบแพลคอยด์ (placoid scales) ซึ่งมีลักษณะคล้ายฟันที่หายากกว่าฟอสซิลฟัน ช่วยให้สามารถถอดรหัสข้อมูลและสร้างระบบนิเวศของกลุ่มฉลาม Ptychodontidae ขึ้นมา จากแบบจำลองที่สร้างขึ้น นักวิทยาศาสตร์คำนวณว่ามันน่าจะมีขนาดได้ 4-7 เมตร และอายุ 30 ปี ที่น่าประหลาดใจคือฉลามตัวนี้ยังไม่โตเต็มที่เมื่อมันตาย แม้ว่ามันจะแก่ขึ้นก็ตาม.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1840763
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 12-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


สุดประทับใจ ทีมดำน้ำพบ "ฉลามวาฬ" แหวกว่ายโชว์ตัวบริเวณเกาะเต่า


ฉลามวาฬแหวกว่ายโชว์ตัวที่เกาะเต่า (ภาพ : Koh Tao Thai Divers Team - KTDT)

เพจ Environman ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ ระบุว่า "ฉลามวาฬ สัตว์สงวน ใกล้สูญพันธุ์ตัวใหญ่ทักทาย ทีมดำน้ำ Koh Tao Thai Divers Team - KTDT บริเวณหินเขียว เกาะเต่า

10 พฤษภาคม 2563 ครูสอนดำน้ำเกาะเต่าออกสำรวจสภาพแนวปะการังตามกองหินต่างๆ โดยขณะสำรวจพบฉลามวาฬ ขนาดความยาวประมาณ 4-6 เมตร บริเวณหินเขียว หรือ Green Rock ในระดับความลึก 16.3 เมตร สภาพน้ำใสมาก

ฉลามวาฬ Whale Shark เป็นสัตว์สงวนของไทย และมีสถานะ ใกล้สูญพันธุ์ใน IUCN Redlist เป็นปลาที่ขนาดใหญ่ที่สุด ฉลามวาฬพบได้ในทะเลเขตร้อนและอบอุ่น อาศัยอยู่ในทะเลเปิด มีช่วงอายุประมาณ 70 ปีฉลามชนิดนี้กำเนิดเมื่อประมาณ 60 ล้านปีมาแล้ว อาหารหลักของฉลามวาฬคือแพลงก์ตอน

การดูแลรักษาทะเลกำลังดำเนินการต่อเนื่องทั้งในทุกฝ่าย ทั้งประชาชน และภาครัฐ ที่กำลังดำเนินมาตรการแผนต่างๆเพื่อรักษาความสวยงามท้องทะเลไทย"

โดยเนื้อหาในคลิป เป็นฉลามวาฬ สัตว์สงวน ใกล้สูญพันธุ์ตัวใหญ่ทักทาย โดยมีทีมดำน้ำ Koh Tao Thai Divers Team - KTDT พบเจอและถ่ายคลิปที่บริเวณหินเขียว เกาะ ทั้งนี้หลังทางเพจฯ ได้โพสต์คลิปได้มีชาวโซเชียลแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมกันเป็นจำนวนมาก


https://mgronline.com/travel/detail/9630000049040


*********************************************************************************************************************************************************


คนรักทะเลเฮ! อธิบดีอุทยานฯ เดินหน้าหนุนปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศปีละ 2 เดือน พร้อมจำกัดนักท่องเที่ยว



อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินหน้าปิดอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ 133 แห่ง ปีละไม่น้อยกว่า 2 เดือน หรือมากกว่านั้น พร้อมผลักดันการคุมปริมาณนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป จนกระทบกับการฟื้นตัวทรัพยากรธรรมชาติ

จากกรณี ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์สนับสนุนแนวคิด นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้สั่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งทำตารางกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับปิดอุทยานแห่งชาติ 157 แห่ง เพื่อฟื้นฟูความสมบูรณ์ของผืนป่าทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่า เป็นเวลา 3 เดือนในทุกปี

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (11 พ.ค.) ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง โดยได้ระบุข้อความ โดยได้ยกเกาะยูงที่ถูกปิดถาวร และการปิดอ่าวมาหยา จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบนิเวศบริเวณโดยรอบดีขึ้นตามลำดับ พบเห็นสัตว์หายากบริเวณรอบๆ เกาะ ทั้งนี้ ดร.ธรณ์ ได้ระบุข้อความว่า

"ผลจากโควิดทำให้คนรักทะเลยิ้มแป้นเลยครับ อะไรที่เคยฝันกัน เช่น ปิดอุทยานบางช่วง/บางพื้นที่ จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ตอนนี้ท่าน รมต.สั่งการ อุทยานขานรับกันแล้วครับ ท่านอธิบดีธัญญา บอกว่า จะเน้นทั้งการปิด/จำกัดจำนวน และจะเร่งให้อุทยานโชว์ให้ดูว่าก่อนปิด/หลังปิด มีผลดีอย่างไร

ผมจึงนำ พีพีโมเดล มาเป็นตัวอย่าง ที่นั่นเราปิดเกาะยูงถาวร และปิดอ่าวมาหยาจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ที่เกาะยูง ปะการังโตพรึ่บ พื้นที่ปะการังน้ำตื้นเพิ่มขึ้นทุกปี 4 ปีติดต่อกัน ล่าสุด มีฉลามหูดำเข้ามาเพียบ ลองย้อนไปดูคลิป 21 วินาที มีฉลาม 3 ตัว ว่ายผ่านที่อ่าวมาหยา ดูภาพประกอบได้ ผมนำมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

หากมีแต่เรือเช่นนั้น คงไม่มีคลิปฝูงฉลามว่ายเกยฝั่ง จนเป็นข่าวกระหึ่มไปทั่วไทยทั่วโลก ยังมีฉลามที่เกาะตาชัยที่ปิดถาวร รวมถึงเรื่องดีๆ จากสิมิลัน ผมสนับสนุนแนวทางเช่นนี้แน่นอน เพราะเป็นแนวทางที่บอกไว้หลายต่อหลายหน ว่า อุทยานทางทะเลต้องมี

- มีแผนจัดการ 3-5 ปี และทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
- มีพื้นที่ปิดเพื่อเป็นเขตสงวน
- มีพื้นที่เปิดปิดเป็นระยะเพื่อให้ทะเลพัก
- มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวแต่ละจุดให้ชัดเจนและปฏิบัติได้

แต่ทั้งหมดนี้ ต้องรอบคอบ และมีการนำเสนอแผนเพื่อช่วยกันคิดกับหน่วยงานในพื้นที่/ผู้ประกอบการ/ชาวบ้าน ฯลฯ ซึ่งกลไกอุทยานมีคณะที่ปรึกษาประจำอุทยานแต่ละแห่งอยู่แล้ว ควรเร่งให้มีการดำเนินการ และรับฟังให้ถ้วนถี่ ไม่เช่นนั้น จะเกิดปัญหาภายหลัง เท่าที่ทราบ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ ก็กำลังเร่งทำแผนอยู่เช่นกันครับ มีข่าวคืบหน้าอย่างไรจะรีบนำมาบอกเพื่อนธรณ์

ชอบครับชอบ ทั้งอุทยาน ทั้งกรมทะเล ทำงานแข็งขัน ดีใจมากที่ความฝันของคนรักทะเลไทยเริ่มใกล้ความจริง และอยากเห็นการเดินหน้าเต็มกำลังในช่วง 1-3 เดือนต่อจากนี้ เดี๋ยวจะหาภาพที่เกาะยูงมาโพสต์ให้ดูครับ"

นอกจากนี้ ทางเพจ "I Green" ได้รายงานเพิ่มเติมว่า นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้มีการประชุมและมีข้อสรุปว่าให้แต่ละอุทยานทั่วประเทศ จำนวน 133 แห่ง จัดทำแผนการปิดอุทยานตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้พิจารณาปิดไม่ต่ำกว่า 2 เดือนต่อปีหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่

อีกนโยบายที่จะนำมาพิจารณาควบคู่กัน คือ การจำกัดนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป แม้ที่ผ่านมาจะมีรายได้มาก โดยเฉพาะอุทยานทางทะเล แต่จะพบว่าจำนวนมากนักท่องเที่ยวมากจนเกินไป ซึ่งไม่สอดคล้องกับนโยบาย ดังนั้น นอกจากปิดแล้วจะจำกัดปริมาณด้วย เพราะอุทยานไม่ได้ต้องการรายได้เป็นหลัก แต่เน้นการฟื้นฟูของทรัพยากรธรรมชาติด้วย


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000049103

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 12-05-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก


"นายกตุ้ย"โพสต์ภาพความมักง่ายของประชาชน หลังจับกลุ่มใกล้ชิดกินอาหารริมหาด ป้ายใหญ่เท่าบ้านก็ไม่สน

นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังพบประชาชนจำนวนมากนั่งจับกลุ่มกันรับประทานอาหารริมหาดบางแสน ถึงแม้จะมีป้ายประกาศขอให้งดการรวมกลุ่มใกล้ชิด และ งดการบริโภคอาหารเครื่องดื่มทุกประเภทในลักษณะรวมตัวนั่งดื่มกินก็ตาม



นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังประชาชนจำนวนมาก ที่มาเดินเล่นริมหาดบางแสน ต่างรวมตัวกันนั่งรับประทานอาหารริมหาด ถึงแม้จะมีการประชาสัมพันธ์ หรือ ติดป้ายไว้ริมหาด ก็ยังคงมีบางกล่มคนที่ไม่ปฏิบัติตาม

สงสัยการบอกกล่าวและ ประชาสัมพันธ์อาจไม่ทั่วถึง มีป้ายอยู่ตลอดแนวแต่คงไม่เพียงพอครับ พื้นที่ริมถนนเรียบชายหาด และ ข้างเคียงได้มีการผ่อนปรนให้ประชาชนมาใช้พื้นที่ ในการออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และ พักผ่อน ได้บ้าง และขอให้งดการรวมกลุ่มใกล้ชิด และ งดการบริโภคอาหารเครื่องดื่มทุกประเภทในลักษณะรวมตัวนั่งดื่มกิน แต่ที่ผ่านมา ก็มีทั้งผู้ที่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามระเบียบ และ อีกจำนวนนึงที่ไม่ได้สนใจอะไร อาจจะไม่ทราบหรือ ไม่ให้ความร่วมมือก็มีบ้างพอสมควร และยังมีขยะที่ผู้มาเยี่ยมเยือนชายหาดยังคงทิ้งขยะไว้ที่พื้นบ้างพอสมควรแต่ลดลงหลังจากที่มีการโพสต์ว่าขยะมากเมื่อเปิดให้คนมาใช้พื้นที่ หลังมีมาตรการผ่อนปรนครับ

ขณะนี้ทาง จนท. ตำรวจ และ ประชาชนส่วนหนึ่งได้นำเสนอขอให้ปิดถนนสำหรับรถยนต์ ทุกประเภท ไม่ให้เข้าในพื้นที่ ถนนตลอดแนวชายหาดทั้งหมด ตั้งแต่ หาดวอน- บางแสนสาย1 รวมถึง แหลมแท่น เขาสามมุข (บางส่วน) อีกรอบ แต่ยังคงเปิดถนนพื้นที่เรียบทะเลให้ได้ออกกำลังกาย และ พักผ่อนได้เหมือนเดิม เนื่องจาก ปัจจุบัน จนท. ไม่เพียงพอและทำให้ ไม่สามารถรวบคุมผู้ฝ่าฝืนกฏได้ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงภัยจากการกลับมาระบาดของ โควิด-19 อีกก็เป็นได้
ขณะนี้จะรอนำเรียนปรึกษาทางจังหวัดอีกครั้งครับ หากพวกเราไม่ให้ความร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามกฏต่างๆในช่วงนี้ ก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องปิดถนนอีกครั้งครับ

นอกจากนี้ ทางเทศบาลมีแผนที่จะเปิดชายหาดทั้งหมด ในเดือน มิถุนายน นี้หากสถานการณ์ของจังหวัดชลบุรียังคงควบคุมได้ และ มีคำสั่งอนุญาต และ เทศบาลกำลังเร่งการจัดระเบียบ ชายหาดของผู้ประกอบการชายหาดให้แล้วเสร็จก่อนเปิดชายหาดด้วยครับ จะแจ้งให้ทราบผลการพิจารณาต่อไปครับ


https://www.komchadluek.net/news/reg...&utm_campaign=

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:44


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger