เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกยังคงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 10 - 11 มี.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง


ส่วนในช่วงวันที่ 12 ? 16 มี.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางแห่ง สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนบางแห่ง ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 10 - 11 มี.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาและสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย












__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


หุ่นยนต์นิ่มว่ายน้ำในร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา



ปัญหาหนึ่งของเรือดำน้ำใต้ทะเลลึกไม่ว่าจะบรรจุคนหรือเป็นปฏิบัติการจากระยะไกล ก็คือการรับมือกับแรงกดมหาศาล เรือจึงต้องออกแบบสร้างให้ทานทนต่อแรงกดที่พบในส่วนที่ลึกที่สุดของทะเล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ล่าสุด ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยลินคอล์น ในอังกฤษ สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้แล้ว

นั่นก็คือการเลียนแบบความอ่อนนุ่มของปลามาพัฒนาสร้างหุ่นยนต์นิ่ม เนื่องจากมีการวิจัยก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าเป็นไปได้ที่จะสร้างหุ่นยนต์ที่มีความอ่อนนุ่มจากวัสดุที่ยืดหยุ่น เช่น ซิลิโคนและโพลิเมอร์ชนิดอื่นๆ หุ่นยนต์นิ่มดังกล่าวก็สร้างขึ้นจากโพลิเมอร์ชนิดอ่อน ออกแบบรูปร่างคล้ายปลากระเบน โดยผ่านการประกอบกันของกล้ามเนื้อประดิษฐ์ในตัวซิลิโคน กระแสไฟฟ้าที่ใช้บังคับให้กล้ามเนื้อหดตัวและดึงปีกขึ้น การผ่อนให้ปีกคลายสู่สภาพธรรมชาติ นักวิจัยเผยว่าปัญหาที่ต้องเอาชนะก็คือการเพิ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมหุ่นยนต์ ทีมพบว่าการจำลองโครงสร้างของกระดูกปลาสเนลฟิชที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลลึกจะทำงานได้ดีมาก แทนที่จะพยายามบรรจุอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลงในกล่องเล็กๆ แต่ทีมได้เว้นช่องว่างและฝังอุปกรณ์นั้นไว้ในซิลิโคน ส่งผลให้แรงบีบคั้นในส่วนประกอบลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ ทีมวิจัยได้ทดสอบหุ่นยนต์ในห้องปฏิบัติการก่อนที่จะลองทดสอบในทะเลสาบใกล้เคียง ต่อจากนั้นก็นำไปทดสอบในทะเลจีนใต้ เมื่อพบความสำเร็จในทุกระดับความลึกที่ต้องการทดสอบ ทีมจึงเชื่อมต่อหุ่นยนต์นิ่มเข้ากับเรือดำน้ำแบบเดิมๆ และส่งมันลงไปในร่องลึกก้นสมุทรมาเรียนา ซึ่งพบว่าอุปกรณ์นี้ใช้งานได้ดีเช่นกัน.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2047029

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เจออีกเพียบ! ปรากฏการณ์ ?เรือลอยได้? กลางทะเล ล่าสุดเป็นเรือสำราญยักษ์



พบอีกภาพประหลาด เรือสำราญขนาดใหญ่ เหมือนลอยอยู่กลางอากาศนอกชายฝั่งสหราชอาณาจักร ปรากฏการณ์หาดูได้ยากที่เรียกว่า ภาพหลอกตา (Optical illusion) ทว่าเริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้งในระยะหลัง

ในภาพล่าสุดนี้ เป็นภาพเรือสำราญขนาดใหญ่ลำหนึ่ง "กำลังลอยอยู่กลางอากาศ" บริเวณ Lyme Bay ระหว่างมณฑลเดวอน กับมณฑลดอร์เซ็ต สหราชอาณาจักร ซึ่งชัดเจนว่า มันมีต้นตอจากภาพหลอกตา

เดฟ เมดล็อค พบเห็นเรือดังกล่าวตอนที่เขาจูงสุนัขออกไปเดินเล่นเมื่อวันเสาร์ (6 มี.ค.) ?มันเป็นบางอย่างที่ดูเหมือนมาจากหนังเจาะเวลาหาอดีต (Back to the Future) แต่ผมรู้ว่ามันเป็นรูปแบบพิเศษบางอย่างของปรากฏการณ์ภาพลวงตา (mirage)

แม้ดูเหมือนเรือกำลังลอยอยู่กลางอากาศ แต่ความจริงแล้วมันยังคงอยู่ในน้ำ โดยที่เห็นว่ามันลอยค้างอยู่นั้น สืบเนื่องจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า superior mirage (ภาพลวงตาที่เกิดขึ้นเหนือวัตถุจริง )

mirage เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงในชั้นบรรยากาศต่างๆ เนื่องจากความหนาแน่นของชั้นอากาศต่างๆ ไม่เท่ากัน ทำให้ภาพที่ปรากฏออกมาอยู่เหนือกว่าตำแหน่งที่แท้จริง ซึ่งในกรณีทำให้เรือสำราญ P&O ดูเหมือนกำลังลอยอยู่

เรือสำราญ P&O เป็นหนึ่งในเรือหลายลำ ที่มีผู้พบเห็นลอยอยู่กลางอากาศในทะเล ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เดวิด มอร์ริส พบเห็นเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่งเหมือนลอยอยู่กลางอากาศ ระหว่างเดินทางตามแนวชายฝั่งคอร์นิช ใกล้เมืองฟัลเมาท์ มณฑลคอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร เช่นกัน

มอร์ริส บอกว่า เขาถึงกับตกตะลึงหลังเห็นภาพดังกล่าวระหว่างออกไปเดินเล่นริมทะเล เลยตัดสินใจถ่ายรูปเอาไว้ และนำมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์จนเกิดเป็นกระแสไวรัล

ผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ต่างตั้งข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับภาพถ่ายดังกล่าว บ้างก็เชื่อว่า อาจจะเป็นภาพตัดต่อ บางส่วนสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากปรากฏการณ์ภาพลวงตาอะไรสักอย่าง หรือถึงขั้นบอกว่าเป็นยานอวกาศของมนุษย์ต่างดาวก็มี

ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน ก็มีคนพบเห็นเรือสำราญหลายลำลอยอยู่เหนือน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองเพย์นตัน มณฑลเดวอน

นอกจากนี้แล้ว คอลิน แม็คคัลลัม พบเห็นเรือสีแดงขนาดใหญ่ลอยได้ อยู่บนเส้นขอบฟ้า ขณะที่เขาเดินทางผ่านเมืองแบนฟ์ อะเบอร์ดีนเชียร์

"ตอนที่ผมเห็นเรือครั้งแรก ผมจำเป็นต้องมองมันอีกรอบ เพราะคิดจริงๆ ว่ามันกำลังลอยอยู่" เขากล่าว "อย่างไรก็ตาม พอสังเกตเพิ่มเติม ผมสังเกตเห็นว่าข้อเท็จจริงคือมันเป็นแค่ภาพหลอกตาเท่านั้น"

แม้ปรากฏการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้บนบก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักพบเห็นในทะเลมากกว่า เนื่องจากน้ำทะเลช่วยให้เกิดการก่อตัวของชั้นอากาศเย็น

โฆษกรายหนึ่งของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นเกี่ยวกับภาพที่พบเห็นในคอร์นวอลล์ ว่า "ภาพเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นหลักฐานของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Fata Morgana"

"มันเป็นรูปแบบหนึ่งของภาพลวงตาที่หายากมากๆ และซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งบืดเบือนทั้งแนวตั้งและแนวนอน กลับหัวกลับหางและเปลี่ยนแปลงระดับความสูงของวัตถุต่างๆ? โฆษกระบุ ?ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเหนือผิวน้ำ และเกิดขึ้นจากการทับซ้อนกันของชั้นบรรยากาศหลายชั้นที่มีการหักเหของแสงต่างกัน"


https://mgronline.com/around/detail/9640000023109


*********************************************************************************************************************************************************


พบซาก "เต่าตนุ" ถูกคลื่นซัดเกยหาดหัวไทร ปัญหาก้อนน้ำมันทะลักยังไร้คำตอบ

นครศรีธรรมราช - ก้อนน้ำมันลึกลับยังทะลักเกยหาดหัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ล่าสุด วันนี้พบซาก "เต่าตนุ" สัตว์ทะเลลอยตาย ชาวบ้านสุดเอือมเป็นปัญหาซ้ำซากทุกปี แต่ยังไร้คำตอบของต้นตอที่มา



วันนี้ (10 มี.ค.) สภาพพื้นที่ชายหาดทรายในท้องที่หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เต็มไปด้วยก้อนน้ำมันจำนวนมากที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดทราย หลังจากที่เริ่มถูกความร้อนจากแสงแดด ก้อนน้ำมันเหล่านี้จะเริ่มละลายกลายเป็นของเหลวข้นเหนียวสีดำสนิท จากนั้นจะค่อยๆ ซึมจมลงไปในทรายจนกลายเป็นสีดำ โดยลักษณะของก้อนน้ำมันยังคงถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยหาดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะทางยาวหลายกิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านแจ้งว่า ก้อนน้ำมันเริ่มถูกซัดเข้าหาฝั่งเมื่อ 3 วันก่อน และเพิ่มปริมาณมากขึ้นจนถึงวันนี้ โดยคาดว่าจะมีต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์

ชาวประมงพื้นบ้านในย่านนี้รายหนึ่งบอกว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมหาดบริเวณ ต.หน้าสตน เหมือนกับถูกทอดทิ้ง ไร้การเหลียวแล ปัญหาก้อนน้ำมันเช่นนี้มีเป็นประจำทุกปี เมื่อเป็นข่าวถูกเผยแพร่ขึ้นมาเจ้าหน้าที่จะเข้าเก็บตัวอย่าง อ้างว่านำไปตรวจสอบที่มาของก้อนน้ำมัน หลังจากเรื่องเงียบก็จะหายไปเหมือนเดิม ชาวบ้านต้องเผชิญกับก้อนน้ำมันเช่นนี้มาอย่างน้อย 10 ปี ไม่เคยได้รับคำตอบว่าก้อนน้ำมันมาจากที่ไหน แม้จะเก็บตัวอย่างไปทุกปีแล้วก็ตาม แต่หากพิจารณาโดยหลักแล้ว น้ำมันจำนวนมหาศาลเช่นนี้มาได้เพียง 2 ทาง คือจากแท่นขุดเจาะ และเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นการกระทำโดยมนุษย์แน่นอน ไม่มีทางที่ผู้เกี่ยวข้องจะหาต้นตอไม่เจอ เพียงแต่ไม่ดำเนินการ หรือรู้ว่ามาจากที่ใด แต่ไม่เปิดเผยเท่านั้นเอง



นอกจากนั้น ชาวประมงรายนี้ยังระบุด้วยว่า สิ่งที่ตามมากับก้อนน้ำมันที่เข้าเกยหาด จะมีสัตว์น้ำขนาดเล็ก เช่น หมึก ปลา จะถูกคลื่นซัดมาตายเป็นระยะทางตลอดแนวชายหาด และวันนี้ยังพบซาก "เต่าตนุ" ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด อาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก ได้เก็บซากไว้เพื่อส่งมอบให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) มารับไปเพื่อทำการวิจัย และชันสูตรหาสาเหตุการตายต่อไปแล้ว


https://mgronline.com/south/detail/9640000023137


*********************************************************************************************************************************************************


ผ่าชันสูตร "ซากเต่าทะเล" พบกระเพาะ-ลำไส้เต็มไปด้วยขยะ และของเหลวสีดำจำนวนมาก



นครศรีธรรมราช - สัตวแพทย์กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เร่งผ่าชันสูตรซาก "เต่าตนุ" หลังถูกพบเกยหาดหัวไทรพร้อมก้อนน้ำมัน พบในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะ และของเหลวสีดำ

ความคืบหน้าการชันสูตร "ซากเต่าทะเล" ที่ตายเกยหาด พร้อมกับ "ก้อนน้ำมัน" จำนวนมาก บริเวณหาดบ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา หมู่ 3 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ล่าสุด วันนี้ (10 มี.ค.) สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้เข้ารับซาก ?เต่าตนุ? จากอาสาสมัครเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก หลังจากที่พบซากเต่าตัวนี้ตายเกยหาด พร้อมกับก้อนน้ำมันจำนวนมากบริเวณชายหาดแพรกเมือง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันชันสูตร พบว่าเต่าตนุตัวนี้เป็นเต่าเพศเมีย อายุประมาณ 4-5 ปี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม หลังจากที่ผ่าเปิดช่องท้อง และชันสูตรลึกไปจนถึงระบบทางเดินอาหารของเต่า พบว่าภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะพลาสติกจำพวกเชือกจากเครื่องมือประมง ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และพบของเหลวสีดำคล้ายกับก้อนน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดแล้วละลายกลายเป็นของเหลว โดยทั้งหมดถูกเก็บเป็นตัวอย่างนำไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งชิ้นส่วน และเนื้อเยื่อของเต่า หลังจากนั้นได้ฝังกลบซากไว้ในบริเวณหาดทราย

สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย นายสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เปิดเผยว่า การผ่าชันสูตรนั้นไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ เพราะสภาพซากเริ่มเน่ามากแล้ว แต่จากการตรวจพบในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ แสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขายังสามารถหาอาหารได้ตามปกติ แต่ในลำไส้มีขยะค่อนข้างมากจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพแน่นอน แต่เรายังไม่สามารถสรุปได้

ส่วนก้อนน้ำมันจำนวนมากที่เกยหาด ขณะนี้ได้ละลายกลายเป็นของเหลวข้นสีดำ และซึมไปในหาดทราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังหวั่นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์ทะเลหายากในย่านนี้จากสารประกอบโลหะหนักที่อยู่ในก้อนน้ำมัน ซึ่งอาจไปสะสมอยู่ในร่างกายของสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ และจะก่อให้เกิดอาการป่วย หากรับไปในปริมาณมากจะทำให้ตายได้ในทันที


https://mgronline.com/south/detail/9640000023277
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก แนวหน้า


แหล่งท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ ฝั่งทะเลอ่าวไทยตอนล่าง



ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 บริเวณพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แหลมสนอ่อน อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ขณะนี้เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนนำบุตรหลานเดินทางมาท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เนื่องจากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือพื้นที่ ทัพเรือภาคที่ 2 มีเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลจะคอยให้คำแนะนำให้ความรู้กับประชาชนรวมถึงนักเรียนนักศึกษาที่เดินทางเข้ามาเรียนรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 แห่งนี้

สำหรับในวันนี้มีนักเรียนโรงเรียนวรนารีเฉลิมสงขลาที่มาเข้าค่ายทำกิจกรรมได้เดินทางมาที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือเพื่อมาเรียนรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลสำหรับบ่อเลี้ยงเต่าทะเลที่ศูนย์ฯแห่งนี้มีบ่อใหญ่ 1 บ่อ ที่เลี้ยงเต่าอายุ 1 ปี 8 เดือนจำนวน 8 ตัวและบ่อขนาดเล็ก 12 บ่อ มีเต่าขนาดตั้งแต่อายุ 1 เดือนไปจนถึง 7 เดือนในแต่ละบ่อจะมีเต่าไม่เท่ากัน ถ้าเต่าเล็กก็จะอยู่ที่ 30 ตัวต่อบ่อขนาด4-5 เดือนก็อยู่ประมาณ 20 ตัวต่อบ่อ ขณะนี้ที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้มีเต่าทั้งหมด 150 ตัว

ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 จัดตั้งขึ้นตามนโยบายกองทัพเรือเพื่อเป็นศูนย์กลางของการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลของไทยทางด้านฝั่งทะเลอ่าวไทยมีขอบเขตรับผิดชอบในการอนุบาลลูกเต่าทะเลจากเกาะกระให้มีความสมบูรณ์และแข็งแรง ก่อนปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกทั้งเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ปลูกจิตสำนึกและประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลให้กับประชาชนและเยาวชน โดยการจัดตั้งศูนย์อนุรักษ์พันธ์เต่าทะเลกองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ปัจจุบันมีส่วนที่ดำเนินการแล้วเสร็จได้แก่ การสร้างบ่ออนุบาลเต่า โรงสูบน้ำ และบ้านพักทหาร โดยได้รับเงินสนับสนุนจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จำนวน 2,500,000 บาทในการสร้างอาคารแสดงนิทรรศการ และห้องสุขา

นาวาโท พิษณุ อังสุวัฒนะ เลขานุการ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 กล่าวเชิญชวนประชาชนให้เข้ามาท่องเที่ยวที่ศูนย์ฯ ว่า ก็ขอเชิญชวนประชาชนในจังหวัดสงขลาและพื้นที่ใกล้เคียง มาท่องเที่ยว ในศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ พื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 เพราะว่าเรามี เต่าที่รับมาอนุบาลกว่า 100 ตัว ก็จะทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา


https://www.naewna.com/likesara/557629

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #5  
เก่า 11-03-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ทส.ยังไม่เคาะเปิด "อ่าวมาหยา" รอทุกอย่างพร้อม คุมนักท่องเที่ยว



ปลัดทส.ชี้ยังไม่พิจารณาเปิดอ่าวมาหยา หมู่เกาะพีพี หลังปิดฟื้นฟู และปรับปรุงพื้นที่เกือบ 2 ปี เบื้องต้นเปลี่ยนจุดจอดเรือใหม่ไม่ให้จอดหน้าอ่าวมาหยาเสร็จเพียง 70% ส่วนทรัพยากรทางทะเล ปะการังกลับมาสมบูรณ์มากขึ้น ชี้หากเปิดต้องพร้อม และจำกัดนักท่องเที่ยว

กรณีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุพืช ปิดฟื้นฟูอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ตั้งแต่กลางปี 2561 เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมจากการท่องเที่ยว ล่าสุดมีข่าวว่าทางจังหวัดกำลังจะผลักดันให้เปิดการท่องเที่ยวอ่าวมาหยา

วันนี้ (10 มี.ค.2564) นายจตุพร บรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ก่อนหน้านี้กรมอุทยานฯ ปิดอ่าวมาหยา เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรม ชาติที่เสียหาย และปรับปรุงระบบสาธารณูปโภครองรับการท่องเที่ยวไม่ให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะจุดจอดเรือที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าจอดจนแน่นอ่าวมาหยา และมีนักท่องเที่ยวเต็มพื้นที่หน้าหาดอ่าวมาหยา จนเกิดความเสื่อมโทรม ดังนั้นการจะเปิดท่องเที่ยวรอบใหม่ ต้องรอทุกอย่างแล้วเสร็จ รวมทั้งการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องนำมาใช้

"ไม่ได้กำหนดว่าจะต้องปิดอ่าวมาหยานานแค่ไหน ตอนนี้พักอ่าวมาหยามาเกือบ 2 ปีสามารถเปิดได้ถ้าพร้อม และมีการจัดระเบียบรองรับการท่องเที่ยว เป็นคนละรูปแบบกับการปิดเกาะตาชัย ที่ปิดถาวรจนกว่าทรัพยากรจะกลับมา"




ท่าเรือลอยน้ำ-สาธารณูปโภคคืบหน้า 70%

ส่วนนายประยูร พงษ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า ตอนนี้แผนปรับปรุงท่าเรือลอยน้ำจุดใหม่ บริเวณอ่าวโละซามะคืบหน้ามากกว่า 70% หากเป็นไปตามแผนจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการปรับปรุงสิ่งอำนวยอำนวยควาสะดวก เช่นบร์อดวอล์กในพื้นที่ ห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกคืบหน้า 70%

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะผลักกันให้เปิดการท่องเที่ยวจริงหรือไม่ นายประยูร กล่าวว่า คนที่จะตัดสินใจเปิด หรือปิดต่อ คือนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.และผู้บริหารหน่วยงาน รวมทั้งการชั่งน้ำหนักทางวิชาการ ซึ่งส่วนตัวในภาพรวมหลังปิดอ่าวมาหยา พบว่าทรัพยากรทางทะเลสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะฝูงฉลามหูดำที่มาอาศัยแถวอ่าวมาหยา ถ้าจะเปิดท่องเที่ยวควรต้องเข้มงวดเรื่องจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว

"ยอมรับว่ามีกระแสทั้งคนที่อยากให้เปิด และปิดต่อ และบางคนบอกว่าอยากให้ปิดถาวร แต่ยืนยันไม่มีใครมาบีบได้ หากจะเปิดต้องคุมคนให้ได้ไม่ให้กระทบกับทรัพยากรที่ฟื้นตัวแล้ว เบื้องต้นมีการตั้งตัวเลขไว้ ไม่เกิน 370 คนต่อรอบ และจำกัดจำนวนเรือเข้าออก "


ภาพ : Thon Thamrongnawasawat


อาจารย์ธรณ์ ชี้อดใจรอ-ไม่ต้องการให้กระทบ

ด้านนายธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ว่า น้องๆ สื่อโทรมาถามเรื่องอ่าวมาหยา ถามว่าจะเปิดไหมคะอาจารย์ ? ผมตอบว่าทุกอย่างชัดเจนแล้วครับ ท่านรมต.ท่านอธิบดีกรมอุทยานก็พูดมาหลายครั้ง ดังนี้อ่าวมาหยาจะเปิดเมื่อทางเดินและท่าเรือเสร็จ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นไปตามภาพว่าทำไปเยอะแล้ว

สำหรับคำถามว่าเมื่อไหร่เสร็จ ต้องรบกวนถามทางอุทยานครับ เมื่อเสร็จแล้วเปิดแล้ว เรือเข้าด้านหลังอย่างเดียว ไม่มีการเข้าด้านหน้าอีกแล้ว เรื่องนี้พูดทุกครั้งก็เหมือนกันทุกครั้ง กรมอุทยาน อาสาสมัครช่วยกันฟื้นฟูปะการัง จนรอดและกำลังโตเกือบ 20,000 กอ ฝูงฉลามก็ว่ายไปมาเป็นประจำ

"การนำเรือเข้าข้างหน้าคงทำไม่ได้ ไม่งั้นเราจะฟื้นฟูไปทำไม จะสิ้นเปลืองงบประมาณสร้างท่าเรือข้างหลังไปทำไม"



เมื่อเข้าไป มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว กรมอุทยานก็มีตัวเลขแล้ว คงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

เข้าไปข้างใน ก็เดินตามเส้นทางศึกษาซึ่งทำเกือบเสร็จแล้ว ไม่เหยียบย่ำตามใจชอบต่อไป การประชุมที่ปรึกษาอุทยานทางทะเลทุกครั้งก็เป็นไปตามนี้ เท่าที่ทราบ กลางๆปีก็นาจะเสร็จ สอดคล้องกับช่วงเปิดประเทศอีกครั้ง (ไตรมาส 3-4) ซึ่งก็คงช่วยการท่องเที่ยวได้ เมื่อเปิดมาหยาใหม่แบบไม่ทำร้ายธรรมชาติ

2-3 ที่ผ่านมา ผมเจอคำถามเป็นประจำ และไม่เคยเปลี่ยนคำตอบเลย จึงบอกมาให้เพื่อนธรณ์สบายใจได้ การจัดการอ่าวมาหยาทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ได้ปรึกษาฝ่ายวิชาการที่มีทั้งป่า ทั้งทะเลสายตรง ยกกันมาเกือบหมดประเทศให้กำลังใจทุกฝ่าย อยากให้อดใจไว้อีกแป๊บ อ่าวมาหยาโฉมใหม่กำลังจะมา

สำหรับสถิตินักท่องเที่ยวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพีระหว่างปี 2557-2561 พบว่าไม่ได้ลดลงหรือมีผลกระทบจากการปิดอ่าวมาหยา

ปี 2557 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 143,555 คน
ปี 2558 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 333,613 คน
ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,731,573 คน
ปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,990,649 คน
ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจำนวน 1,877,871 คน


https://news.thaipbs.or.th/content/302283

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:46


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger