#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 6 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง อนึ่ง ในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นลงและมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวโดยทั่วไป สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส กับมีอากาศหนาวเย็นลงและมีลมแรง สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 8-11 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 7 มกราคม 2564)" ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 06 มกราคม 2564 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
มาแล้ว!เรือเฟอรี่สัตหีบ-สงขลา?ขนได้ทั้งคนทั้งรถไม่เหนื่อยขับ ..................... คอลัมน์มุมคนเมืองโดย "เทียนหยด" ก้าวสู่ศักราชใหม่ ปี 2021 ด้วยความว้าววว!! กับการเปิดโฉมเรือเฟอรี่ระหว่าง จ.ชลบุรี-จ.สงขลา เดินทางข้ามภูมิภาคครั้งแรกของประเทศไทยเชื่อมพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก(อีอีซี) กับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (เอสอีซี) เพื่อพัฒนาระบบเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมทดสอบการเดินเรือในวันที่ 7 ม.ค.นี้ กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการเดินเรือเฟอรี่ระหว่าง จ.ชลบุรี-จ.สงขลา เพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ภายในประเทศ ที่อู่เรือ บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด จำกัด และตรวจท่าเรือต้นทาง (ท่าเรือจุกเสม็ดสัตหีบ) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยในทุกด้าน เช่น ตัวเรือ อุปกรณ์ความปลอดภัยในเรือ สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก มาตรการป้องกันรถเคลื่อนตัวขณะขนส่งตลอดจนมาตรการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุกลางทะเล โครงการนี้?บริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด ได้เสนอตัวกับกรมเจ้าท่าด้วยการเป็นผู้ประกอบการเดินเรือเฟอรี่ระหว่าง จ.ชลบุรี-จ.สงขลา เพื่อยกระดับการเดินทางทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพของระบบโลจิสติกส์ (การขนส่งสินค้า) ภายในประเทศ พัฒนาระบบเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาคระหว่างพื้นที่ตะวันออกและพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งลดปัญหาความแออัดของการจราจรและอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วยประหยัดงบประมาณการซ่อมบำรุงถนนของภาครัฐ รวมไปถึงแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ให้รายละเอียดว่า บริษัท ซีฮอร์ส เฟอร์รี่ จำกัด นำเข้าเรือเฟอรี่จากประเทศญี่ปุ่น เดิมชื่อ The Blue Dolphin มีขนาด 7,003 ตันกรอสส์ ความยาว 136.6 เมตร รองรับรถบรรทุกได้ประมาณ 80 คัน รถยนต์ส่วนตัว 20 คัน ผู้โดยสารประมาณ 586 คน จะให้บริการจากท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ (ท่าเรือจุกเสม็ด) -ท่าเรือเซ้าท์เธิร์น โลจิสติกส์ 2009 จ.สงขลา ด้วยความเร็ว 17 น๊อตจาก 330 ไมล์ทะเล (611 กม.) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 18-20 ชม. เร็วกว่าทางบกที่ระยะทางประมาณ 1,130 กม. ร่นระยะทาง 519 กม. ช่วยให้รถบรรทุกไม่ต้องหลังแข็งขับรถ 23-24 ชม. (ตามความเร็วที่กฎหมายกำหนดและรวมระยะเวลาการพัก) สามารถนำรถขึ้นเรือและ ใช้เวลานอนพักผ่อนบนเรือได้เต็มที่ โครงการนี้ผู้ประกอบการลงทุน?100% ทั้งตัวเรือเฟอรี่และจัดหาท่าเทียบเรือ โดยซื้อเรือเฟอรี่มือสองมาจากเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นเดินทางถึงเมืองไทยแล้ว อยู่ระหว่างซ่อมบำรุงและปรับปรุงสภาพเรือที่อู่เรือบริษัท ยูนิไทยชิปยาร์ด จำกัด เบื้องต้นเตรียมแผนทดสอบระบบการเดินเรือและทดลองเปิดบริการเพื่อรับรถของลูกค้าบริษัทก่อนประมาณวันที่ 7 ม.ค.นี้ คาดว่าจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการให้ประชาชนทั่วไปภายในเดือน ม.ค. หรืออย่างช้าเดือน ก.พ. ถึงตรงนี้เชื่อว่า ผู้อ่านคงอยากทราบเรื่องอัตราค่าบริการหรืออัตราค่าโดยสาร....อธิบดีกรมเจ้าท่า ระบุว่า บริษัทฯยังไม่ได้เสนอรายละเอียดอัตราค่าโดยสารเนื่องจากรอปรับปรุงเรือให้เสร็จสมบูรณ์ โดยห้องพักมีหลายรูปแบบเพื่อกำหนดอัตราค่าโดยสารเป็นทางเลือก รวมไปถึงพิจารณาต้นทุนการเดินเรือและรอผลการทดสอบก่อน แต่ได้ให้ข้อแนะนำว่าควรกำหนดอัตราที่ผู้ประกอบการรถบรรทุกและประชาชนรับได้ รวมทั้งได้เน้นย้ำถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการเดินเรือ ท่าเรือตัวเรือ อุปกรณ์ความปลอดภัยประจำเรือ คนประจำเรือ และการจัดการแผนเผชิญเหตุการณ์ต่าง ๆ ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ และเป็นไปตามนโยบาย?นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการพัฒนาศักยภาพ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและ โลจิสติกส์ในประเทศไทยให้มีความสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ สำหรับท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ (ท่าเรือจุกเสม็ด) เป็นท่าเทียบเรือที่อยู่ในการควบคุมดูแลของกองทัพเรือโดยแบ่งส่วนพื้นที่เพื่อใช้สำหรับเป็นท่าเทียบเรือเฟอรี่จำนวน 2 ท่า มีความยาว 75 เมตร ความกว้างหน้าท่า 30 เมตร ความกว้างหน้าแลมป์ 30 เมตร ระดับน้ำลึกหน้าท่า วัดจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ด้านนอกลึก 10 เมตร และด้านในลึก 8 เมตร โดยท่าเรือมีขีดความสามารถ ปลอดภัย และมีความพร้อมรองรับการจอดเรือเฟอร์รี่ ในระยะต่อไปบริษัทจะเพิ่มจุดจอดที่ อ.ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ ด้วย ผู้ประกอบการกำลังเจรจาหาท่าเทียบเรือซึ่งขณะนี้ยังไม่เรียบร้อย จึงเปิดบริการเฟสแรกจากชลบุรีถึงสงขลาไปก่อน รอลุ้น!!ค่าโดยสารหากไม่แพงเกินเอื้อม จะเป็นทางเลือกและทางลัดให้ผู้ประกอบการรถบรรทุก นักท่องเที่ยวและประชาชนถึงหมุดหมายแห่งการเดินทางโดยไม่เหนื่อยแต่ด้วยความเพลิดเพลินดื่มด่ำกับวิวทะเลและนอนหลับพักผ่อนบนเรือสำราญลำนี้ https://www.dailynews.co.th/article/816788
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
ภาพนางเงือกเกยตื้นบนหาดกูตา บาหลี ! ตอกย้ำปัญหาจัดการขยะพลาสติกของอินโดนีเซีย นางเงือกเกยตื้น ชายหาดกูตา บาหลี เมื่อเช้าวันจันทร์ 4 ม.ค.2021 ภาพจากอินสตราแกรม infobadung เมื่อวานนี้ (จันทร์ที่ 5 มกราคม 2021) ภาพถ่ายของผู้หญิงแต่งกายด้วยชุดนางเงือกสีเทอร์ควอยซ์ นอนอยู่บนหาดกูตา เสมือนว่าถูกคลื่นซัดมาขึ้นฝั่ง ณ หาดกูตา บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งโพสต์ผ่านอินสตาแกรม infobadung จุดน่าสนใจของภาพ ไม่ใช่นางเงือกที่นอน แต่เธออยู่ท่ามกลางกองขยะพลาสติกล้อมรอบบนชายหาด ซึ่งเป็นภาพไวรัลที่แพร่สะพัดไปทั่วในบัญชีชุมชน บน Instagram ยังไม่ชัดเจนว่าการถ่ายภาพในธีมนางเงือกเป็นรูปแบบหนึ่งของการประท้วง หรือกลไกของการรณรงค์ให้ผู้คนลดทิ้งขยะพลาสติก ที่มักจะมีทุกปีในช่วงฤดูฝนซึ่งจะเกิดขยะทะเลซัดเข้าฝั่งในปริมาณมาก ภาพชายหาดกูตาของบาหลีที่กลายเป็นหาดที่เต็มไปด้วยขยะมูลฝอย มักตกเป็นข่าวใหญ่ในระดับนานาชาติ มักถูกหยิบยกมากล่าวถึง ระบบการจัดการขยะที่ยังมีข้อบกพร่องของทางการอินโดนีเซีย Gede Dwipayana เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล (DLHK) กล่าวว่า มีการรวบรวมขยะประมาณ 80 ตันในช่วงสามวันแรกของปี 2021 ประกอบด้วยขยะพลาสติกเป็นส่วนใหญ่ โดยมีการใช้รถบรรทุกประมาณ 40 คันในการขนขยะจากชายหาดตาม Kuta, Legian และ Seminyak ตั้งแต่วันปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ ที่ถ่ายในช่วงสุดสัปดาห์ที่ยังแสดงกองขยะบนหาดคูตา มีผู้เยี่ยมชมน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เนื่องจากความสนใจของผู้คนกำลังตระหนักถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนามากกว่า ในปี 2019 รถบรรทุกบริการทำความสะอาดต้องขนขยะออกจากชายฝั่ง Badung พบว่ามีปริมาณสูงที่สุดในรอบทศวรรษ ขยะมากถึง 250 ตัน/วัน ในช่วงฤดูฝนและเจ้าหน้าที่ต้องขนขยะตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ขณะที่โดยทั่วไปมีการขนขยะประมาณ 50 ตัน/วัน ข้อมูลอ้างอิง https://coconuts.co/bali/news/photo-...ave-this-year/ ในคลิป การเก็บขยะบนหาดกูตา บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2019 ชาวบ้านหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ใกล้หาดกูตา ออกมาขับเคลื่อนและร่วมกันทำความสะอาดครั้งใหญ่ เนื่องจากขยะพลาสติกเปลี่ยนให้จุดที่สวยงามกลายเป็นแหล่งมลพิษจากขยะบกและขยะทะเลที่ถูกซัดขึ้นฝั่ง https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000000413
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
นาซ่าเผยภาพชุดใหม่สุดช็อก เตือนภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นจริง นาซ่าเผยภาพชุดใหม่สุดช็อก เตือนภาวะโลกร้อนเกิดขึ้นจริง น้ำในทะเลสาบระเหยออกเหลือแต่เกลือ 'Images of Change' ชุดรูปภาพแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ชุดภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ, การรุกรานธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากมนุษย์, ความเสียหายที่เกิดจากไฟป่า, น้ำท่วม รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดในช่วงปีที่ผ่านมา อาทิเช่นเหตุการณ์น้ำท่วมขั้นรุนแรงในประเทศปากีสถานและบังคลาเทศ ที่เกิดขึ้นช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2563 ที่ผ่านมา ตามรายงานกรมอุตุนิยมวิทยาของปากีสถานรายงานว่า เมื่อปีที่แล้วระดับน้ำในประเทศได้ปรับขึ้นสูงถึง 9 นิ้ว ในช่วงระยะเวลาฝนตกเพียง 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ทะเลสาบลูน่า ในประเทศอินเดียที่เปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีชมพูในเพียงเวลาไม่กี่วัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำในทะเลสาบระเหยออกจึงเหลือแต่เกลือสีชมพูดังภาพ หรือว่าจะเป็นผืนป่า Gran Chaco ที่ประเทศอาร์เจนติน่าที่ถือได้ว่าเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชพันธ์หลากหลายชนิด โดยพื้นที่ป่าดังกล่าวถูกแทนที่ด้วยทุ่งถั่วเหลืองและฟาร์มวัวจำนวนมาก พื้นที่ป่านั้นโดนรุกล้ำโดยฝีมือมนุษย์เห็นได้จากภาพถ่ายดาวเทียมที่เมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโกช่วงปีค.ศ. 1985 -2019 จะเห็นได้ว่าชุมชนพื้นเมืองถูกแทนที่ด้วยโรงแรม สถานที่พักผ่อนสุดสัปดาห์ที่มีผู้ท่องเที่ยวแวะเวียนมากว่า 2 ล้านคนต่อปี https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_5671080
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#5
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า
พบซากลูกโลมาหัวบาตรเกยตื้น เจ้าหน้าที่ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ พบซากลูกโลมาหัวบาตรเกยตื้น ชายทะเลศรีราชา เร่งแจ้งเจ้าหน้าที่เก็บผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ 5 ม.ค.64 เมื่อเวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่าพบซากลูกโลมาหัวบาตร เสียชีวิตเกยตื้นอยู่บริเวณโขดหิน ปากทางเข้าเกาะลอย ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมประสานงานไปยัง เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดชลบุรี ที่เกิดเหตุพบนายลิขิต ถึงคูณ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกาะลอย ได้พาเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองศรีราชา ไปตรวจสอบพบบริเวณจุดเกิดเหตุที่พบลูกปลาโลมาตายลอยมาเกยตื้น เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน เบื้องต้น พบว่าเป็นลูกปลาโลมาพันธุ์หัวบาตรหลังเรียบ อายุประมาณ 2 ปี ผิวหนังตามลำตัวมีบาดแผลถลอก เน่าเปื้อยหลุดออกไปจนเกือบหมด ในขณะที่บริเวณหน้าท้องมีแผลฉีดขาด จนอวัยวะภายในทะลักออกมา ไม่ทราบเพศ ขนาดความยาวประมาณ 1 เมตร นอกจากนี้ยังพบลิ่มเลือดจุกอยู่ที่บริเวณปากของปลาส่งกลิ่นเหม็น สอบถามนายลิขิต ถึงคูณ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกาะลอย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุได้พบเห็นซากปลาดังกล่าว ลอยมาเกยตื้นบริเวณโขดหิน เมืทอเดินไปตรวจสอบใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นลูกปลาโลมา จึงได้รีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองศรีราชา เข้ามาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุ อาจจะกินพลาสติกไปหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบได้ เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จังหวัดชลบุรี เก็บซากลูกปลาโลมา เพื่อนำไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป https://www.naewna.com/local/543266
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|