เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

 
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
Prev คำตอบที่แล้วมา   คำตอบถัดไป Next
  #8  
เก่า 29-06-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,809
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


นักวิทยาศาสตร์พบไมโครพลาสติกสะสมอยู่ในผักและผลไม้


Image copyright GETTY IMAGES

กลุ่มรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน หลังจากผลการศึกษาจากอิตาลีพบว่ามีพลาสติกขนาดจิ๋วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หรือที่เรียกว่า ไมโครพลาสติก สะสมอยู่ในผักและผลไม้ที่เรานิยมบริโภคกัน

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาตาเนีย ในแคว้นซิซิลี ตีพิมพ์ผลการศึกษาชิ้นนี้ในวารสาร Environmental Research โดยระบุว่า พบไมโครพลาสติกอยู่ในผักผลไม้ต่าง ๆ เช่น ผักรับประทานใบ ประเภทผักกาดหอม รวมทั้ง บรอกโคลี มันฝรั่ง และลูกแพร์

แต่พืชที่พบอนุภาคพลาสติกสะสมอยู่ในระดับสูงที่สุดได้แก่ แอปเปิล และแครอท

ทีมนักวิจัยเชื่อว่านี่เกิดจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "หยาดน้ำฟ้า" (precipitation) ซึ่งหมายถึงหยดน้ำ และน้ำแข็ง ที่เกิดจากการควบแน่นของไอน้ำแล้วตกกลับมาสู่พื้นโลกในรูปของ น้ำฝน ลูกเห็บ และหิมะ เป็นต้น

พวกเขาชี้ว่า ไมโครพลาสติกที่อยู่ในมหาสมุทรได้เกิดกระบวนการดังกล่าว แล้วไปจับตัวอยู่ในเมฆ จากนั้นได้ตกกลับสู่พื้นโลกโดยปนเปื้อนอยู่ในน้ำฝน แล้วพืชได้ดูดซับเอาไมโครพลาสติกเข้าไปทางราก

ทีมนักวิจัยพบว่า ผลไม้มีระดับไมโครพลาสติกสะสมอยู่มากกว่าผัก เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้น ซึ่งมีรากใหญ่ที่หยั่งลงไปในดินได้ลึกกว่าผัก


ไมโครพลาสติกที่พบอยู่ในมหาสมุทร Image copyright GETTY IMAGES

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับงานวิจัยอีกชิ้นของทีมนักวิทยาศาสตร์ในจีนและเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Sustainability โดยพบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า รากของผักกาดและข้าวสาลีสามารถดูดซับไมโครพลาสติกได้ แล้วส่งอนุภาคพลาสติกไปยังส่วนที่กินได้ซึ่งอยู่เหนือพื้นดิน

อย่างไรก็ตาม ทีมนักวิจัยระบุว่า ระดับของไมโครพลาสติกที่พบสะสมอยู่ในผักและผลไม้นั้น ยังมีปริมาณน้อยกว่าไมโครพลาสติกที่พบในน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกเสียอีก



ไมโครพลาสติกคืออะไร

ไมโครพลาสติก เป็นอนุภาคขนาดจิ๋วของพลาสติกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่ถึง 5 มิลลิเมตร

ไมโครพลาสติก เกิดจากพลาสติกชิ้นใหญ่กว่าที่สลายตัวออกจากกัน เช่น ขวดพลาสติก ถุงและภาชนะพลาสติกที่สลายตัวในดินหรือทะเล แล้วก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

มาเรีย เวสเตอร์บอส ผู้ก่อตั้งกลุ่มรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ชื่อ Plastic Soup Foundation กล่าวว่า "เราทราบกันมาหลายปีแล้วเรื่องการพบพลาสติกในสัตว์น้ำเปลือกแข็งและปลา แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ทราบว่าพลาสติกเข้าไปสะสมอยู่ในผัก"

"ถ้ามันเข้าไปสะสมอยู่ในพืชผักต่าง ๆ ได้ ก็เท่ากับว่ามันจะเข้าสู่สิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่กินพืช ซึ่งหมายถึงเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนมต่าง ๆ"

"สิ่งที่เราต้องค้นหาคือมันจะส่งผลต่อพวกเราอย่างไร" เวสเตอร์บอส กล่าว

ปัจจุบันยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การบริโภคไมโครพลาสติกเข้าไปจะส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพของคนเรา แต่หลายฝ่ายชี้ว่าข้อมูลที่ได้จากงานวิจัยชิ้นนี้เป็นเรื่องที่ "น่ากังวล"


https://www.bbc.com/thai/features-53203856


*********************************************************************************************************************************************************


ประชากรกว่าครึ่งของโลกอยู่ในพื้นที่มีมลพิษทางอากาศรุนแรงขึ้นทุกขณะ



ผลการศึกษาล่าสุดซึ่งจัดทำโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และสถาบันวิจัยบางแห่งของสหราชอาณาจักร เผยว่าปัจจุบันประชากรกว่าครึ่งของโลกอาศัยอยู่ในบริเวณที่มลพิษทางอากาศทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนในเมืองใหญ่หรือในชนบทก็ตาม

รายงานวิจัยดังกล่าวซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศทั่วโลกระหว่างปี 2010-2016 ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Climate and Atmospheric Science โดยระบุว่าประชากรโลกอย่างน้อย 1 คนในทุก 2 คน กำลังอาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งคุณภาพอากาศย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปริมาณของฝุ่นอนุภาคละเอียดอย่างเช่น PM2.5 ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสามารถหยุดยั้งได้

ศาสตราจารย์เกวิน แชดดิก จากมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ของสหราชอาณาจักร ผู้นำทีมวิจัยบอกว่า "ผู้คนในยุโรปและอเมริกาเหนือเผชิญกับมลพิษทางอากาศน้อยที่สุด เนื่องจากนโยบายสิ่งแวดล้อมในระยะยาวของรัฐกำลังให้ผลดี แต่ผู้คนในเอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลับต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศระดับสูงสุดของโลกในขณะนี้ โดยบางประเทศมีปริมาณฝุ่นพิษหนาแน่นกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกถึง 5 เท่า"


Image copyrightAFP/GETTY IMAGES

ศ. แชดดิกยังย้ำว่า ปัญหามลพิษทางอากาศทวีความรุนแรงขึ้นในหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยไม่เลือกว่าจะเป็นพื้นที่ในเมืองใหญ่หรือในชนบท เช่นในพื้นที่ห่างไกลความเจริญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความหนาแน่นของฝุ่นอนุภาคละเอียดเพิ่มขึ้นถึง 11% ตลอดช่วง 7 ปีที่ได้ทำการศึกษา

"มลพิษทางอากาศสามารถกระจายตัวไปได้ไกลกว่าที่เคยคาดกันไว้ ทั้งก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางสุขภาพได้แม้ในพื้นที่ชนบท ดังนั้นความพยายามแก้ไขปัญหานี้จะต้องครอบคลุมทุกพื้นที่ในภาพรวม โดยไม่มุ่งเน้นไปแต่ที่เมืองใหญ่เท่านั้น" ศ. แชดดิกกล่าว

นอกจากมลพิษทางอากาศที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์แล้ว ทีมผู้วิจัยยังพบว่าการกระจายของฝุ่นละอองเนื่องจากพายุทรายก็ทวีความรุนแรงขึ้นด้วย ดังเช่นที่พบในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ทำให้คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่ของโลกย่ำแย่ลงอย่างมาก โดยปรากฏการณ์นี้เป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก


https://www.bbc.com/thai/features-53205941

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
 


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:45


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2025, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger