สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2563

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 10 - 11 ก.ย. 63 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนในช่วงวันที่ 12 - 15 ก.ย. 63 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 10 - 15 ก.ย. 63 ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


พบซากเรือรบเยอรมัน ลำใหญ่ยักษ์ ถูกตอร์ปีโดยิงจมหายไป 80 ปีก่อน


? CC BY-SA 3.0 / German Federal Archives / German light cruiser Karlsruhe

พบซากเรือรบเยอรมัน - ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า บริษัทผลิตไฟฟ้าสตัตเนตต์ของรัฐบาลนอร์เวย์ เผยแพร่ภาพและรายละเอียดการพบซากเรือรบเยอรมนีที่จมอยู่ใต้ทะเลนอร์เวย์เป็นครั้งแรก หลังเรือถูกตอร์ปิโดยิง ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ซากเรือคาร์ลสรูห์ ความยาว 488 เมตรนอนนิ่งอยู่ก้นทะเล หลังกองทัพนาซีส่งเรือลำนี้มาจู่โจมเมืองคริสเตียนซานด์ ทางใต้ของนอร์เวย์ เมื่อเดือน เม.ย. 2483 และถูกเรือดำน้ำของอังกฤษยิงตอร์ปิโด ทหารเยอรมันจึงจมเรือตัวเอง

แม้นอร์เวย์ประกาศว่าเป็นประเทศเป็นกลาง 7 เดือน ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้น แต่ฮิตเลอร์ไม่สนใจและสั่งให้บุกนอร์เวย์วันที่ 9 เม.ย. 2483 กองทัพนาซีบุกยึดกรุงออสโล เมืองเบอร์เกน เมืองทรอนด์ไฮม์และเมืองนาร์วิคได้อย่างรวดเร็ว

แม้กองทัพนอร์เวย์และกองทัพพันธมิตรต่อสู้อย่างดุเดือด แต่กองทัพนาซียึดพื้นที่ทั้งหมดได้ในเดือน มิ.ย.ปีเดียวกัน จนถึงเดือน เม.ย. 2488

โฟรดา คาฟโล นักโบราณคดีและนักวิจัยแห่งพิพิธภัณธ์ทางทะเลนอร์เวย์ กล่าวว่าเรื่องราวของเรือรบคาร์ลสรูห์มีการบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเรืออยู่จมอยู่ที่ไหน

เพียงแต่รู้ว่าเป็นเรือรบเยอรมันลำใหญ่ที่สูญหายไประหว่งการสู้รบและจมลงโดยไม่ทราบตำแหน่งที่จม แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ มีการสืบหาจนพบจุดที่เรือจมแล้ว

เรือลำนี้มีปืนใหญ่ 9 กระบอกที่เป็นแผงติดกัน 3 แผง ซึ่งเป็นเรือที่มีศักยภาพการรบสูงสุดและลำใหญ่ที่สุดที่มาโจมตีเมืองคริสเตียนซานด์



จากบันทึกเก่าแก่ที่พลเรือตรีออตโต เชนค์ แห่งกองทัพนาซีเขียนไว้ บรรยายเหตุการณ์วันเรือจมว่าวันดังกล่าวหมอกลงจัด เรือถูกระดมยิงจากฟอร์ด เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้เมืองคริสเตียนซานด์ ก่อนถูกกองทัพอังกฤษยิงตอ์ปิโดเข้าใส่และกัปตันเรือเยอรมันสั่งให้จมเรือ

สำหรับเบาะแสของซากเรือได้รับการค้นพบเมื่อ 3 ปีก่อนโดยการใช้โซนาร์หรือเครื่องมือสำหรับตรวจหาวัตถุใต้น้ำ ต่อมา โอเล เพตเตอร์ ฮอบเบอร์สตัด วิศวกรอาวุโสบริษัทสตัตเนตต์ สำรวจเพิ่มเติมโดยใช้เรือที่มีชื่อว่า โอลิมปิก ทอรัส และใช้เครื่องมือสำรวจความลึกชนิดหลายลำคลื่น ทำให้มองเห็นภาพลักษณะพื้นผิวใต้น้ำได้อย่างละเอียดและยานบังคับทางไกลตรวจสอบจุดที่เรือจม

ฮอบเบอร์สตัดกล่าวว่าเมื่อยานลงไปสำรวจซากเรือ ทำให้เห็นปืนใหญ่จึงคิดว่าเป็นเรือรบขนาดใหญ่ จึงตื่นเต้นมากที่เห็นซากเรือใหญ่อย่างนี้และงานสำรวจซากเรือรบใต้น้ำที่หายากเป็นความสนุกอย่างยิ่ง


https://www.khaosod.co.th/around-the...s/news_4874952

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์


อากาศวิปริต จากร้อนจัดกลายเป็นหิมะตกในวันเดียว



อากาศแปลกๆ ที่รัฐโคโลราโดเปลี่ยนจากแสงอาทิตย์ร้อนจัดเป็นอากาศหนาวราวกับขั้วโลกใน 24 ชั่วโมง

ชาวรัฐโคโลราโดต้องพากันทิ้งโลชั่นกันแดดหันมาสวมถุงมือและรองเท้าบู๊ตที่อบอุ่นหลังเกิดสภาพอากาศผันแปรอย่างฉับพลันโดยเปลี่ยนจากอากาศที่ร้อนจัดในช่วงฤดูร้อนมาเป็นหนาวจัดจนเกิดหิมะตกในเวลาเพียงวันเดียว

ในเมืองหลวงของรัฐคือเมืองเดนเวอร์อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 33 องศเซลเซียสเมื่อช่วงบ่ายวันอังคารตามเวลาประเทศไทย แต่พอถึงเช้าวันพุธตามเวลาประเทศไทย อุณหภูมิลดลงเหลือ 2.2 องศเซลเซียสและอาจเย็นลงอีก



"การเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงมาเป็นฤดูหนาวเริ่มตั้งแต่คืนนี้!" สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติในเมืองโบลเดอร์ทวีตเมื่อวันจันทร์ "เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงจากฤดูร้อนเป็นฤดูหนาว!"

ปรากฎว่าหิมะตกในเช้าวันพุธที่เดนเวอร์ ซึ่งนักพยากรณ์อากาศกล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิลดลงอย่างกะทันหันที่สุดในโคโลราโดในช่วงเวลาสั้นๆ เกิดจากมวลอากาศเย็นที่พุ่งเข้ามาจากแคนาดา และอากาศหนาวจัดเกิดขึ้นเพียงสามวันหลังจากอุณหภูมิในเดนเวอร์แตะระดับ 37.2 องศเซลเซียส


https://www.posttoday.com/world/632550#cxrecs_s

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


Robo-Shark เรือดำน้ำสัญชาติจีน ขับเคลื่อนอัตโนมัติ



"เปิดตัว Robo-Shark เรือดำน้ำสัญชาติจีนที่ขับเคลื่อนได้โดยอัตโนมัติ ส่งผลระทบต่อสภาพแวดล้อมทางน้ำน้อยมาก"

บริษัท Robosea ของจีน ได้นำเอาเรือดำน้ำ Robo-Shark เป็นเรือดำน้ำรูปทรงฉลามที่ใช้ไบโอนิก หรือ เทคโนโลยีชีวจักรกล และขับเคลื่อนได้โดยอัตโนมัติ ออกมาแสดง งานมหกรรมการค้าภาคบริการนานาชาติแห่งประเทศจีน 2020

Robo-Shark มีความยาว 2 เมตร และมีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม ส่วนครีบหางถูกออกแบบมาให้มีข้อต่อจำนวนมากเพื่อช่วยลดเสียงรบกวน ทำให้มีผลระทบต่อสภาพแวดล้อมทางน้ำน้อยมาก

มันสามารถทำงานได้หลากหลายอาทิเช่น การปกป้องสิ่งแวดล้อมและการทดสอบคุณภาพน้ำทั้งยังสามารถที่จะวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความเค็มของทะเล อุณหภูมิ และความลึก ตลอดจนเสียงรบกวนใต้ทะเล


https://www.nationtv.tv/main/content...ampaign=recent

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


นักโต้คลื่นออสซี่ ถูกฉลามกัดเสียชีวิตในหาดท่องเที่ยว

ชาวออสเตรเลียวัย 46 ปี ถูกฉลามกัดเสียชีวิต ระหว่างโต้คลื่นนอกชายหาดเมืองโกลด์โคสต์ ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุฉลามโจมตีรายแรกของภูมิภาคในรอบกว่า 60 ปี



ตำรวจรัฐควีนส์แลนด์ของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า นักโต้คลื่นวัย 46 ปีคนดังกล่าว ถูกฉลามเข้าจู่โจมและกัดเข้าที่บริเวณขาระหว่างโต้คลื่น "ซูเปอร์แบงก์" ในทะเล นอกชายหาดกรีนเมาท์ ซึ่งเป็นชายหาดยอดนิยมของเมืองโกลด์โคสต์ เมื่อเวลา 17 นาฬิกาหรือเมื่อ 14 นาฬิกาของวานนี้ ตามเวลาในประเทศไทย ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุฉลามโจมตีรายแรกของภูมิภาคในรอบ 62 ปี

นักโต้คลื่นหลายคนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เข้าให้การช่วยเหลือและนำตัวชายผู้เคราะห์ร้ายกลับขึ้นมาบนชายหาด ก่อนที่ไลฟ์การ์ดและนักปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ไม่สำเร็จ ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่เจ้าหน้าที่สั่งปิดชายหาดเป็นการชั่วคราว

ด้านมุขมนตรีรัฐควีนส์แลนด์เปิดเผยว่า พบฉลามเสือขนาดใหญ่ติดทุ่นตาข่ายที่ติดตั้งไว้นอกชายฝั่ง แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ฉลามตัวดังกล่าวเป็นตัวเดียวกันกับที่เข้าทำร้ายนักโต้คลื่นรายนี้หรือไม่

ปัจจุบัน ชายหาดที่มีชื่อเสียงหลายแห่งของออสเตรเลีย ดำเนินการติดตั้งทุ่นตาข่ายกันฉลามที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดเหตุฉลามโจมตี แต่ไม่สามารถกั้นนักว่ายน้ำและฉลามได้จากกันอย่างเด็ดขาด ขณะที่ชายหาดบางแห่งติดตั้งทุ่น "ดรัมไลน์" ที่มีลักษณะเป็นเบ็ด ก่อนนำฉลามที่ติดกับ ไปปล่อยในจุดที่ห่างจากนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ เหตุฉลามโจมตีมนุษย์ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตที่หาดเมืองโกลด์ โคสต์ ครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อปี 1958 ที่ผ่านมา


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/132882