เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 11-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2563

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 11 ? 16 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบน มีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีอากาศเย็นและมีลมแรง ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบนและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง พายุโซนร้อน "เอตาว" (พายุระดับ 3) บริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน (พายุระดับ 2) และหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก มีฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง

สำหรับพายุโซนร้อน (พายุระดับ 3) "หว่ามก๋อ" บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่า จะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ แล้วจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. 63 ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคเหนือ มีฝนบางแห่งกับมีลมแรง ในช่วงเวลาดังกล่าว


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนไว้ด้วย และประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 11-11-2020 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 11-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


สัตว์เลื้อยคลานทางทะเลโบราณพันธุ์ใหม่


(ภาพ) Credit : QING-HUA SH,XIAO-CHUN WU and CHUN, Joumal of Vertebrate Paleontology

เมื่อประมาณ 240 ล้านปีก่อน มีสัตว์เลื้อยคลานนักล่าคล้ายกิ้งก่าตัวเล็กๆ มีฟันเหมือนเขี้ยว หางสั้นแบน เข้าครอบครองมหาสมุทรโดยอาศัยการลอยตัวใกล้ก้นน้ำตื้นเพื่อจับเหยื่อ ซึ่งซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลโครงกระดูกของนักล่าชนิดนี้ 2 ชิ้นค้นพบในเหมือง 2 แห่งในเมืองเจียงซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

ล่าสุด นักบรรพชีวินวิทยาจากสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนและพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติแคนาดา ได้วิเคราะห์โครงกระดูกทั้ง 2 ชิ้นที่ยาวไม่เกิน 60 เซนติเมตร ระบุว่าโครงกระดูกดูน่าพิศวงเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลยุคไทรแอสสิก จริงอยู่ที่ศีรษะของมันมีขนาดเล็ก มีเขี้ยว แขนขาเหมือนครีบ คอยาว และปกติสัตว์เลื้อยคลานทางทะเลยุคนั้นก็จะมีหางยาวที่อาจช่วยเคลื่อนไหวโดยหางจะสะบัดในน้ำทำให้เกิดแรงผลัก แต่สายพันธุ์นี้กลับมีหางสั้นและแบน ซึ่งแตกต่างออกไป สันนิษฐานว่าหางสั้นนั้นน่าจะเหมาะต่อการลอยตัวใกล้บริเวณก้นทะเลตื้นๆ ความสั้นและแบนของหางจะถ่วงสมดุล เช่นเดียวกับการลอยตัวใต้น้ำ ทำให้สามารถรักษาพลังงานในขณะที่คอยเฝ้าหาเหยื่อได้

ทีมนักบรรพชีวินวิทยาตั้งชื่อสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า Brevicaudosaurus jiyangshanensis แต่ที่น่าสนใจคือซี่โครงมีความหนาแน่นสูงหรือมีการแข็งตัวของกระดูก อาจบ่งชี้ว่ามันมีปอดขนาดใหญ่ และจำเป็นต้องขึ้นมาที่ผิวน้ำเพื่อรับออกซิเจนด้วยรูจมูกที่ใช้หายใจ ส่วนปอดขนาดใหญ่จะเพิ่มเวลาให้มันสามารถอยู่ใต้น้ำได้นาน.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/1968421

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 11-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


"ดร.ธรณ์" ชื่นชม "รมว.กระทรวงทรัพย์" ดำน้ำช่วยปะการังที่โดนขยะทะเลคลุมไว้

ดร.ธรณ์ แชร์คลิปขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา หรือท็อป รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำน้ำเพื่อเก็บขยะพร้อมชื่นชมช่วยประการังไว้ได้ ชี้ไม่สนจะสร้างภาพหรือไม่ ยกเป็นรัฐมนตรีคนแรกของเมืองไทยที่ดำน้ำเก็บขยะด้วยตัวเอง



เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Thon Thamrongnawasawat" ชื่นชม นายวราวุธ ศิลปอาชา หรือท็อป รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า "รัฐมนตรีที่ดำน้ำได้ หายากยิ่งนัก แต่รัฐมนตรีที่ดำน้ำเก็บขยะด้วยตัวเอง คงเป็นคนแรกของเมืองไทย จะสร้างภาพหรือไม่ ? ผมไม่ทราบและไม่สน

ที่สนคือท่านลงไปเอง เห็นเอง และทำเอง
ปะการังที่โดนขยะทะเลคลุมไว้ ไม่ตายเพราะมีคนช่วย แต่จะดีกว่าแน่นอนหากไม่มีขยะไปติดตั้งแต่แรก ผมเชื่อว่าท่านรัฐมนตรีคงคิดเช่นนั้น ผมยิ่งเชื่อว่าคนที่ลงไปเห็นเองและทำเอง ย่อมเกิดแรงบันดาลใจ อยากให้เกิดความเปลี่ยนแปลง มากกว่าคนที่นั่งอยู่แค่ในห้องประชุม ได้ฟังเพียงคำกล่าวรายงาน เห็นเพียงข้อความตัวเลขในเอกสารสรุป ท่านอยู่ในฐานะที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และนั่นสำคัญมากสำหรับทะเลไทยป่าไทย ขอบคุณท่านที่ช่วยปะการังกอนั้น และขอบคุณล่วงหน้าสำหรับอีกหมื่นแสนล้านกอในอนาคต เมื่อถึงเวลาตัดสินใจ กระทำเพื่อประเทศไทยที่งดงามกว่าเดิม"

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตเห็นด้วยมากมายกับโพสต์ดังกล่าวพร้อมชื่นชม "นายวราวุธ" ว่า ผลงานที่เห็นล้วนมีประโยชน์ต่อประเทศระยะยาว และพร้อมสนับสนุนต่อไป โดยโพสต์นี้มียอดกดไลก์กว่า 2,900 ครั้ง และแชร์ไปชื่นชนอีก 150 ครั้งด้วยกัน


https://mgronline.com/onlinesection/.../9630000116466


*********************************************************************************************************************************************************


กรมเจ้าท่าจับมือเอกชน เปิดตัวเรือไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของประเทศไร้มลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมเจ้าท่า ร่วมมือกับภาคเอกชน เปิดตัวเรือไฟฟ้าทางทะเลลำแรกในประเทศไทย เพื่อยกระดับด้านการขนส่งทางน้ำ และส่งเสริมการท่องเที่ยวไร้มลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



วันนี้ (10 พ.ย.) นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 และนายณชพงศ ประนิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ท.เทพจิต วีณะคุปต์ ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวน 4 สำนักงานตรวจการแผ่นดิน ดร.สันติ ป่าหวาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คณะผู้บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด และ คณะผู้บริหารบริษัท ภูเก็ต พัชทรีทัวร์ จำกัด ร่วมกิจกรรมเปิดตัวเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของประเทศไทย

ภายใต้คอนเซ็ปต์ Smart Green Tour Experince with Banpu NEXT e-Ferry โดยบริษัท ภูเก็ต พัชทรีทัวร์ จำกัด ร่วมกับบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด โดยมีกิจกรรมล่องเรือเส้นทางสีเขียวในพื้นที่ทางทะเลจังหวัดภูเก็ต-พังงา เพื่อเปิดประสบการณ์แก่การท่องเที่ยวทางทะเลในรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และยกระดับการบริการด้านการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืนและผลักดันการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (Green Tourism) โดยมี นาวาเอกธรรมวรรต มาลัยสุขรินทร์ รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ท่าเทียบเรืออ่าวปอ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต

สำหรับโครงการการนำเรือไฟฟ้ามาสัญจรภายในประเทศ เป็นนโยบายของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ ภายใต้การนำของอธิบดีกรมเจ้าท่า นายวิทยา ยาม่วง เพื่อยกระดับศักยภาพด้านการขนส่งทางน้ำ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ และด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การให้บริการคมนาคมขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อย่างไร้รอยต่อ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และได้มาตรฐานภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี อีกทั้งกรมเจ้าท่าได้ร่วมผลักดันทั้งในด้านการกำกับมาตรฐานและทิศทางการพัฒนา ตลอดจนให้คำแนะนำแก่ภาคเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพเรือโดยสาร ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน

สร้างวิถีชีวิตการเดินทางรูปแบบใหม่ที่ไร้มลพิษ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดมลพิษทางอากาศ PM 2.5 และเป็นการส่งเสริมในเชิงพาณิชย์ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีการประกอบเรือที่สมัยใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของทางราชการ ร่วมพัฒนาถ่ายทอดเทคโนโลยีของระบบเรือไฟฟ้า และทบทวนหลักเกณฑ์ข้อกำหนด เงื่อนไข กฎหมายในการตรวจเรือไฟฟ้าให้สอดคล้องต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่จะนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด

ทั้งนี้ เรือ Banpu NEXT e-Ferry เป็นเรือท่องเที่ยวไฟฟ้าทางทะเลลำแรกของไทย ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (LiB) ขนาด 625 กิโลวัตต์ชั่วโมง ตัวเรือยาวถึง 20 เมตร มีห้องผู้โดยสารกว้างขวาง มีทั้งหมด 74 ที่นั่ง รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 90 คน ใต้ท้องเรือโปร่ง สามารถรักษาความสมดุลของเรือให้มีความคล่องตัวและนิ่ง มีความเสถียรบนคลื่นน้ำ สามารถขับเคลื่อนด้วยความเร็วประมาณ 15 นอต (knots) ตัวเรือผลิตจากอะลูมิเนียม และวัสดุพิเศษ น้ำหนักเบา แต่แข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม ปลอดภัย และประหยัดพลังงาน รวมถึงมีระบบบริหารจัดการพลังงาน(Energy Management System) ทำให้สามารถควบคุมการผลิต ส่งจ่าย และนำพลังงานมาใช้บนเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสถียรภาพตลอดการเดินทาง


https://mgronline.com/south/detail/9630000116399
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 11-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


THE EXIT : ฟื้นชีพ "ตะรุเตา" ตอน 2



แม้ทรัพยากรตามจุดท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาหลายแห่งจะฟื้นตัวกลับมาสวยงาม แต่แหล่งเศรษฐกิจที่เคยมีเม็ดเงินหมุนเวียน จากการท่องเที่ยวอย่าง "เกาะหลีเป๊ะ" กลับยังซบเซา

"ร่องน้ำจาบัง" หนึ่งในจุดดำน้ำตื้น ปกติถูกกำหนดขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยว (CC) ไว้ที่ 50 คน ต่อหนึ่งช่วงเวลา ก่อนสถานการณ์ COVID - 19 ทรัพยากรที่นี่ ถูกใช้เต็มศักยภาพ จากการดำสำรวจของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาล และปิดต่อเนื่องจากสถานการณ์ COVID - 19 รวมกันนานกว่า 7 เดือน พบ ปะการังอ่อน จุดขายของแหล่งดำน้ำบริเวณนี้ ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ปลา และสัตว์น้ำ มีมากขึ้น เพราะไม่ถูกรบกวน ที่นี่ยังพบปะการังหลากหลายชนิด ทั้งปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังดาวใหญ่ รวมถึงดอกไม้ทะเล ซึ่งเป็นที่อาศัยของปลาการ์ตูน

"ยิ่งน้ำเชี่ยว ปะการังยิ่งพองตัว ยิ่งสวย ปะการัง 7 สี ที่ร้องน้ำจาบังสวยมาก แล้วก็มีปลาหลากหลายชนิดมาก"

นายอัสลัม สะกะแย นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล อุทยานแห่งชาติตะรุเตา กล่าวว่า แม้ทรัพยากรตามจุดท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาหลายแห่งจะฟื้นตัวกลับมาสวยงาม แต่แหล่งเศรษฐกิจที่เคยมีเม็ดเงินหมุนเวียนจากการท่องเที่ยวอย่าง "เกาะหลีเป๊ะ" กลับยังซบเซา โรงแรม ที่พักริมชายหาดจากที่เคยถูกจองเต็มข้ามปี จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องปรับลดราคามากกว่าร้อยละ 50 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวไทย

นายเทวากร อาภาภิรมย์ ผู้จัดการเครือโรงแรมบนเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล บนเกาะหลีเป๊ะ รายนี้ บอกว่า ด้วยข้อจำกัดหลายด้าน รวมถึงการปรับตัวไม่ทันของผู้ประกอบการหลายราย ก็ทำให้เดือนแรกของฤดูการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติตะรุเตาปีนี้ ภาคธุรกิจยังไม่สามารถฟื้นตัวได้

ถนนคนเดินที่เคยคึกครื้นยามค่ำคืน มีนักท่องเที่ยวบางตา ร้านค้า ร้านอาหาร เปิดให้บริการเพียงร้อยละ 10 นายนันทพวงศ์ นาคถาวร ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการบนเกาะหลีเป๊ะ ระบุว่า ผู้ประกอบการที่ต้องจ่ายค่าเช่าที่ รายเดือนในอัตราสูง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้าง และค่าดูแลพนักงาน หลายร้านเลือกปิดต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลไม่คุ้มทุน

ขณะที่ร้านอาหารที่ยังเปิดอยู่ สามารถทำได้เพียงแค่ประคองกิจการให้อยู่รอดไปแต่ละวันเท่านั้น อาจจะได้กำไรบ้างเล็กน้อย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ กลุ่มผู้ประกอบการประเมินว่าผลกระทบจาก COVID - 19 เศรษฐกิจบนเกาะหลีเป๊ะอาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวไม่ต่ำกว่า 2-3 ปี



ด้วยศักยภาพของที่ตั้ง จ.สตูล ที่มีด่านชายแดนติดกับประเทศมาเลเซียถึง 3 แห่ง และ 1 ในนั้น คือ ด่านตรวจคนเข้าเมืองเกาะหลีเป๊ะเป็นจุดแข็งที่ประธานหอการค้าจังหวัดสตูลมองว่า สามารถใช้พลิกวิกฤติเป็นโอกาสดึงนักท่องเที่ยวมาเลเซียกลับเข้าจังหวัดสตูล ภายใต้เงื่อนไข Quarantine หรือมาตรการกักตัวควบคุมโรค

ย้อนกลับไปดูข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยว หลังมีจุดตรวจคนเข้าเมืองบนเกาะหลีเป๊ะ พบว่า ตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นทุกปี โดยปี 2561 เฉพาะนักท่องเที่ยวที่เข้าออกทางจุดตรวจคนเข้าเมืองบนเกาะ อยู่ที่ 50,000 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดกว่า 200,000 คน

ตัวเลขจากสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล พบว่า รายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2557 ปีแรกของการเปิด ตม.หลีเป๊ะ อยู่ที่ 6,200 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 9,100 ล้านบาทในปี 2561 แต่การจะใช้จุดแข็งนี้ เข้ามาพลิกฟื้นเศรษฐกิจสตูลได้ นายพิทักษ์สิทธิ์ ชีวรัฐพัฒน์ ประธานหอการค้า ยอมรับว่า ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ , สาธารณสุข และเอกชน รวมถึงการวางแผนเพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของ จ.สตูล ให้เม็ดเงินเกิดการหมุนเวียน เพราะการกระจุกตัวของรายได้ก่อนหน้านี้ ก็สร้างความขัดแย้งให้กับคนในจังหวัด

แม้ข้อเสนอนี้ ดูจะเป็นทางรอดสำหรับภาคธุรกิจ แต่ประธานหอการค้าจังหวัดสตูล ยอมรับว่า รูปแบบการท่องเที่ยวหลัง COVID - 19 จะต้องเปลี่ยนโฉมไปจากเดิม ลดการเน้นจำนวนนักท่องเที่ยวโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมกับทรัพยากรที่มีและสร้างโมเดลการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ




https://news.thaipbs.or.th/content/298228

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 11-11-2020
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


มลพิษนิวเดลีแย่ที่สุดของปี



ข้อมูลของระบบพยากรณ์และการวิจัยสภาพอากาศและคุณภาพอากาศอินเดียระบุว่า ดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI โดยรวมของกรุงนิวเดลี เมืองหลวงอินเดียพุ่งทะยานขึ้นสู่ระดับ 534 ซึ่งอยู่ในระดับ "รุนแรง" ในวันนี้ (10 พฤศจิกายน 2563 ) และถือเป็นระ ดับสูงสุดของฤดูกาลในปีนี้

ปัญหามลพิษในกรุงนิวเดลีเกือบจะหมดไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลอินเดียสั่งล็อคดาวน์ทั่วประเทศเพื่อหยุดยั้งไวรัสโคโรนา แต่เมื่อมีการยกเลิกมาตรการล็อคดาวน์ ทั้งมลภาวะและไวรัส ต่างก็กลับมา พร้อมกับทวีความรุนแรงมากขึ้น

AQI ของนิวเดลีซึ่งก็รวมถึงความเข้มข้นของอนุภาค PM2.5 รวมถึงมลพิษที่ใหญ่กว่านั้น อยู่ที่ระดับสูงกว่า 400 ในมาตรวัดระดับ 500 เป็นเวลา 5 วันติดต่อกันแล้ว



อนุภาค PM2.5 ขนาดเล็กอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และระบบทางเดินหายใจ รวมถึงมะเร็งปอด และก่อให้เกิดความเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยชาวเมืองมากมายบ่นว่าหายใจลำบากและรู้สึกแสบตาและจมูก

โดยปกติแล้ว เดือนพฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่เลวร้ายที่สุดสำหรับมลพิษในเขตทางตอนเหนือของอินเดียเนื่องจากเกษตรกรได้เผาซังข้าวในไร่ของพวกเขา ขณะที่อากาศที่เย็นลง ก็จะทำหน้าที่ดักมลพิษให้อยู่กับที่


https://www.nationtv.tv/main/content...mpaign=foreign

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:21


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger