เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 12-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือ ในระยะ 1-2 วันนี้

อนึ่ง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) "หลิ่นฟา" ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณเมืองอัตตะปือ ประเทศลาว แล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ตลอดช่วง ในขณะที่ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมในระยะนี้

อนึ่ง พายุโซนร้อน "หลิ่นฟา" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามในช่วงวันที่ 11-12 ตุลาคม 2563


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือในบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) (มีผลกระทบถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2563)" ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (12 ตุลาคม 2563) พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) "หลิ่นฟา" ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) บริเวณเมืองอัตตะปือ ประเทศลาว แล้ว ทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 11?12 ตุลาคม 2563 มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือขนาดเล็กงดการเดินเรือ

อนึ่ง พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุระดับ 3 (โซนร้อน) ในระยะต่อไป คาดว่า จะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำในช่วงวันที่ 13 ? 14 ตุลาคม 2563






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 12-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


เที่ยว'บางแสน'กันมั้ย! ทะเลใส-ทรายขาวหลัง'โควิด'

ค่ำๆแบบนี้ดูหาดทรายขาว น้ำทะเลใสๆ หาดบางแสน สวยจริงๆ หลัง"โควิด-19"



เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ภายหลังจากที่มีการระบาดไวรัสโควิด-19 ทางเทศบาลเมืองแสนสุข ได้มีการปิดถนนและปิดหาดชั่วคราว ซึ่งล่าสุดแฟนเพจเฟซบุ๊ก "ชอบจัง บางแสน" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า กลางคืนก็ใส ทำไมไม่มาเดินเอาเท้าจุ่มน้ำกันล่ะ น้ำเย็นสบาย บรรยากาศดี ฟินระดับ 8 ไปเลย ?โดยภาพเป็นบรรยากาศชายหาดบางแสนที่สวยสดงดงาม ยามค่ำคืน หาดทรายขาวไร้ขยะ น้ำทะเลสวยมาก เรียกได้ว่าฟินสุด ๆ กันจนอยากจะวิ่งลงทะเลกันเลยทีเดียว


https://www.dailynews.co.th/regional/800484


*********************************************************************************************************************************************************


มาเลเซียจับกุมเรือประมงจีน6ลำรุกล้ำน่านน้ำ

หน่วยตำรวจน้ำมาเลเซียจับกุมเรือประมงจีน 6 ลำ พร้อมลูกเรือรวม 60 คน ฐานล่วงล้ำน่านน้ำของมาเลเซีย และการตรวจสอบพบว่า กำลังเดินทางไปแอฟริกาตะวันตก

.

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ว่า ทางการมาเลเซียบันทึก น่านน้ำมาเลเซียถูกรุกล้ำรวม 89 ครั้ง โดยเรือของหน่วยเรือลาดตระเวนชายฝั่งและของกองทัพเรือจีน ระหว่างปี พ.ศ. 2559 ? 2562 ท่ามกลางความตึงเครียดลุกลาม ระหว่างสหรัฐกับจีน จากประเด็จจีนอ้างกรรมสิทธิเหนือน่านน้ำส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และเส้นทางผ่านสำคัญของเรือบรรทุกสินค้า

สำนักงานตำรวจน้ำมาเลเซีย หรือ เอ็มเอ็มอีเอ (Malaysian Maritime Enforcement Agency) เรือประมงและลูกเรือจีน ถูกจับกุมในทะเลนอกชายฝั่งรัฐยะโฮร์ ทางภาคใต้ เมื่อวันศุกร์ (9 ต.ค.) นายโมฮัมหมัด ซุลปัดลิ นายาน ผู้บังคับการเขตเอ็มเอ็มอีเอ กล่าวว่า การตรวจสอบเรือที่จับกุมพบว่า ทุกลำจดทะเบียนที่เมืองท่าฉินหวงเต่า มณฑลเหอเป่ย์ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ลูกเรือที่ถูกจับกุมเป็นไต้ก๋ง 6 คน ลูกเรือ 54 คน เป็นชาวจีนทั้งหมด อายุระหว่าง 31?60 ปี
?
เรือทั้ง 6 ลำที่จับกุม ไม่มีสินค้าบรรทุก เชื่อว่ากำลังเดินทางมุ่งหน้าสู่มอริเตเนีย ประเทศริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา แต่จำเป็นต้องแวะจอดเนื่องจากเกิดปัญหาบางอย่าง

ช่วงต้นปีนี้ เรือวิจัยของจีนลำหนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ทำการสำรวจในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของมาเลเซีย ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับเรือสำรวจแหล่งน้ำมันของมาเลเซีย ในเขตน่านน้ำพิพาท


https://www.dailynews.co.th/foreign/800494

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 12-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ


รัฐบาลเดินหน้าศึกษาแลนด์บริดจ์ เชื่อมทะเลชุมพร - ระนอง

รองโฆษกรัฐบาลย้ำรัฐบาลเดินหน้าศึกษาแลนบริดจ์เชื่อมสองฝั่งทะเลระนอง - ชุมพร ลดเส้นทางขนส่งทางเรือ 2 วัน คาดศึกษาแล้วเสร็จภายใน 1 ปี



นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เน้นความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พึงพาตนเอง พร้อมมุ่งที่การลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข็งขัน โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคม กำลังทำการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ระหว่างท่าเรือจังหวัดชุมพรกับท่าเรือจังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยย่นเวลาเดินทางของเรือสินค้าจากเส้นทางปกติได้กว่า 2 วัน

"โครงการแลนด์บริดจ์ จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี ศึกษาแล้วจะสามารถเริ่มโครงการได้ภายใน 2 ปีครึ่ง จากแผนจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ที่จังหวัดชุมพรและระนอง เชื่อมต่อกันด้วยการสร้างเส้นทางขนส่งทางบก โดยมีทั้งรถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) ซึ่งจะทำให้เรือสินค้าที่ใช้เส้นทางปกติ หันมาขนส่งเส้นทางนี้แทน คาดว่าจะส่งผลในทางด้านเศรษฐกิจมหาศาล ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก"นางสาวไตรศุลี กล่าว

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้แนวทางการศึกษาโครงการ โดยต้องดูอย่างสมบูรณ์ รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มค่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor: SEC) ที่ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและคมนาคมอย่างครบถ้วนต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย

ยุทธศาสตร์สำคัญของโครงการนี้ คือการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาค คือการเชื่อมตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมัน ยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ไปสู่เอเซียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฯลฯ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้บริโภคน้ำมันและโรงงานโลก โดยผ่านไทย โดยโครงการนี้มีแผนที่จะร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งนายศักดิ์ สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้แนวทางการร่วมลงทุนว่า ภาคเอกชนที่สนใจต้องร่วมลงทุนทั้ง ท่าเรือน้ำลึก รถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์


https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/902009

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 12-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก PPTV


รัฐบาล เดินหน้าศึกษาแลนด์บริดจ์ เชื่อมทะเลชุมพร-ระนอง

รัฐบาล เดินหน้าศึกษาแลนด์บริดจ์ เชื่อมทะเลชุมพร-ระนอง คาดช่วยย่นเวลาเดินทางของเรือสินค้าจากเส้นทางปกติได้กว่า 2 วัน



วันที่ 11 ต.ค. 2563 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เดินหน้าปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ เน้นความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก พึงพาตนเอง พร้อมมุ่งที่การลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข็งขัน โดยขณะนี้กระทรวงคมนาคม กำลังทำการศึกษาโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ระหว่างท่าเรือจังหวัดชุมพรกับท่าเรือจังหวัดระนอง ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร คาดว่าจะช่วยย่นเวลาเดินทางของเรือสินค้าจากเส้นทางปกติได้กว่า 2 วัน

สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 1 ปี ศึกษาแล้วจะสามารถเริ่มโครงการได้ภายใน 2 ปีครึ่ง จากแผนจะมีการสร้างท่าเรือน้ำลึก 2 ฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ที่จังหวัดชุมพรและระนอง เชื่อมต่อกันด้วยการสร้างเส้นทางขนส่งทางบก โดยมีทั้งรถไฟทางคู่ และทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) ซึ่งจะทำให้เรือสินค้าที่ใช้เส้นทางปกติ หันมาขนส่งเส้นทางนี้แทน คาดว่าจะส่งผลในทางด้านเศรษฐกิจมหาศาล ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมาก

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้แนวทางการศึกษาโครงการ โดยต้องดูอย่างสมบูรณ์ รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มค่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความเห็นของประชาชนในพื้นที่ โดยโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นโครงการที่สอดคล้องกับแผนขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor: SEC) ที่ครอบคลุม 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการขนส่งและคมนาคมอย่างครบถ้วนต่อโครงการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วย

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำคัญของโครงการนี้ คือการเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภูมิภาค คือการเชื่อมตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมัน ยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่ ไปสู่เอเซียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ฯลฯ ซึ่งเปรียบเสมือนผู้บริโภคน้ำมันและโรงงานโลก โดยผ่านไทย โดยโครงการนี้มีแผนที่จะร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งนายศักดิ์ สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ให้แนวทางการร่วมลงทุนว่า ภาคเอกชนที่สนใจต้องร่วมลงทุนทั้ง ท่าเรือน้ำลึก รถไฟทางคู่และมอเตอร์เวย์


https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8...0%B8%99/134737

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 12-10-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก BBCThai


นักวิทยาศาสตร์และนักอนุรักษ์มากกว่า 350 คน จาก 40 ประเทศ เตือน วาฬและโลมาเสี่ยงสูญพันธุ์


มีวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ (North Atlantic right whale) เหลืออยู่แค่ไม่กี่ร้อยตัวในโลก ที่มาของภาพ,PA MEDIA

นักวิทยาศาสตร์และนักอนุรักษ์มากกว่า 350 คน จาก 40 ประเทศ ร่วมลงนามในจดหมายเรียกร้องให้ทั่วโลกช่วยกันอนุรักษ์วาฬและปลาโลมา

พวกเขาบอกว่า สายพันธุ์มากกว่าครึ่งหนึ่งของวาฬและโลมาทั้งหมดอยู่ในภาวะน่ากังวล และมี 2 สายพันธุ์ด้วยกันที่เสี่ยงสูญพันธ์มาก

จดหมายฉบับนี้ระบุว่า การไม่จัดการกับสภาพทะเลที่เต็มไปด้วยมลพิษและถูกใช้ประโยชน์มากเกินไปจะทำให้วาฬและโลมาหลายสายพันธุ์สูญพันธุ์ภายในช่วงอายุเรานี้

และแม้แต่วาฬพันธุ์ขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีก็อาจเสี่ยงสูญพันธุ์ด้วย


ภัยคุกภามเพิ่มขึ้น

"Save the whales" หรือ "ช่วยกันรักษาวาฬ" เป็นสโลแกนของนักอนุรักษ์ที่คุ้นหูกันดีจากช่วงทศวรรษที่ 70-80 ซึ่งช่วยนำมาสู่การประกาศยุติการล่าวาฬเชิงพาณิชย์สำเร็จในเวลาต่อมา

แต่ตอนนี้ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้ต้องเผชิญกับภัยอันตรายใหม่ ๆ มากมายจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นขยะพลาสติก การสูญเสียถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ การถูกล่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการถูกเรือที่แล่นผ่านชน

แต่ปัจจัยที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในตอนนี้คือการไปติดอุปกรณ์จับปลาชนิดอื่น ๆ โดยบังเอิญ ซึ่งประเมินว่าสาเหตุที่ว่านี้ทำให้วาฬและปลาโลมาตายราว 3 แสนตัวต่อปี

นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ระบุว่า วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ (North Atlantic right whale) เหลืออยู่แค่ไม่กี่ร้อยตัวในโลก ส่วนโลมาวากีตา(vaquita) ซึ่งพบในอ่าวแคลิฟอร์เนีย อาจเหลือเพียงแค่ 10 ตัวในโลก

พวกเขาบอกว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่สัตว์สองสายพันธุ์ที่ว่าจะหายไปตามโลมาไป๋จี (baiji) ซึ่งเคยพบได้ทั่วไปในแม่น้ำแยงซีแต่ตอนนี้เชื่อกันว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว


Dolphin chasing sardines off South Africa
ที่มาของภาพ,GETTY IMAGES


ผู้เชี่ยวชาญจากสหราชอาณาจักร สหรัฐฯ เม็กซิโก แอฟริกาใต้ บราซิล และอื่น ๆ อีกมากมาย บอกว่าจริง ๆ แล้วการสูญเสียนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ไม่มีแรงผลักดันทางการเมืองมากพอ

ดร.ซูซาน ลิเบอร์แมน จากสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าที่นิวยอร์ก บอกกับบีบีซีว่า "เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องพัฒนา ให้ทุน และใช้มาตรการที่จำเป็นในการปกป้องและรักษาสายพันธุ์ที่โดดเด่นเหล่านี้ พวกมันจะได้ไม่ถึงจุดจบเหมือนกับโลมาน้ำจืด ไป๋จี"

ซาราห์ โดล์แมน จากกลุ่มอนุรักษ์วาฬและโลมาในสหราชอาณาจักรบอกว่า การจับปลาเหล่านี้ไปพร้อมกับปลาอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในน่านน้ำสหราชอาณาจักร โดยทำให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมรวมถึงสัตว์อื่น ๆ อาทิ แมวน้ำและนก หลายพันตัวต้องตายในแต่ละปี


https://www.bbc.com/thai/international-54494909

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:31


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger