#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน ซินลากูบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 อนึ่ง พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู)บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในเช้าวันนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาวในระยะต่อไป และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 2 - 4 ส.ค. 63 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนในวันที่ 5 - 7 ส.ค. 63 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อนึ่ง พายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) บริเวณชายฝั่งเกาะไหหลำ ประเทศจีน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 2 - 3 ส.ค. 63 ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 2 - 4 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) (SINLAKU)" ฉบับที่ 5 ลงวันที่ 02 สิงหาคม 2563 เมื่อเวลา 23.00 น. ของวันนี้ (1 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในวันพรุ่งนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้ ในช่วงวันที่ 1-2 สิงหาคม 2563 ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา และชัยภูมิ ภาคกลาง: นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ในช่วงวันที่ 3-4 สิงหาคม 2563 ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย พิจิตร กำแพงเพชร ตาก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง: ราชบุรี สมุทรสงคราม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ และลพบุรี ภาคตะวันออก: นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563 สำหรับพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต)แล้ว คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต) นี้ ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
เรือเฟอร์รี่ถูกคลื่นซัดจมกลางทะเลเกาะสมุย ช่วยได้ 9 คน ยังสูญหาย 7 คน เรือราชาเฟอร์รี่เกาะสมุยเที่ยวเหมาบรรทุกสิ้นค้า เจอคลื่นลมแรงล่มกลางทะเล ผู้ว่าฯรุดอำนวยการช่วยได้แล้ว 9 ราย คาดว่ายังคงสูญหายอีก 7 ราย เจ้าหน้าเร่งระดมค้นหา เมื่อกลางดึกวันที่ 1 สิงหาคม 2563 เวลาประมาณ 22.00 น. พนักงานท่าเทียบเรือโดยสารเฟอร์รี่ ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ท่าเทียบเรือเกาะสมุย ได้รับแจ้งจากกับตันเรือเฟอร์รี่ราชา 4 ของบริษัทราชาเฟอร์รี่ จำกัดที่บรรทุกสิ้นค้า ออกจากท่าเทียบเรือของบริษัทราชาเฟอร์รี่ อ.เกาะสมุย มุ่งหน้า อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ว่าเรือเจอคลื่นแรง จนทำให้ตัวเรือเอียง ก่อนจะอับปาง เกิดเหตุบริเวณระหว่างเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากท่าเทียบเรือฝั่ง อ.เกาะสมุย ประมาณ 5 ไมล์ทะเล จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำเกาะสมุย ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเกาะสมุย ออกทำการช่วยเหลือ ต่อมา นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางบัญชาการเหตุการณ์ ณ ท่าเทียบเรือราชาเฟอร์รี่ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย ร่วมกับนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย พร้อมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย ทหารเรือ โดยได้ตำรวจน้ำได้ส่งเรือตรวจการณ์ร่วมกับราชาเฟอร์รี่ ส่งเรือ R6 และ R10 เข้าช่วยเหลือลูกเหลือซึ่งตามที่ได้รับแจ้งเบื้องต้นมีจำนวนทั้งหมด 16 ราย นายวิชวุทย์ เผยอีกว่า เรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวที่ประสบอุบัติเหตุล่มกลางทะเล เป็นเรือเช่าเหมาลำบรรทุกสิ้นค้า ไม่ได้มีการให้บริการบรรทุกผู้โดยสาร เดินทางออกจากเกาะสมุยเมื่อเวลาประมาณ 20.48 ออกจากท่าเทียบเรือบริทัษราชาเฟอร์รี่ ต.ลิปะน้อย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเรือลำดังกล่าว ได้บรรทุกรถสิบล้อพ่วงจำนวน 3 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน มีลูกเรือจำนวน 12 คน คนขับรถบรรทุกและรถกระบะจำนวน 4 คน เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยในช่วงเกิดเหตุคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรง ด้าน ร.ต.ต.ศิรวิทย์ นาคมุสิก รอง สว.ตำรวจน้ำเกาะสมุย เปิดเผยว่าได้นำเรือตำรวจน้ำพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ออกไปทำการช่วยเหลือ พบผู้ที่เดินไปเรือเฟอร์รี่ลำดังกล่าวจำนวน 9 คน เกาะห่วงยางลอยคออยู่ในทะเล เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าช่วยเหลือ แต่ไม่พบซากเรือเฟอร์รี่ที่ประสบเหตุ คาดว่าน่าจะจมลงใต้ทะเลแล้ว ส่วนผู้ที่เดินทางไปกับเรือลำดังกล่าวอีก 7 คนที่เหลือ เจ้าหน้าที่ได้ทำการค้นหาแต่ยังไม่เจอ โดยทางเจ้าหน้าที่ยังระดมกันออกค้นหาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนนี้ https://www.thairath.co.th/news/local/south/1901757
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ประมงเรือเล็กสวนสนเพ ..ร้อง !โครงการสร้างเขื่อนกันตลิ่งริมหาดสวนสนทำเดือดร้อน ระยอง - ประมงเรือเล็กสวนสนเพ ร้อง..โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมหาดสวนสนทำเดือดร้อน ทั้งน้ำทะเลเปลี่ยนสีกระทบท่องเที่ยว ดำเนินวิถีประมงหาหอยเสียบ ปูลม ฯลฯ ไม่ได้ วอนเจ้าของโครงการแก้ไขด่วน วันนี้ ( 1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายสมพร พันธุมาศ ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กสวนสนเพ ต.แกลง อ.เมืองระยอง ว่าชาวประมงซึ่งหากินบริเวณชายหาดสวนสน ด้วยการหาหอยเสียบ หาเคยทำกะปิ จับปูลม รวมทั้งวางอวนปู ?ปลา กำลังได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล (เขื่อนป้องกันตลิ่งแบบขั้นบันได) ตั้งแต่บริเวณสะพานปากคลองไปถึงเขตสวนพฤกษศาสตร์สวนสนระยะทางยาว 520 เมตร ซึ่งดำเนินงานโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าวที่มีระยะเวลาดำเนินงานถึง 990 วันและจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ ด้วยงบดำเนินการกว่า 44 ล้านบาท กำลังทำให้ชาวประมงไม่สามารถทำมาหากินตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมได้ หลังมีการรถแบคโฮขุดเข้าขุดลอกบริเวณชายหาดที่มีระยะทางยาวตลอดโครงการฯ จนทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนสี และยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่นน้ำ นายสมพร ยังกล่าวอีกว่าวิถีชีวิตชุมชนชายฝั่งที่มีมานาน คือการทำประมงวางอวนปู และปลา รวมทั้งหาเคยเพื่อทำกะปิ และหาหอยเสียบมาดองขาย จับปูลมขายแม่ค้าส้มตำ แต่ในวันนี้ทุกคนไม่สามารถทำเช่นนั้นได้จากการดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง ที่นอกจากจะมีการนำรถแบ็คโฮขุดลอกบริเวณชายหาดยาวเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร และจากการลงสำรวจพื้นที่ของผู้สื่อข่าวยังพบว่ามีการทิ้งซากเสาปูนและเสาโครงเหล็กเกลื่อนชายหาด จนทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าลงเล่น เมื่อสอบถามไปยังผู้ควบคุมโครงการฯ ได้รับคำชี้แจงว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดลอกทรายชายหาดขึ้นมากองกั้นระหว่างพื้นที่การทำงานในบางส่วนแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ยังมีน้ำขุ่นบริเวณด้านหน้ากองทรายเป็นบางส่วน แต่เชื่อว่าในระยะ 2-3 วันนี้เมื่อมีการนำรถมาขนย้ายเศษซากเสาปูนที่กองบริเวณชายหาดขึ้นไว้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง https://mgronline.com/local/detail/9630000078686
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|