สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ปลี่ยนแปลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังปานกลาง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นเป็นบางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 31 ม.ค. - 3 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้นกับมีหมอกในตอนเช้า ประกอบกับ มีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกบางพื้นที่เกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีอากาศเย็นถึงหนาวบริเวณภาคเหนือ

ส่วนในช่วงวันที่ 4 ? 5 ก.พ. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังปานกลาง ตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ และบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก โพสต์ทูเดย์


ครูสอนน้ำดำเกาะเต่าระดมเก็บขยะช่วยชีวิตปะการัง

สุราษฎร์ธานี-ครูสอนดำน้ำเกาะเต่า ระดมเก็บขยะใต้ทะเลช่วยชีวิตปะการัง พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น



เมื่อวันที่ 30 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงปลายปี 2563 ถึงต้นเดือนมกราคม 2564 ได้มีลมมรสุมพัดพาขยะเข้าปกคลุมแนวปะการัง เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี กลุ่มครูสอนดำน้ำเกาะเต่า (KTDT) อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 15คน ลงไปดำน้ำช่วยเก็บขยะออกจากแนวปะการังที่บริเวณอ่าวลึกและอ่าวโฉลกบ้านเก่า ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเต่า สถานที่ยอดนิยมของนักดำน้ำ เพราะหากปล่อยไว้จะทำให้ให้ปะการังตาย สามารถเก็บรวบรวมขยะขึ้นมาได้ประมาณ 1 คันรถกระบะหรือเกือบ 1 ตัน นำไปกำจัดต่อไป

ด้านนางรำลึก อัศวชิน นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวว่า เกาะเต่ามีความปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนในรูปแบบวิถีท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล โดยมีจุดคัดกรองที่ท่าเรือเกาะเต่า ศาลาวิภาวดี นอกจากนี้ได้เชิญผู้ประกอบการบนเกาะ ร่วมอบรมเชิงปฎิบัติการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย(SHA)และโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว


https://www.posttoday.com/social/local/644086