เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 1 กรกฏาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 1 ? 6 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 1 - 6 ก.ค. 63 ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


เตรียมเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เที่ยวไทยได้ 3 จังหวัด 5 เกาะ

"พิพัฒน์" คาดประเทศไทยจะเปิดให้ "นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ" เข้ามาได้ช่วงเดือนส.ค. พร้อมกำหนดให้เที่ยวแค่ 5 พื้นที่ 3 จังหวัด คาดยอดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีไม่เกิน 10 ล้านคน



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวคาดว่าประเทศไทยจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปให้เริ่มเข้ามาได้ตั้งแต่เดือนส.ค. เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่คาดไว้ราวเดือนก.ย.-ต.ค.2563 หลังจากที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัญญาณกระทรวงการท่องเที่ยวให้เตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการท่องเที่ยวแล้ว ในการเตรียมความพร้อมเป็น 1 ใน 3 จังหวัดนำร่อง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเทียบสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ภายในจังหวัดในเกณฑ์สูง ทำให้คาดว่าจะเกิดการยอมรับของคนในพื้นที่ และลดกระแสต่อต้านการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้มากกว่า

สำหรับจังหวัดที่พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนมีทั้งสิ้น 3 จังหวัด รวม 5 จุดหมาย ได้แก่ เกาะภูเก็ต, เกาะพีพี, ในจังหวัดกระบี่, เกาะสมุย, เกาะพะงัน และเกาะเต่า ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนเกณฑ์ในการเปิดรับอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข แต่หลักการที่แน่ชัดแล้วคือ จะจัดสรรโควตาจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปในแต่ละพื้นที่ โดยคำนวณจากขีดความสามารถในด้านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และศักยภาพด้านสาธารณสุขเป็นหลัก

ส่วนการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวนั้น จะอนุญาตให้โดยสารเครื่องบินตรงสู่จุดหมายที่กำหนดเท่านั้น หากมีความจำเป็นต้องแวะพักเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินในกรุงเทพฯ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากสนามบินมาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างประเทศปีนี้ จะไม่เกิน 10 ล้านคน เนื่องจากไทยมียอดสะสมจากเดือนม.ค.-มี.ค.2563 ที่ 6.7 ล้านคน และในช่วง 3-4 เดือนที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในปีนี้ ก็เป็นไปได้ยากที่มีชาวต่างชาติเข้ามาถึง 1.1 ล้านคนต่อเดือน เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านโควตาและพื้นที่ที่พร้อมรองรับ.


https://www.thairath.co.th/news/business/1879460


*********************************************************************************************************************************************************


สาเหตุการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ 450 ล้านปีก่อน



ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเหตุการณ์ สูญพันธุ์ครั้งใหญ่ปลายยุคออร์โดวิเชียน (Ordovician) เมื่อประมาณ 450 ล้านปีก่อนนั้นเชื่อมโยงกับจุดสิ้นสุดของยุคน้ำแข็ง ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและระดับออกซิเจนในมหาสมุทรลดลง ผลที่ตามมาก็คือประมาณ 85% ของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทั้งหมดตายไปในช่วงเวลาที่ทวีปในปัจจุบันส่วนใหญ่ก่อตัวเป็นมหาทวีปแพนเจีย (Pangea)

แต่เมื่อไม่นานนี้มีการศึกษาใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮัลล์ ในอังกฤษ ชี้ให้เห็นว่าการปะทุของภูเขาไฟได้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากพอที่จะทำให้โลกร้อนขึ้นและกำจัดออกซิเจนในมหาสมุทร ทำให้สิ่งมีชีวิตหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในน้ำขาดอากาศหายใจ นั่นหมายความว่าการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ครั้งแรกของโลกอาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟนั่นเอง

สิ่งที่ทำให้คิดเช่นนั้นก็เพราะหลังจากนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮัลล์ ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานสำรวจทางธรณีวิทยาในแคนาดา รวบรวมหินจากยุคออร์โดวิเชียนที่ได้จากลำธารเล็กๆ ทางตอนใต้ของสกอตแลนด์มาทดสอบ เมื่อหินเหล่านั้นถูกทำให้ร้อนพวกมันก็ปล่อยสารปรอทออกมาจำนวนมาก ซึ่งแสดงถึงสัญญาณการปะทุของภูเขาไฟในช่วงเวลานั้นในอดีต.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1878843

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เครียด!! ขยะพลาสติกเพิ่ม15% "ดร.ธรณ์" วอนร้านกาแฟปลดล็อค ลูกค้าใช้แก้วส่วนตัว


ภาพ - ขยะพลาสติก

"ดร.ธรณ์" โพสต์เรียกร้อง ควรถึงเวลาแล้วที่ร้านกาแฟที่หวังดีต่อโลก จะกลับมาอนุญาตให้คนไทยนำแก้วมาใช้เองได้อีกครั้ง หวั่นผลของการรณรงค์ขยะพลาสติกแทบสูญหาย ชี้อาจส่งผลต่อโรดแมปของกระทรวงทรัพยากรฯ

ผศ.ดร.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Thon Thamrongnawasawat เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนว่า



"ในสถานการณ์ที่เมืองไทยไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศเกือบ 40 วัน และภาครัฐกำลังจะคลายล็อคระยะที่ 5 ผมอยากขอร้องร้านกาแฟทั้งหลายว่า น่าจะถึงเวลาอนุญาตให้คนซื้อนำแก้วมาใช้เอง เพื่อลดแก้วใช้แล้วทิ้งจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาครับ ????????

การไม่อนุญาตให้คนซื้อนำมาใช้เอง เนื่องจากเหตุผลป้องกันการระบาด ไม่ใช่มาตรการภาครัฐ เป็นเพียงกระแสที่เกิดขึ้นจากร้านกาแฟในเมืองนอก ก่อนเข้ามาในประเทศไทย

ผมไม่สามารถหาหลักฐานเจอได้ว่า มีเหตุการณ์คนติดโรคจากการนำแก้วตัวเองมาใช้

อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่รุนแรง ผมไม่อาจเรียกร้องในเรื่องนี้ แม้ทราบดีว่าจะเกิดขยะปริมาณมหาศาล

ข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรฯ ยืนยันว่าขยะพลาสติกในไทยเพิ่มขึ้นถึง 15%

แน่นอนว่าส่วนหนึ่งคือแก้วใช้แล้วทิ้งเหล่านั้น (ไม่มีตัวเลข แต่เชื่อว่าเป็นหลักหลายหมื่น/วัน หรือกว่านั้น)

เรารณรงค์กันเรื่องนำแก้วมาเองติดต่อกัน 5-6 ปี จนเริ่มเกิดผลเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านั้นแทบทุกร้านล้วนยินดีรับแก้วส่วนตัว

แต่เมื่อห้ามใช้ ผลของการรณรงค์แทบสูญหาย ยังอาจส่งผลต่อโรดแมปของกระทรวงทรัพยากรฯ ในการแบนแก้วใช้แล้วทิ้งในปี 65

ด้วยเหตุผลทุกอย่างที่บอกมา ผมคิดว่าควรถึงเวลาแล้วที่ร้านกาแฟที่หวังดีต่อโลก จะกลับมาอนุญาตให้คนไทยนำแก้วมาใช้เองได้อีกครั้ง

จะลดราคาให้หรือไม่ก็ตาม ประเด็นสำคัญคือเปิดทางเลือกให้คนอยากรักโลกมีโอกาสจะทำตามความตั้งใจของพวกเรา

หากเพื่อนธรณ์เห็นด้วย ขอความกรุณาสนับสนุน "การขอร้อง" ครั้งนี้ด้วยครับ"



อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีความพยายามลดปัญหาขยะพลาสติก เพราะช่วงวิกฤตโควิด-19 การสั่งอาหาร Delivery ทำให้เกิดขยะจากบรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งรวมทั้งขยะพลาสติกด้วย

โครงการ "ส่งพลาสติกกลับบ้าน" จึงเกิดขึ้น โดยเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) ร่วมด้วยภาคี 24 องค์กร ที่ตระหนักถึงการจัดการขยะพลาสติก และต้องการให้ผู้บริโภค "แยกที่บ้าน ฝากทิ้งที่เรา" จึงนำไอเดียมานำร่องใช้จริง โดยการตั้งจุดรับทิ้งขยะพลาสติก 10 จุด บนถนนสุขุมวิทในกรุงเทพฯ เพื่อนำกลับไปรีไซเคิล



สิ่งที่โครงการนี้ต้องการมากกว่าขยะ คือให้ผู้บริโภคได้ความรู้ในการคัดแยกขยะพลาสติกตั้งแต่ต้นทาง แล้วนำไปใช้ในชีวิตวิถีใหม่ เพื่อยกระดับการเพิ่มความปลอดภัยให้กับซาเล้งและพนักงานเก็บขยะ รวมถึงลดปริมาณขยะพลาสติกสู่บ่อฝังกลบ ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ยิ่งไปกว่านั้น แนวทางแยกขยะที่บ้าน แล้วมาฝากทิ้งเป็นการเพิ่มการนำพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ โดยผ่านกระบวนการ recycle/upcycle ของบริษัทเอกชน เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Cicular economy) เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เริ่มต้นนำร่องกำหนดเวลาไว้ 2 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2563


https://mgronline.com/greeninnovatio.../9630000066939

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


พบอุณหภูมิขั้วโลกใต้ร้อนกว่าส่วนอื่นๆ ถึง 3 เท่า


บรรยากาศส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติกา (Yevgen Prokopchuk / 25th Ukrainian Antarctic Expedition / AFP)

นักวิทยาศาสตร์พบอุณหภูมิที่ขั้วโลกใต้เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกถึง 3 เท่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เหตุเนื่องจากอุณหภูมิของมหาสมุทรเขตร้อนที่อุ่นขึ้น

ทั้งนี้ อุณหภูมิของแอนตาร์กติกานั้นแปรเปลี่ยนอย่างมากไปตามฤดูกาลและภูมิภาค และก็เชื่อกันมานานหลายปีว่า ขั้วโลกใต้นั้นยังคงอุณหภูมิที่หนาวเหน็บ แม้ว่าทวีปจะร้อนขึ้น

ทว่า นักวิจัยในนิวซีแลนด์ อังกฤษ และสหรัฐฯ ได้วิเคราะห์ข้อมูล 60 ปีที่บันทึกจากจากสถานีสภาพอากาศ และใช้แบบจำลองทางคอมพิวเตอร์เพื่อหาสาเหตุว่าอะไรเป็นสิ่งที่เร่งอุณหภูมิให้ร้อนขึ้น

ทีมวิจัยพบว่า อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นของมหาสมุทรในแปซิฟิกตะวันตกตลอดเวลาหลายสิบปีนั้น ได้ลดความดันบรรยากาศเหนือทะเลเวดเลล์ (Weddell Sea) ทางตอนใต้ของแอตแลนติกให้ต่ำลง ส่งผลให้อากาศร้อนเพิ่มขึ้นโดยตรงเหนือขั้วโลกใต้ และทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 เป็นต้นมาเพิ่มขึ้น 1.83 องศาเซลเซียส

ทีมวิจัยระบุว่า แนวโน้มของการร้อนขึ้นตามธรรมชาตินั้น ถูกเร่งโดยการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ผลงานของมนุษย์ และยังส่งผลให้เกิดภาวะเรือนกระจกเนื่องจากมลภาวะจากคาร์บอนเหนือขั้วโลกใต้ด้วย

"ขณะที่รู้กันว่าอุณหภูมิทั่วเวสต์แอนตาร์กติกาและคาบสมุทรแอนตาร์กติกานั้นกำลังร้อนขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 แต่อุณหภูมิของขั้วโลกใต้ก็ยังหนาวเย็นอยู่ ซึ่งถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่า บริเวณดังกล่าวของทวีปแอนตาร์กติกานั้นมีภูมิต้านทานหรือทนต่อความร้อน แต่การค้นพบครั้งนี้บอกว่าไม่ใช่อีกต่อไป" ไคลี เคลม (Kyle Clem) นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวิคตอเรียแห่งเวลลิงตัน (Victoria University of Wellington) ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมในงานวิจัยครั้งนี้เปิดเผยแก่เอเอฟพี

ข้อมูลยังเผยให้เห็นว่า ขั้วโลกใต้ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ห่างไกลที่สุดบนดาวเคราะห์โลก ตอนนี้กำลังร้อนขึ้นด้วยอัตรา 0.6 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ ซึ่งเป็นอัตราที่เร็วกว่าส่วนอื่นๆ ของโลกถึง 3 เท่า โดยเฉลี่ยส่วนอื่นของโลกมีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นในอัตรา 0.2 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ

งานวิจัยนี้ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารวิชาการเนเจอร์ไคลเมทเชนจ์ (Nature Climate Change) โดยทีมวิจัยได้ให้เหตุของการเปลี่ยนแปลงว่ามีสาเหตุจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ความผันผวนระหว่างทศวรรษแปซิฟิก (Interdecadal Pacific Oscillation) หรือ IPO

ความผันผวนระหว่างทศวรรษแปซิฟิกนี้มีรอบอยู่ราวๆ 15-30 ปี และมีการสลับสับเปลี่ยนจากสถานะบวก (positive) ที่บริเวณแปซิฟิกเขตเส้นศูนย์สูตรนั้นร้อนขึ้นและแปซิฟิกตอนเหนือหนาวเย็นกว่าค่าเฉลี่ย กับสถานะลบ (negative) ที่อุณหภูมิของสองส่วนดังกล่าวสลับกัน

ความผันผวน IPO สู่วัฏจักรลบนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเริ่มต้นของศตวรรษ ขับเคลื่อนให้การหมุนเวียนความร้อนรุนแรงขึ้นและเกิดความดันมากขึ้นอย่างรุนแรงที่บริเวณละติจูดสูงๆ นำไปสู่กระแสลมร้อนที่กรรโชกแรงเหนือขั้วโลกใต้

เคลมกล่าวว่าระดับความร้อนที่เพิ่มขึ้น 1.83 องศาเซลเซียสนั้น คิดเป็นความร้อนที่เพิ่มขึ้นถึง 99.99% ของแบบจำลองความร้อนที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรอบ 30 ปีแล้ว ขณะที่ความร้อนกำลังเพิ่มขึ้นตามวัฏจักรธรรมชาติ แต่ก็ชัดเจนมากว่ากิจกรรมของมนุษย์นั้นมีส่วนร่วมต่อความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นนี้


https://mgronline.com/science/detail/9630000067208

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


รัสเซียทุบสถิติร้อน เมืองแถบอาร์กติก อุณหภูมิสูง 38 องศาเซลเซียส


An aerial view shows the Taiga wood burning near Boguchany in Russia

รัสเซียทุบสถิติร้อน - วันที่ 30 มิ.ย. เอเอฟพี รายงานว่า มหาสมุทรอาร์กติกในส่วนของรัสเซียมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ในเดือนนี้ที่ก่อเกิดไฟป่าทรุนดาผิดปกติ เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศผิดปกติแปลกประหลาด



ดินแดนทางเหนือของรัสเซีย รวมถึงบางส่วนของสาธารณรัฐซาฮา หรือยาคูเทีย ซึ่งติดกับมหาสมุทรอาร์กติก เผชิญคลื่นความร้อนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา และหมู่บ้านในป่าทรุนดาห่างไกลกำลังต่อสู้กับไฟป่าโดยมีบางพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

นายโรมัน วิลฟันด์ หัวหน้าสำนักงานพยากรณ์อากาศรัสเซีย แถลงข่าวว่า อุณหภูมิโดยเฉพาะที่เมืองเวียร์โฮยันสค์แตะ 38 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. เมื่อเปรียบเทียบกับอุณหภูมิต่ำสุดของเมืองที่มีการบันทึกคือ -67.8 องศาเซลเซียส



นายวิลฟันด์กล่าวว่า แนวโน้มอุณหภูมิที่ร้อนขึ้น และอากาศที่แจ่มใสขึ้น เกิดจากความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และความเปลี่ยนแปลงในการหมุนเวียนอากาศ ด้วย แอนไทไซโคลนขั้วโลก (polar anticyclones) ลมสัญจรเป็นวงกว้างบริเวณกลางความกดอากาศสูง ปรากฏการณ์ที่ทำให้ท้องฟ้าแจ่มใส ที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้น ในทางกลับกัน ผืนดินมหาสมุทรอาร์กติกในช่วงฤดูร้อนมีความร้อนขึ้น เนื่องจากไม่มีเมฆ

นายวิลฟันด์กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ นักอุตุนิยมวิทยาไม่ได้สังเกตสถานการณ์อันตรายจากไฟป่าในบริเวณขั้วโลกบ่อยครั้ง ทว่าตอนนี้ท่าทีกำลังเปลี่ยนไป เนื่องจากแอนไทไซโคลนเกิดขึ้นบ่อย และคาดไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นที่ไหนด้วย และไฟป่าที่เกิดขึ้นส่งผลเกิดวงจรอากาศอุ่นเนื่องจากขี้เถ้าจะทำให้พื้นผิวน้ำแข็งดำลง ซึ่งก่อนหน้านี้จะช่วยสะท้อนแสงอาทิตย์ที่ตกมากระทบ แต่กลับกลายเป็นตัวทำให้น้ำแข็งละลายแทน


Taken from 40,000ft, this image shows a good cross section of the Verkhoyansk Mountain Range in Russia.

ทั้งนี้ รัสเซียมีอุณหภูมิอุ่นเร็วกว่าที่อื่นของโลก 2.5 เท่า เนื่องจากดินแดนมหาสมุทรอาร์กติกกว้างใหญ่ แม้ว่าประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ระบุว่า ประโยชน์ของอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นจะเปิดเส้นทางการขนส่งและแหล่งทรัพยากรพลังงาน ความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอันตรายอย่างยิ่งต่อโครงการพื้นฐานของประเทศที่สร้างบน ชั้นดินเยือกแข็ง (permafrost)


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_4416365

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #6  
เก่า 01-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


ข่าวดี! ครม.เห็นชอบ ดัน "อุทยานแห่งชาติเขาสก - ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน" มรดกอาเซียน


ครม.เห็นชอบเสนอพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี และพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน



เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบเสนอพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย เป็นพื้นที่อุทยานมรดกแห่งอาเซียน ASEAN Heritage Park (AHP) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 เป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศน์หลายแบบ เช่น ป่าดิบชื้น ป่าเขาหินปูน และป่าพรุ เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์หลากหลายชนิด มีพืชเฉพาะถิ่นและพืชหายาก เช่น บัวผุด ซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ คือ เขาหินปูนขนาดใหญ่ 3 ลูก ตั้งอยู่ผืนน้ำสีเขียวมรกตของเขื่อนรัชชประภา ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมกับระบบนิเวศ โดยเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และมีวิถีชีวิตชุมชนแบบดั้งเดิม



อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศหลากหลายเฉพาะตัว เช่น ป่าเบญจพรรณ สังคมพืชริมน้ำ ฯลฯ เป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์หลากหลายชนิด มีลักษณะภูมิประเทศทั้งเทือกเขาสูง เขาหินปูน และตะลักพักน้ำ ซึ่งเป็นที่ราบแคบ มีระดับลดหลั่นกันลงมาเหมือนขั้นบันได มีระบบนิเวศถ้ำที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณะ โดยเฉพาะถ้ำหลวง ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนกึ่งแห้งขนาดใหญ่ มีความยาวเป็นอันดับ 4 ของไทย (ระยะ 10,316 เมตร) และมีลักษณะของภูเขาเรียงตัวกันคล้ายกับรูปผู้หญิงนอน มีปล่องโพรงเป็นจำนวนมาก มีแหล่งน้ำที่สำคัญ คือ สระมรกต มีลักษณะเป็นน้ำสีเขียวแกมฟ้ามรกตที่ไหลออกมาจากถ้ำทรายทองและรอยแตกของภูเขาบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ ยังเป็นพื้นที่เชื่อมโยงระหว่างวัฒนธรรมกับระบบนิเวศ มีชุมชนและชนเผ่าชาติพันธุ์อยู่บริเวณโดยรอบพื้นที่ ถึง 10 ชาติพันธุ์ เช่น อาข่า ไทใหญ่ เป็นต้น ทำให้เป็นพื้นที่หลากหลายทางวัฒนธรรม



ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นอุทยานมรดกแห่งอาเซียน จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ 1)อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกาศเมื่อ พ.ศ.2527 2)อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกาศเมื่อ พ.ศ.2527 3)กลุ่มอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะสิมิลันและอ่าวพังงา ประกาศเมื่อปี พ.ศ.2546 4)กลุ่มป่าแก่งกระจาน (อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี) ประกาศเมื่อปี พ.ศ.2546 5)อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ประกาศเมื่อปี พ.ศ.2562 6)อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ประกาศเมื่อปี พ.ศ.2562

ทั้งนี้ อุทยานมรดกแห่งอาเซียน มาจากการเสนอชื่อโดยรัฐบาลของประเทศนั้นๆ และได้รับการประเมินจากประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือของประชาสังคมและวัฒนธรรมแห่งอาเซียน โดยต้องมีลักษณะที่เป็นหนึ่งเดียว มีความหลากหลาย มีคุณค่าโดดเด่นคู่ควรแก่การอนุรักษ์ มีคุณสมบัติที่แสดงถึงความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นเอกลักษณ์ ความสำคัญทางชีววิทยาเชิงวัฒนธรรม มีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และมีขอบเขตทางกฎหมายที่ชัดเจน

นางสาวรัชดา กล่าวว่า เมื่อ ครม.มีมติเห็นชอบแล้ว สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานผู้ประสาน จะจัดส่งเอกสารการนำเสนอพื้นที่ให้กับศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งมีฐานะเป็นเลขานุการคณะกรรมการอุทยานมรดกแห่งอาเซียน เพื่อนำเสนอเอกสารให้กับคณะผู้เชี่ยวชาญ ดำเนินการตรวจสอบ ประเมินพื้นที่ และเสนอคณะทำงานอาเซียนด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพพิจารณา ก่อนนำเข้าที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การรับรองการขึ้นทะเบียนอุทยานมรดกแห่งอาเซียนต่อไป


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/128453


*********************************************************************************************************************************************************


ขั้วโลกใต้ร้อนขึ้นเป็น 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทวีปแอนตาร์กติกาในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา เป็นผลมาจากความแปรปรวนของเขตร้อน รวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก



"ขั้วโลกใต้" เป็นหนึ่งในดินแดนอันหนาวเหน็บที่มีอุณหภูมิติดลบมาเสมอ แต่สถานการณ์โลกร้อนกำลังจะเปลี่ยนความจริงนั้น

นักวิทยาศาสตร์รู้มานานหลายปีแล้วว่า บริเวณรอบนอกของทวีปแอนตาร์กติกากำลังร้อนขึ้น โดยพวกเขาเคยคิดว่า ขั้วโลกใต้ซึ่งตั้งอยู่ลึกเข้าไปในทวีปนั้น ไม่น่าได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น

แต่ล่าสุด การศึกษาใหม่ในวารสาร Nature Climate Change ระบุว่า ?ขั้วโลกใต้? ร้อนขึ้นเป็น 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลกในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งอาจมีนัยยะส่งสัญญาณไปถึงการละลายของแผ่นน้ำแข็งแอนตาร์กติก ผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตทางทะเลในภูมิภาค รวมถึงการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลก

ไคล์ เคล็ม (Kyle Clem) นักวิจัยปริญญาเอกสาขาวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเวลลิงตัน และผู้วิจัยการศึกษาดังกล่าว กล่าวว่า "นี่เป็นการเน้นย้ำว่า ภาวะโลกร้อนเป็นเรื่องของทั้งโลก และมันกำลังคืบคลานไปยังสถานที่ห่างไกลเหล่านี้"

เคล็มและทีมของเขาวิเคราะห์ข้อมูลสถานีอากาศที่ขั้วโลกใต้ เช่นเดียวกับแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ เพื่อตรวจสอบความร้อนในทวีปแอนตาร์กติกา พวกเขาพบว่า ระหว่างปี 1989 ถึงปี 2018 ขั้วโลกใต้อุ่นขึ้นประมาณ 1.8 องศาเซลเซียสในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในอัตรา 0.6 องศาเซลเซียสต่อทศวรรษ หรือคิดเป็น 3 เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ขั้วโลกใต้ร้อนขึ้น เกิดจากการเพิ่มขึ้นอุณหภูมิผิวน้ำทะเลซึ่งห่างออกไปหลายพันไมล์ในเขตร้อน (Tropics)

ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ภาวะโลกร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนทางตะวันตก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตรของออสเตรเลียและปาปัวนิวกีนี นั่นหมายถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิที่ถูกส่งไปยังขั้วโลกใต้ด้วย

"มันเป็นที่รกร้าง มันเป็นสถานที่ที่ห่างไกลที่สุดในโลกซึ่งความร้อนไม่น่าจะไปถึง แต่ประเด็นสำคัญคือ อุณหภูมิเขตแอนตาร์กติกนั้นมีความเชื่อมโยงกับพื้นที่ที่อยู่ห่างออกไป 10,000 กิโลเมตรในแปซิฟิกเขตร้อน" เคล็มกล่าว

ทีมพบว่า ภาวะที่อุณหภูมิในแอนตาร์กติกาเพิ่มขึ้น นอกจากจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลตามธรรมชาติเป็นเวลาหลายทศวรรษ ยังถูกเสริมด้วยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก เร่งกระบวนการให้แอนตาร์กติการ้อนเร็วขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้

อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นของทวีปแอนตาร์กติกาได้ถูกบันทึกไว้ที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และภาวะโลกร้อนมีผลกระทบร้ายแรงทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้คนนับล้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งที่เสี่ยงต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล

ข้อมูลขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า แผ่นน้ำแข็งของแอนตาร์กติกามีน้ำมากพอที่จะเพิ่มระดับน้ำทะเลทั่วโลกได้เกือบ 60 เมตร

อุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ทำให้อุณหภูมิในแอนตาร์กติกาสูงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ที่สถานีวิจัย Esperanza ของอาร์เจนตินา สามารถวัดอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดที่เคยบันทึกในทวีปแอนตาร์กติกาได้ที่ 18.3 องศาเซลเซียส


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/128424

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:30


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger