#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ โดยมีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม สำหรับบริเวณทะเลอันดามันทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 24 - 25 พ.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมปกคลุมบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีการฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 พ.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
อยู่ร่วมกันได้ "ดร.ธรณ์" โพสต์แนะ สร้างแบรนด์ใหม่ "เกาะสมุยเกาะแห่งเต่า" เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกค้นพบว่ามีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่อีกครั้ง หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคการท่องเที่ยวเงียบเหงา ส่งผลให้เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ ดร.ธรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล ถือโอกาสนี้ แนะ ยกระดับท่องเที่ยวเกาะสมุยให้เป็นอีโคบวกไฮโซ ด้วยการลองสร้างแบรนดิ้งใหม่ "เกาะสมุยเกาะแห่งเต่า" ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากชาติยุโรป วันนี้ (24 พ.ค.) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ?Thon Thamrongnawasawat? เกี่ยวกับการที่พบเต่าทะเล ขึ้นมาวางไข่บนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยก่อนหน้านี้พบว่าเต่าทะเลขึ้นมาวางไขแล้ว 9 รังใน 3 หาด เนื่องจากวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้เกาะเงียบเหงาเต่าทะเลจึงขึ้นมาวางไข่ได้อย่างสบายใจ ซึ่งทาง ดร.ธรณ์ ได้ระบุข้อความเกี่ยวกับแนวคิดในการทำให้เต่าทะเลสามารถอยู่ร่วมกับคนบนเกาะได้ว่า "คำถามสำคัญคือเราจะทำอย่างไรให้เต่ากับสมุยอยู่คู่กันต่อไปอีกเรื่อยๆ อันดับแรกแบบเฉพาะหน้าช่วงนี้ก่อน ผมเชื่อว่า เต่ายังไม่จบ ยังอาจขึ้นมาวางไข่อีก คนเกาะสมุยตอนนี้กระตือรือร้น นายอำเภอก็พร้อมช่วยดูแล ผมคิดว่าเป็นจังหวะดีสุดที่ช่วยกันประกาศออกไป ให้ความรู้ว่าเจอรอยแม่เต่าที่ไหนเมื่อไหร่ให้รีบแจ้ง 2 รอยที่แหลมสอ พระท่านเป็นผู้แจ้งว่าเจอตอนไปบิณฑบาต ในส่วนของการดูแลรังไข่เต่า ผมเห็นการช่วยกันดีเป็นอย่างยิ่ง หลักฐานคือ ไม่มีรังไหนถูกรบกวนเลยจนถึงตอนนี้ สรุปแล้วช่วงแรกคือช่วงนี้ ผมไม่เห็นปัญหาอะไรมากมาย เป้าหมายชัดเจน ทำให้ลูกเต่าเกิดมากที่สุดและทำให้คนเกาะสมุยรักเต่าและมีส่วนร่วมในทางต่างๆ ให้มากเข้าไว้ (ไม่ต้องไปชุมนุมกันก็มีส่วนร่วมได้ แก๊งค์เพื่อนธรณ์เป็นตัวอย่างที่ดีฮะ) อันดับต่อมาคือตอนนี้ไล่ไปถึงปลายปี เราควรนำเต่ามาเป็นจุดขายสมุย ลองสร้างแบรนดิ้งใหม่ เกาะสมุยเกาะแห่งเต่า ยกระดับท่องเที่ยวเกาะสมุยให้เป็นอีโคบวกไฮโซ ผมเชื่อว่าเป็นไปได้ เพราะยุโรปคือกลุ่มใหญ่ของสมุย และอีโคไปกับยุโรปง่ายกว่าชาติอื่นๆ แต่การปรับตัวต้องมีมาตรการบางอย่างสอดคล้องไปด้วย เช่น ดูแลหาด ทำความสะอาดเป็นประจำ ลดเสียงช่วงฤดูเต่าวางไข่ บอกวิธีปฏิบัติให้นักท่องเที่ยว/ผู้ประกอบการทราบ เกาะสมุยมีเครือข่ายที่ดีมากในเรื่องต่างๆ ผมเชื่อว่า หากรีแบรนด์ตอนนี้เป็นไปได้ โดยอาศัยเครือข่ายช่วย ผมกะว่าจะลองคิดเรื่องนี้แบบจริงจัง ตอนนี้กำลังร่างแผนคร่าวๆ อันดับสุดท้าย คือ ทำไปเรื่อยจนหมดยุคโควิด ดูจากความคิดเห็นทั่วโลกแล้ว การท่องเที่ยวเกาะสมุยจะกลับมาแบบช้าหน่อย ในปีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไทยเที่ยวไทย ไปกันใกล้ๆ บ้านก่อน แต่เกาะสมุยมีต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งยังไกลจากเมืองใหญ่คนไทยอยู่ ช่วงแรกๆ คนคงยังไปไม่มาก ต้องรอปีหน้าถึงจะเริ่มมีการท่องเที่ยวในภูมิภาค จีนคงทยอยกลับมา แต่ถ้ายุโรปอาจรออีกนิด สรุปแล้วเราน่าจะมีเวลาไม่ต่ำกว่า 12 เดือนในการรีแบรนด์และหาทางให้สมุยเป็นเกาะที่คนเที่ยวได้เต่าวางไข่ได้ เป็นภารกิจเร้าใจ ถ้าสำเร็จคือตัวชี้วัดอนาคตสมุยต่อไปในวันหน้า สำหรับผม นี่น่าจะเป็นโอกาสที่ไม่เคยเกิดมาก่อนของเกาะสมุย เรียกว่าโลกเปิดโอกาสให้เราอีกครั้ง จะทำอย่างไรให้ยั่งยืนจริง เชื่อมั่นในความรักทะเลของคนเกาะสมุย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเริ่มคิดและหาทางให้เป็นไปได้ ยุคใหม่ คิดใหม่ ปรับใหม่ รักเต่ารักทะเลให้มากกว่าเดิม และทะเลจะมีคุณค่าสร้างรายได้ให้เรานานๆ ครับ? https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000053968 ********************************************************************************************************************************************************* แม่เต่าตนุขึ้นมาวางไข่เป็นตัวที่ 2 บนชายหาดแหลมสอ ปรากฏการณ์ที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก สุราษฎร์ธานี - ปิดชายหาดบนเกาะสมุย หลังการระบาดของโควิด-19 ส่งผลดีกับธรรมชาติได้ฟื้นฟู ทำให้เต่าทะเลที่หายไปนานเกือบ 10 ปี ทยอยขึ้นมาวางไข่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด เต่าตนุขึ้นมาวางไข่อีกตัว วันนี้ (24 พ.ค.) นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งจาก นายวีรพงษ์ วัชรสินธ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย ว่า พบรอยเท้าเต่าขนาดใหญ่คลานขึ้นมาขุดคุ้ยทรายบนชายหาด ข้างวัดแหลมสอ ยังไม่ทราบว่าเป็นเต่าชนิดใด ภายหลังได้รับแจ้งจึงได้สั่งการ และมอบหมายให้นายนพดล ขาวมะลิ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะสมุย นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอเกาะสมุย พร้อมกำลัง อส.เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมด้วย น.ส.เทพสุดา ลอยจิ้ว ผู้จัดการโรงแรมบันยันทรีสมุย ที่ปรึกษา ทีมสัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร ช่วยดูแลและอนุบาลรังไข่เต่า ได้เดินทางลงตรวจสอบบริเวณชายหาดสาธารณะวัดแหลมสอ จุดที่พบแม่เต่าทะเลขนาดใหญ่ ขึ้นมาวางไข่บริเวณชายหาดสาวัดแหลมสอ จากการตรวจสอบ พบบริเวณชายหาดมีรอยเท้าเต่าทะเลขนาดใหญ่ วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ 75 เซนติเมตร และบนพื้นทรายมีรอยเท้าเต่าเป็นทางยาว และมีหลุม ที่แม่เต่าขุดคุ้ยลงไปวางไข่ จำนวน 1 หลุม ซึ่งจุดที่พบในครั้งนี้ห่างจากจุดเดิมที่พบแม่เต่ากระ ขึ้นมาวางไข่เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ประมาณ 200 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการถ่ายวิดีโอคอล เพื่อรายงานให้เจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร ดูเพื่อร่วมกันตรวจสอบ และพบว่ามีไข่เต่าจำนวนหนึ่งที่แม่เต่าเพิ่งวางไข่ไปเมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ในเบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรอยเท้าเเม่เต่าบนพื้นทราย พร้อมนำมาเปรียบเทียบกับรอยเท้าแม่เต่ากระก่อนหน้านี้ และคาดว่าแม่เต่าที่ขึ้นมาวางไข่ในครั้งนี้เป็นแม่เต่าทะเลสายพันธุ์เต่าตนุ ภายหลังที่ได้ร่วมกันตรวจสอบ ทางนายนพดล ขาวมะลิ ปลัดอาวุโสอำเภอเกาะสมุย ได้รายงานให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทราบ โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้กำชับให้ทางปลัดอำเภอเกาะสมุย และอดีตผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำรั้วกัน พร้อมทำป้ายเตือนห้ามคนเข้าไปรบกวน และป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน และสุนัขเข้าไปกินไข่เต่า พร้อมประสานโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง ทำการติดตั้งกล้อง cctv พร้อมเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟเพื่อสังเกตการณ์ และเฝ้าติดตามพฤติกรรมของแม่เต่า และรังไข่ของเต่าตนุอย่างใกล้ชิด โดย นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากการได้รับรายงาน ทราบว่าตั้งแต่ต้นปีนี้ พบว่า บนชายหาดบริเวณชายทะเลบนเกาะสมุย อย่างน้อย 2 ตำบล คือในตำบลมะเร็ต และตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย พบเต่าทะเลอย่างน้อย 2 สายพันธุ์ คือ เต่ากระ และเต่าตนุ ได้ขึ้นมาวางไข่บนชายหาดอย่างต่อเนื่อง และทราบว่าเกือบ 10 ปี ที่เต่าทะเลหายไป และเพิ่งกลับขึ้นมาวางไข่ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก และส่งผลดีกับธรรมชาติและระบบนิเวศได้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ทำให้เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่อย่างต่อเนื่อง จึงฝากพี่น้องประชาชนอย่าเข้าไปรบกวน หากพบเห็นเต่าขึ้นมาวางไข่ ขอให้แจ้งมาที่นายอำเภอเกาะสมุย เพื่อจะได้แจ้งให้ทาง ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด และจะกันพื้นที่ที่มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ให้เป็นเขตอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลต่อไป https://mgronline.com/south/detail/9630000054041 ********************************************************************************************************************************************************* นักอนุรักษ์เขมรได้ดีใจกันถี่ๆ พบไข่ตะพาบหัวกบสุดหายากนับพันริมน้ำโขง ซินหวา - สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ออกคำแถลงวานนี้ (24) ระบุว่า นักอนุรักษ์พบรังตะพาบหัวกบหายาก (Cantor's Giant Softshell Turtles) ถึง 49 รัง พร้อมไข่ตะพาบกว่า 1,756 ใบ บนหาดริมแม่น้ำโขงใน จ.กระแจะ (Kratie) และ จ.สตึงเตรง (Stung Treng) ในช่วงฤดูวางไข่ปีนี้ แม้จะพบรังตะพาบมากกว่าฤดูวางไข่ปี 2562 เพียง 2 รัง แต่ไข่ตะพาบที่พบกลับมีจำนวนมากกว่าที่พบในช่วงหลายปีที่ผ่านมามาก คำแถลงระบุ และจนถึงวันศุกร์ (22) มีลูกตะพาบฟักออกจากไข่ทั้งสิ้น 824 ตัว จาก 41 รัง โดยลูกตะพาบ 657 ตัว ถูกปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ส่วนลูกตะพาบที่เหลือยังอยู่ภายใต้การดูแลของนักอนุรักษ์เพื่อปล่อยในอนาคต ตะพาบหัวกบ ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าชนิดพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์จากพื้นที่ธรรมชาติ ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เชื่อว่าพวกมันได้สูญพันธุ์ไปจากแม่น้ำโขงในส่วนของกัมพูชา จนกระทั่งพวกมันถูกพบตัวอีกครั้งในปี 2550 บริเวณแม่น้ำโขงเขต จ.กระแจะ และ จ.สตึงเตรง ที่มีความยาว 48 กิโลเมตร "ด้วยการสนับสนุนจากผู้บริจาคของเราและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานด้านประมง รวมถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเจ้าหน้าที่ภาคสนามและทีมพิทักษ์รังตะพาบชุมชน ทำให้สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่ามีความคืบหน้าในการดำเนินการโครงการในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้" ผู้อำนวยการ WCS ประจำกัมพูชา กล่าว "จำนวนรังและไข่ตะพาบหัวกบที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นแรงบันดาลใจให้เราเพิ่มความพยายามในการอนุรักษ์สัตว์สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์จากพื้นที่ธรรมชาตินี้ให้มากยิ่งขึ้น" ผู้อำนวยการ กล่าว ด้านผู้อำนวยการสำนักงานอนุรักษ์ของกรมประมง ได้ยกย่องการมีส่วนร่วมของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ชุมชน และสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า ในการอนุรักษ์ตะพาบที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญพันธุ์ให้สามารถอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติได้ และย้ำเตือนว่าผู้ที่ค้าตะพาบหัวกบจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย องค์การอนุรักษ์สัตว์ป่าและกรมประมงกัมพูชาได้ร่วมทำงานอนุรักษ์สายพันธุ์สัตว์ชนิดนี้ตั้งแต่ปี 2560 ทั้งการขัดขวางการจับและค้าตะพาบอย่างผิดกฎหมาย การดำเนินโครงการพิทักษ์รังตะพาบโดยชุมชน และการสนับสนุนการทำประมงชุมชนและการพัฒนาชุมชน เป็นต้น. https://mgronline.com/indochina/detail/9630000053971
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|