#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศเมียนมา เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 5 - 6 ส.ค. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 7 - 11 ส.ค. 63 ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะมีกำลังแรง ประกอบมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 7-8 ส.ค. 63 และเคลื่อนไปทางทะเลจีนใต้ตอนบน ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6 - 11 ส.ค. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 7 - 11 ส.ค. 63
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
ฟื้นชีวิตของจุลินทรีย์โบราณใต้ทะเลลึก จุลินทรีย์ (microbes) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกมานานนมจากยุคดึกดำบรรพ์ จุลินทรีย์ประกอบไปด้วย 10 กลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อยจำนวนมากในโลกของเรา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าจุลินทรีย์จำนวนถึง 99% อยู่ยงคงกระพันนับตั้งแต่ ยุคของไดโนเสาร์ หลังจากพบหลักฐานว่าจุลินทรีย์ถูกห่อหุ้มในตะกอน และรอดชีวิตมาได้แม้จะไม่มีอาหารเลี้ยงดูอยู่ตลอดเวลา เมื่อเร็วๆนี้ นักวิจัยนำโดยหน่วยงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเลและโลกแห่งญี่ปุ่น ประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูจุลินทรีย์ที่ฝังอยู่ในตะกอนใต้ท้องทะเล บริเวณใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้รอดชีวิตมาได้แม้จะอยู่นิ่งเฉยเป็นเวลา นานถึง 101.5 ล้านปี ชี้ให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของสิ่งมีชีวิตบนโลก ทีมวิจัยได้บ่มเชื้อจุลินทรีย์นานถึง 557 วันในห้องปฏิบัติการที่มีการจัดระบบความปลอดภัย เตรียมแหล่งอาหารที่ประกอบด้วยคาร์บอน ไนโตรเจน อย่างแอมโมเนีย อะซิเตต และกรดอะมิโน พบว่าจุลินทรีย์ขยายการเติบโต แสดงการเผาผลาญที่หลากหลาย [IMG][/IMG] ทีมวิจัยเผยว่า เป็นเรื่องน่าประหลาดใจและท้าทายทางชีววิทยา ที่พบว่าจุลินทรีย์ส่วนใหญ่สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากการถูกฝังไว้ยาวนาน หรือมีศักยภาพน้อยต่อการดักจับสารอาหารและพลังงาน ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของการวิจัยนี้ก็คือแสดงให้เห็นว่าอายุการใช้งานของตะกอนโบราณใน มหาสมุทรโลกนั้นไม่มีขอบเขตที่จำกัด. https://www.thairath.co.th/news/foreign/1903531
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก คม ชัด ลึก
ฤทธิ์ซินลากู คลื่นซัดหอยพงมหาศาลเกลื่อนหาดกระบี่กว่า 7 กม. ชาวบ้านนับร้อยคนแห่เก็บหอยพงกองเป็นแพนับล้านตัว หลังถูกคลื่นซัดเกลื่อนชายหาดยาวกว่า 7 กิโลเมตร วันที่ 5 ส.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดพบ หอยพง หรือหอยกะพง จำนวนมหาศาลลอยมาเกยติดชายหาดยาว ม.4 ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ทอดเป็นแนวยาวกว่า 7 กิโลเมตร สร้างความแตกตื่นและเป็นที่ฮือฮา ชาวบ้านเชื่อว่าปรากฏการณ์ครั้งนี้คงเป็นเพราะกระแสลมแรงพัดน้ำทะเลจนเกิดเป็นคลื่นใต้น้ำ หอบเอาหอยพงที่อยู่ใต้ท้องทะเลขึ้นมากองตามแนวยาวของชายหาด อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีผู้มาพบหอยได้มีการถ่ายภาพโพสต์ลงสื่อโซเซียลจนเป็นข่าวแพร่ไปอย่างรวดเร็ว ทำให้มีประชาชนนับร้อยแห่กันมายังชายหาดเพื่อเก็บหอยนำกลับไปทำอาหาร และบางรายก็เก็บไปขาย ซึ่งแต่ละคนนำกระสอบมาเก็บก็สามารถเก็บกลับไปได้คนละหลายกิโลกรัม ซึ่งสามารถแบ่งเบาภาระค่าอาหารไปได้ ส่วนสาเหตุของการพบหอยจำนวนมหาศาลนั้น คาดว่าเกิดจากคลื่นลมแรงเนื่องจากขณะนี้ ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตกได้มีฝนฟ้าคะนองในทะเลมีมรสุมคลื่นสูงกว่า 3 เมตร เข้าซัดชายฝั่งติดต่อหลายวัน นางสาวศิริวิภา สมพร อายุ 20 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหาดยาว กล่าวว่า หลังจากที่ทราบจากเพื่อนบ้านว่ามีหอยพง ถูกคลื่นซัดมาติดที่ชายหาดเป็นจำนวนมาก ก็ได้เดินทางมาเก็บเพื่อนำกลับไปเป็นอาหาร ซึ่งปรากฎการณ์?เช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อน และพบว่าเมื่อมาถึงชายหาดมีคนมารอเก็บอยู่ก่อนแล้วนับร้อยคน เมื่อน้ำทะเลลดเห็นชายหาดพบว่ามีหอยพงกองเกลื่อน ด้านนายปรีดา กุลพ่อ สาวัตรกำนัน ต.ตลิ่งชัน และเป็นคนในพื้นที่กล่าวว่า ปรากฏการณ์?หอยพงลอยมาติดบริเวนชายหาด?ยาว มีมาประมาณ 2 วันติดต่อกัน และในวันนี้มีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาเก็บหอยกันเป็นจำนวนมาก สำหรับหอยพงที่ถูกคลื่นซัดมาติดอยู่ตามชายหาด มีระยะทางยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ไม่ต่ำกว่า 5 ตัน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูมรสุม สำหรับหอยพงที่พบเจอคาดว่าเป็นหอยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อยู่ในทะเลลึก เมื่อเกิดลมมรสุมคลื่นลมแรง ถูกคลื่นซัดมาติดตามชายหาด ซึ่งชาวบ้านที่มาเก็บหอยมีทั้งคนในพื้นที่และต่างอำเภอ ทั้งนี้ หอยกะพง หรือที่ชาวบ้านเรียก หอยพง เป็นหอยสองฝาชนิดหนึ่งในวงศ์ Mytilidae ที่อาศัยพื้นท้องทะเลที่เป็นโคลนตามชายฝั่งทะเลในอ่าวไทยเปลือกมีลักษณะบางและเปราะ สีเขียวอมม่วงหรือดำเรื่อ ๆ ป่องตรงกลาง อาศัยตามพื้นทะเลที่เป็นโคลนและตามหลักเสาของโพงพาง กินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในน้ำ นำมาปรุงอาหารได้ และใช้เป็นอาหารสัตว์ด้วย https://www.komchadluek.net/news/reg...B9%84%E0%B8%9B
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS
ประเมินทิศทาง "ขยะ 90 ตัน" จมทะเลสมุยลอยไกลถึงไหน? "อาจารย์ธรณ์" ประเมินขยะ 90 ตันจากเรือเฟอร์รี่ล่มที่เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี อาจถูกพัดไปไกลถึงหมู่เกาะอ่างทอง เกาะพะลวย เกาะแตน เนื่องจากกระแสน้ำทะเลวน อาจส่งผลกระทบต่อปะการัง ควรต้องรีบเก็บกู้ขึ้นก่อนเกิดปัญหาขยะตกค้าง วันนี้ (5 ส.ค.2563) นายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) โพสต์เฟชบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่าในกรณีเรือขนขยะล่มที่เกาะสมุย หน่วยต่อต้านขยะทะเล คณะประมง มก.ได้ทำโมเดลกระแสน้ำในพื้นที่เรือล่ม ตั้งแต่วันที่ 2-7 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อประเมินการกระจายของขยะหากหลุดออกมา "ผลวิเคราะห์ระบุว่า นอกจากเกาะแตน และเกาะสมุยตกและใต้ ขยะบางส่วนอาจลอยไปที่อุทยานหมู่เกาะอ่างทอง รวมถึงเกาะพะลวยใกล้เคียง หมู่เกาะอ่างทองมีเกาะเยอะ ข้างในน้ำนิ่ง ขยะที่ลอยมามีโอกาสตกลงสู่แนวปะการังหาดต่างๆ" ช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวที่อ่างทองน้อยมาก อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังไปบางแห่งเท่านั้น การสำรวจโดยเจ้าหน้าที่อุทยานตามเกาะต่างๆ คงเป็นเรื่องดีมาก นอกจากนี้ โมเดลยังยืนยันว่าน้ำในบริเวณจะวนไปมาหลายวัน ทำให้ขยะอาจลอยไปมาแถวนี้ "ขยะที่เห็นที่เกาะแตน ส่วนใหญ่เป็นถุงพลาสติก น้ำหนักเบา ลอยไกลพื้นที่รอบๆ นอกจากที่ผมบอกไว้ เช่น เกาะสมุยฝั่งอื่นๆ เกาะพะงัน ควรต้องสังเกตชายหาดหน้าบ้านให้ดี" ยังไม่ชัดเก็บกู้ขยะจมทะเล ตอนนี้ผมก็ประชุมขยะทะเลอยู่ครับ กำลังขอให้เขาเน้นเรื่องความเสียหายจากขยะทะเล เต่าตายเพราะขยะราคาเท่าไหร่ เรือล่มหนนี้ใครจ่ายจ่ายเท่าไหร่ ฯลฯ ที่ควรทำอย่างมากคือ การประเมินผลกระทบจากขยะทะเลเป็นมูลค่าทางเศรษฐศาสตร์ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่มีการขนย้ายขยะจากเกาะสู่ฝั่ง "การทำงานที่ค่อนข้างยุ่งยากเพราะจุดที่เรือจมระดับน้ำลึก ต้องมีการวางแผนที่ถูกต้องในการเก็บกู้ขยะที่จมกับเรือ และต้องเร่งดำเนินการ เพราะยิ่งช้าขยะจะแตกจะลอยไปตามกระแสน้ำ" ประเด็นเหล่านี้ต้องตอบได้ชัดเจน ไม่งั้นเรารณรงค์ลดถุงกันแทบตาย แต่จู่ๆ มีถุงขยะพลาสติก 90,000 กิโลกรัม ลงไปในทะเลเราไม่ทำอะไรเลย มันคงไม่ได้หรอกครับ นอกจากนี้อาจารย์ ยังได้นำคลิปกระแสน้ำมาเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพื่อชี้ให้เห็นถึงทิศทางขยะที่จะถูกพัดไปตามกระแสน้ำ เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.) พลเรือโทสำเริง จันทร์โส ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กล่าวว่า ได้มีการวางแผนในการเก็บกู้ขยะที่จมกับเรือเฟอร์รีไว้บ้างแล้ว แต่อาจต้องดำเนินการหลังการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 คนได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนจะมีการกู้เรือหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัท ทิศทางขยะกับข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ขณะที่แกนนำขับเคลื่อนปัญหาขยะเกาะสมุยภาคประชาชน กังวลเกี่ยวกับการจัดการขยะ ที่จมในทะเล เพราะขยะที่บดอัดก้อนเป็นขยะรวมที่ไม่ได้แยกชนิดของขยะ และยังไม่แน่ชัดถึงการบดอันก้อนว่ามีความแข็งแรงหรือไม่ อีกทั้งการทับของตัวรถบรรทุกพ่วง หรือ เรือ ก็อาจทำให้ก้อนขยะแตก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สัตว์น้ำ การประมง และการท่องเที่ยวในอนาคต เกาะแตน เป็นหนึ่งในหมู่เกาะทะเลใต้ที่มีความสำคัญ เพราะมี 6 ระบบนิเวศในเกาะเดียว ทั้งป่าดิบแล้ง ป่าชายหาด ป่าชายเลน หาดทราย แหล่งหญ้าทะเล และแนวปะการัง มีความหลากหลายทางชีวภาพอย่างมาก ส่วนทางใต้ของเกาะสมุยปีนี้ ก็เป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเล ที่ฟักไปแล้ว เกือบ 500 ตัว ลูกเต่าเหล่านี้ อาจจะคลานลงทะเลไปแล้ว ก็จะได้รับผลกระทบจากขยะที่ลอยอยู่ในร่องน้ำนี้ เช่นเดียวกับโลมาสีชมพู และโลมาอิรไปวดี ที่หากินอยู่ระหว่างฝั่งกับเกาะสมุย ส่วนชายหาดฝั่งตะวันตก แม้ตัวหาดจะไม่ได้เป็นจุดขายโดยตรงเมื่อเทียบกับหาดเฉวง แต่ก็มีโรงแรมระดับห้าดาวตั้งอยู่ การจัดการขยะบนหาดอาจเข้าไปไม่ถึง เพราะเกาะสมุย กำลังเดินหน้าเข้าสู่การท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยใช้ "ธรรมชาติ" มาเป็นจุดขาย คำถามก็คือขยะที่ไปกับเรือที่ล่มมีเท่าไหร่กันแน่ ส่วนที่มองเห็นทั้งที่ลอยอยู่และขึ้นฝั่ง ต้องทำยังไง โดยเฉพาะขยะที่ยังจมอยู่ในใต้น้ำลึก ยิ่งนานวันยิ่งเสี่ยง จะจัดการกันอย่างไร https://news.thaipbs.or.th/content/295203
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|