#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ส่วนยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-29 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 14 - 16 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 17 - 19 ม.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาวและมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 4 - 6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมต ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 15 - 16 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังในการสัยจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 17 - 19 ม.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ฝั่งตะวันออกขอให้ประชาชนบริเวณที่อาศัยอยู่ตามบริเวณชายฝั่งระมัดระวังอัตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือบริเวณอ่าวไทยขอให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดไม้ขาวเป็นรังที่ 2 ของภูเก็ตในปี 64 แม่เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่บนหาดไม้ขาว ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ล้อมรั้วปักเสากั้นป้องกันอันตราย เป็นรังที่ 2 ของปี 64 โดยเชื่อว่าเป็นแม่เต่าตัวเดิมที่หนีแสงไฟจากที่หาดกะตะ เมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ม.ค.64 นายปราโมทย์ แก้วนาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่าทะเล บริเวณหาดไม้ขาว ม.4 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง เขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 2 จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบนและผู้นำชุมชน โดยจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดขนาดความกว้างของรอยพายคู่หน้าได้ 160 ซม.ความกว้างของอก 100 ซม.เจ้าหน้าที่ขุดหา จนพบหลุมไข่เต่าทะเลชนิดเต่ามะเฟือง มีความลึก 55 ซม.เนื่องจากผ่านเวลาการวางไข่มาไม่น้อยกว่า 2 วัน จึงไม่มีการขุดนับจำนวนหรือเคลื่อนย้าย และได้กลบหลุม เพื่อปล่อยให้ไข่มีการเพาะฟักตามธรรมชาติต่อไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้กั้นพื้นที่และเตรียมกั้นคอกล้อม พร้อมจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง และเฝ้าระวังดูแลหลุมไข่จนลูกเต่าฟัก อย่างไรก็ดี การพบจุดวางไข่ดังกล่าว นับเป็นรังที่ 2 ของจังหวัดภูเก็ตในรอบเดือนมกราคม 2564 โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ม.ค.เต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ที่หาดกะตะ อ.เมืองภูเก็ต และเป็นรังที่ 15 ของฤดูกาล ทั้งนี้คาดหวังว่าแม่เต่าจะกลับมาวางไข่อีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องมีการลาดตระเวน เพื่อติดตามการขึ้นวางไข่ของแม่เต่ามะเฟืองต่อไป ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า สำหรับรังเต่ามะเฟืองที่หาดไม้ขาว มีความกว้างของรอยประมาณ 160 ซม. ซึ่งมีขนาดเท่ากับแม่เต่ามะเฟืองที่ขึ้นมาวางไข่เมื่อวันปีใหม่ที่หาดกะตะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยทิ้งช่วงเป็นเวลาห่างกัน 10 วัน โดยเชื่อว่าเป็นแม่เต่าตัวเดียวกันกับที่หนีแสงไฟมาไข่ที่ชายหาดแห่งใหม่ และจากร่องรอยของรังล่าสุดนี้ เชื่อว่าแม่เต่าน่าจะขึ้นมา 2 วันแล้ว. https://www.thairath.co.th/news/local/south/2012048
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
นายอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ระดมกำลังร่วมกับชาวบ้าน ช่วยป้องกันชายฝั่งถูกคลื่นกัดเซาะ ปัตตานี - นายอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี ระดมกำลังร่วมกับชาวบ้านใน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ ช่วยป้องกันชายฝั่งถูกคลื่นกัดเซาะรุนแรง วันนี้ (13 ม.ค.) นายโอฬาร บิลสัน นายอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี พร้อมปลัดอำเภอ ข้าราชการอำเภอ นำอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอยะหริ่ง ร่วมกับชาวบ้าน กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่หมู่ 1 บ้านปาตา ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อระดมกำลังในการเข้าช่วยเหลือป้องกันชายฝั่งกัดเซาะบ้านเรือนราษฎรที่ติดกับชายฝั่ง โดยวิธีการหลากหลายรูปแบบ ทั้งนำทรายบรรจุในกระสอบเพื่อกั้นเป็นแนวตลอดความยาวของชายฝั่ง แต่ไม่สามารถต้านแรงคลื่นไหว ถูกคลื่นดึงลงทะเลเกือบทั้งแถบ จากนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้ปล่องปูนขนาด 50-80 เซนติเมตร นำมาวางไว้ตลอดแนวชายฝั่ง แล้วนำกระสอบทรายบรรจุในปล่องเพื่อเพิ่มน้ำหนักไม่ให้คลื่นดึงลงในทะเล นอกจากนั้น ชาวบ้านยังได้ใช้ในรูปของภูมิปัญญาชาวบ้านในพื้นที่ โดยใช้ก้านที่มีใบมะพร้าวผูกด้วยเชือกติดกันเป็นแนวยาว แล้วนำมาตึงไว้กับแนวยาวของชายหาดเพื่อลดความรุนแรงของคลื่นกระทบชายฝั่งได้ในระดับหนึ่ง จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่นี่ อยากเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาการกัดเซาะของคลื่นอย่างเป็นระบบ และมั่นคงมากกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เคยมีการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหลายครั้งแล้ว แต่เรื่องยังเงียบหาย และไม่มีคำตอบ จากการกัดเซาะชายฝั่งในช่วงฤดูมรสุมปีนี้ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังจากพายุจะเข้าชายฝั่งอ่าวไทยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ จ.สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ในช่วงวันที่ 9-13 ม.ค.นี้ ล่าสุด จนถึงเช้าวันนี้ได้มีพายุกระหน่ำพัดเข้าฝั่งตั้งเช้ามืด ทำให้บ้านของ นายมามะ ดาราซี บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 บ้านปาตา จ.ตะโล๊ะกาโปร์ ถูกคลื่นซัดพื้นที่ทรุดหายไปกับน้ำ ห้องน้ำพังได้รับความเสียหาย จึงต้องระดมกำลังเข้ารื้อถอนหลังคาบ้าน พร้อมอพยพคนในบ้านย้ายไปพักอาศัยบ้านญาติก่อน จนกว่าคลื่นลมจะสงบ นอกจากนั้น ยังพบว่าบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่ในละแวกเดียวกัน จำนวน 12 หลังคาเรือนที่เสี่ยงจะถูกคลื่นซัด จึงได้เฝ้าระมัดระวังเป็นพิเศษ จากการพูดคุยกับชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากคลื่นกัดเซาะ กล่าวว่า เนื่องจากที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านประมงที่มีประชากรหนาแน่นแห่งหนึ่งของ จ.ปัตตานี 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทำงานประมงเลี้ยงชีพ เลี้ยงครอบครัวมานับ 100 ปี จึงทำให้คนที่นี่มีความผูกพันกับทะเล ถึงแม้บางช่วงมรสุมมีคลื่นสูงซัดเข้าฝั่ง แต่ช่วงหลังมรสุมสงบเป็นโอกาสทอง เป็นช่วงไฮซีซันของการจับสัตว์น้ำของชาวประมงที่นี่ เป็นฤดูกุ้งแชบ๊วยตัวโตเต็มวัย ฤดูปูม้าขนาดต่างๆ สามารถสร้างงานสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในรอบปีก็ว่าได้ เป็นช่วงที่ชาวประมงที่นี่จะมีรอยยิ้ม แต่ช่วงมรสุมเข้ามาชาวประมงที่นี่ต้องขาดรายได้ เพราะออกเรือไปทำประมงไม่ได้ ในส่วนของปีนี้คลื่นเข้ามาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนมาแล้ว จนถึงวันนี้ชาวประมงออกประมงไม่ได้ ไม่มีรายได้เลยแม้สักบาทเดียว แต่กลับมีภาระค่าใช้จ่ายทุกวัน อยากให้ภาครัฐเข้ามาดูแลให้หน่อย จนถึงทุกวันนี้แม้ถุงยังชีพยังไม่ได้รับแม้สักถุงเดียว ชาวบ้านจะอดตายอยู่แล้ว https://mgronline.com/south/detail/9640000003439
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|