เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 06-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 6 กรกฏาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ก.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับในช่วงวันที่ 6 - 7 ก.ค. 63 จะมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 8 ? 11 ก.ค. 63 บริเวณภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 06-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


ช็อก หนุ่มออสเตรเลีย วัย 36 โดนฉลามกัด ดับสลด รายที่ 4 ของปีนี้

หนุ่มหาปลาชาวออสเตรเลีย วัย 36 เคราะห์ร้าย โดนฉลามกัด ใกล้เกาะเฟรเซอร์ ในรัฐควีนส์แลนด์ จนสิ้นชีพ นับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 4 ที่ตกเป็นเหยื่อฉลามในออสเตรเลีย



เมื่อ 5 ก.ค.63 ตำรวจออสเตรเลียแถลง เกิดเหตุการณ์สุดสลด ชายชาวออสเตรเลีย วัย 36 ปี ถูกฉลามกัดทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะไปหาปลาที่บริเวณใกล้ชายหาดเกาะเฟรเซอร์ รัฐควีนส์แลนด์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จนนับเป็นผู้เสียชีวิตจากการถูกฉลามกัดในออสเตรเลีย เป็นรายที่ 4 ของปีนี้

จอร์จซ ซีมัวร์ นายกเทศมนตรีเมืองเฟรเซอร์ โคสต์ โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจทางเฟซบุ๊กว่า นับเป็นวันที่เศร้าสลดอย่างยิ่งสำหรับชุมชนของเรา พร้อมกับขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนๆ ของชายที่ถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิต

บีบีซีรายงานว่า ชายที่ตกเป็นเหยื่อฉลาม ใกล้เกาะเฟรเซอร์ ได้เสียชีวิตหลังจากถูกฉลามกัดทำร้ายเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง และมีแพทย์และพยาบาลได้พยายามช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเมื่อทีมแพทย์ฉุกเฉินมาถึง จากนั้นร่างของเขาได้ถูกนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากเกาะเฟรเซอร์ไปยังเมืองชายทะเล ฮาร์วีย์ เบย์ ในรัฐควีนส์แลนด์

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เพิ่งเกิดเหตุชายวัย 60 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตหลังจากถูกฉลามขาว ลำตัวยาวประมาณ 3 เมตร ทำร้ายขณะเล่นเซิร์ฟในทะเล ที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ ในออสเตรเลีย และก่อนหน้าในเดือนเมษายน ได้มีเจ้าหน้าที่กองอุทยานแห่งชาติทางทะเลรัฐควีส์แลนด์ ถูกฉลามทำร้ายจนเสียชีวิตที่บริเวณแนวปะการัง 'Great Barrier Reef' และเมื่อมกราคม 63 นักประดาน้ำวัย 57 ปีถูกฉลามขย้ำนอกชายฝั่งรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย ในขณะที่เมื่อปี 2562 ไม่มีรายงานมีผู้เสียชีวิตจากการถูกฉลามทำร้าย.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1882779

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 06-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ลูกฉลามถูกอวนรัดตายเกยหาดบางแสน จ.ชลบุรี

พบลูกฉลามถูกอวนรัดเกี่ยวบาดทั่วตัวและเหงือก ดิ้นรนก่อนสิ้นใจตายเกยหาดบางแสน จ.ชลบุรี รอส่งผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงวันที่ 8 ก.ค.63



วันนี้ (5 ก.ค.63) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เวลาประมาณ 11.10 น. เจ้าหน้าที่สื่อสารฉลามขาวนำโดย นายกิตติพงษ์ ไตรบุญ ประธานชมรมกู้ชีพทางทะเลฉลามขาว จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจากเครือข่ายประจำหอระวังภัยที่ 3 ชายหาดบางแสน แจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวพบฉลามเข้ามาเกยตื้นตายมีเศษอวนพันอยู่บริเวณลำคอโดยนักท่องเที่ยวได้นำเศษอวนออกพร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ฉลามขาวเข้าตรวจสอบ

นายกิตติพงษ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบเป็นฉลามเพศเมียวัยเด็ก คล้ายฉลามพันธุ์หัวบาตร วัดขนาดความยาว 60 ซม. รอบหัวขนาด 30 ซม.มีบาดแผลจากอวนรัดรอบบริเวณลำคอใกล้ช่องเหงือกและรอยรัดบริเวณลำตัวจึงนำไปฝากไว้ที่ห้องเย็นเพื่อรอการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ซึ่งคาดว่า น่าจะผ่าพิสูจน์ได้วันที่ 8 ก.ค.63 นี้ ทั้งนี้ฉลามหัวบาตรจะพบได้ในทะเลบริเวณเกาะศรีชัง บางแสน และปากแม่น้ำบางปะกง



นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข เปิดเผยว่า เป็นอีกครั้ง ที่ทะเลไทยเกิดความสูญเสียสัตว์ทะเลจากน้ำมือมนุษย์ไม่ใช่การตายแบบธรรมชาติซึ่งปลาฉลาม หรือ สัตว์ทะเลอย่างเต่าที่ตายก่อนหน้านี้ ล้วนได้รับผลกระทบจากขยะที่มนุษย์ทิ้งลงทะเลไม่ว่าจะทิ้งจากที่ไหนก็ตาม แต่ทำให้เห็นว่าผลจากขยะเหล่านั้นมีผลต่อสัตว์น้ำและหน้ามรสุมจึงส่งผลให้สัตว์ทะเลที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วในน้ำถูกกระแสน้ำพัดมาเกยตื้นบนชายหาดบางแสน


https://news.thaipbs.or.th/content/294303

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 06-07-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


ฉลามวาฬมีลูกตาหุ้มเกราะ คล้ายฟันซี่เล็กนับร้อยทำหน้าที่แทนเปลือกตา


ฉลามวาฬอ้าปากกว้างเพื่อกรองกินแพลงก์ตอน จะสังเกตเห็นดวงตาขนาดเล็กได้ที่ด้านข้างของส่วนหัว

ฉลามวาฬหรือยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเล นอกจากจะเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังมีอวัยวะบางชิ้นที่แปลกประหลาด อย่างเช่นเกราะแข็งภายในลูกตาซึ่งนักวิทยาศาสตร์เพิ่งจะค้นพบเป็นครั้งแรก ทั้งยังได้ทราบว่าอวัยวะที่ทำหน้าที่แทนเปลือกตาดังกล่าว ประกอบด้วยโครงสร้างคล้ายฟันซี่เล็ก ๆ หลายร้อยซี่อีกด้วย

ทีมนักชีววิทยาจากศูนย์วิจัยโอกินาวะชูระชิมะ (OCRC)ของญี่ปุ่น เผยถึงการค้นพบข้างต้นในวารสาร PLOS ONE หลังจากใช้เครื่องซีทีสแกนตรวจดูลูกตาของฉลามวาฬที่ดองเก็บรักษาไว้ รวมทั้งทำการอัลตราซาวด์ดวงตาของฉลามวาฬสองตัวที่ยังมีชีวิตและอาศัยอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกินาวะชูระอุมิของญี่ปุ่นด้วย

ทีมผู้วิจัยได้พบโครงสร้างแข็งที่ไม่เคยมีผู้พบเห็นมาก่อนในลูกตาของฉลามวาฬ โดยโครงสร้างดังกล่าวเป็นเกล็ดที่มีลักษณะคล้ายฟันซี่เล็กงอกจากผิวหนัง (dermal denticle) ซึ่งฟันขนาดเล็กหลายร้อยซี่นี้เรียงตัวเป็นวงล้อมรอบส่วนสำคัญของลูกตาอยู่

เกล็ดแข็งชนิดพิเศษที่ไม่เหมือนเกล็ดปลาทั่วไปนี้ คือเกราะป้องกันตามธรรมชาติที่พบได้บนผิวหนังของฉลามหลายชนิด ทำให้ทีมผู้วิจัยคาดว่าโครงสร้างเกล็ดแข็งในลูกตาของฉลามวาฬ อาจทำหน้าที่ปกป้องดวงตาของมันจากอันตรายต่าง ๆ คล้ายกับเปลือกตานั่นเอง ซึ่งเกล็ดแข็งในลูกตานี้ถือว่าเป็นกลไกการปกป้องดวงตาแบบใหม่ที่พบในสัตว์มีกระดูกสันหลัง


Denticles หรือโครงสร้างคล้ายฟันขนาดเล็กหลายร้อยซี่ (C) อยู่ล้อมรอบดวงตาของฉลามวาฬ (A)

ก่อนหน้านี้นักชีววิทยาเคยเชื่อกันว่า การมองเห็นไม่สู้สำคัญกับฉลามวาฬมากนัก เพราะการที่มันกรองกินแพลงก์ตอนเป็นอาหารหลัก ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้สายตาในการล่าเหยื่อเหมือนฉลามทั่วไป นอกจากนี้ดวงตาของฉลามวาฬยังเล็กมากเมื่อเทียบกับร่างกายที่ใหญ่โต ทั้งยังไม่มีสมองส่วนกลางที่ช่วยในการรับรู้ของประสาทตาอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การค้นพบอวัยวะชิ้นใหม่นี้ได้เปลี่ยนแนวคิดที่เคยมีมาอย่างสิ้นเชิง เพราะกลไกปกป้องดวงตาที่มีอยู่ย่อมแสดงถึงความสำคัญของการมองเห็นในการดำรงชีวิตของฉลามวาฬ ซึ่งนักชีววิทยาจะได้ศึกษาเพิ่มเติมในประเด็นนี้กันต่อไป


https://www.bbc.com/thai/features-53290494

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:42


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger