เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 26-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 26 พฤษภาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร สำหรับอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

อนึ่ง พายุไซโคลน "ยาอาส" (YAAS) ที่ปกคลุมอ่าวเบงกอลตอนบนคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนบนในวันนี้ (วันที่ 26 พ.ค. 64)


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

เมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 26 - 28 พ.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณบริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 29 ? 31 พ.ค. ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางตอนล่าง มีฝนลดลง สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ตลอดช่วง ทำให้ด้านรับมรสุมบริเวณภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 - 4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อนึ่ง พายุไซโคลน "ยาอาส" มีแนวโน้มจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนบนในช่วงวันที่ 26 ? 27 พ.ค. 64 ส่งผลทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทย ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุไซโคลน "ยาอาส" (YAAS) บริเวณอ่าวเบงกอล" ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2564

เมื่อเวลา 04.00 น. พายุไซโคลน "ยาอาส" (YAAS) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 20.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 87.6 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรัฐโอริสสาและรัฐกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ในวันนี้ (26 พฤษภาคม 2564) ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 25-27 พฤษภาคม 2564 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดเว้นการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 26-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


จัดลำดับจีโนม สัตว์ชนิดใจจะอยู่รอดจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ


ภาพ Threespine stickleback fisn. Credit : McGill University

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่การสูญเสียที่อยู่อาศัย ความแปร ปรวนของอุณหภูมิ สิ่งเหล่านี้มีส่วนผลักดันให้สัตว์หลายชนิดตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้น การคาดเดาว่าสัตว์ชนิดใดจะสามารถปรับตัวและอยู่รอดได้อาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีรับมือปัญหาได้ในอนาคต

ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญของแผนกวิจัยวิทยาศาสตร์ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ของมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ ในแคนาดา เผยว่าได้ใช้การจัดลำดับจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าปลาบางชนิด เช่น Threespine stickleback สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลได้อย่างรวดเร็ว ปลาชนิดนี้พบในบริเวณปากแม่น้ำต่างๆ ตามชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา นักวิทยาศาสตร์ระบุว่ารูปร่าง ขนาด และพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ทำให้พวกมันอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำทะเล น้ำจืด และภายใต้อุณหภูมิที่หลากหลาย แต่อะไรที่ทำให้พันธุ์ปลานี้มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลในถิ่นอาศัยของปลา สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างที่พบระหว่างประชากรในน้ำจืดและน้ำเค็มที่มีมายาวนาน ซึ่งเชื่อมโยงกับการคัดเลือกโดยธรรมชาติ การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าอาจสามารถใช้ความแตกต่างทางพันธุกรรมที่เกิดขึ้นในอดีต มาทำนายว่าประชากรปลาจะปรับตัวเข้ากับปัจจัยกดดันด้านสิ่งแวดล้อมอย่างการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคตได้อย่างไร.


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2099886
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 26-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ผืนป่าโลกฟื้นตัว! ขนาดเทียบเท่าฝรั่งเศส กลับมาเขียวชะอุ่มในช่วง 20 ปี


พื้นที่ขนาดโดยประมาณเทียบเท่าประเทศฝรั่งเศส ได้เติบโตขึ้นใหม่ในป่าแอตแลนติกของบราซิลตั้งแต่ปี 2000 (Photo Credit : Getty)

งานวิจัยธรรมชาติล่าสุดโดยโครงการ Trillion Trees เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง WWF, BirdLife International และ Wildlife Conservation Society (WCS) ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากดาวเทียมตั้งแต่ปี 2000 (พ.ศ.2543) พบพื้นที่ป่าขนาดเกือบ 59 ล้านเฮกตาร์ (หรือ 370 ล้านไร่) ลากยาวตั้งแต่ผืนป่าในประเทศมองโกเลีย ไปจนถึงตอนใต้ของบราซิล "มีขนาดเทียบเท่ากับประเทศฝรั่งเศส" ได้ฟื้นตัวตามธรรมชาติโดยกลับมาเขียวชะอุ่มอีกครั้ง

พื้นที่ป่าทั้งหมดถูกพบว่า มีศักยภาพดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 5.9 กิกะตัน หรือมากกว่าปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาปล่อยในแต่ละปี

จากงานวิจัยพบว่า กว่า 20 ปีที่ผ่านมา ป่าแอตแลนติกในบราซิลได้ฟื้นกลับคืนมามากว่า 4.2 ล้านเฮกตาร์ (26 ล้านไร่) ซึ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่เท่ากับประเทศเนเธอร์แลนด์ ในขณะที่ป่าไม้เขตหนาว (Boreal Forest) ทางตอนเหนือของมองโกเลีย ฟื้นตัวกลับมากว่า 1.2 ล้านเฮกตาร์ (7.5 ล้านไร่) พื้นที่ป่าในแอฟริกากลาง และประเทศแคนาดา ก็มีรายงานว่า ฟื้นตัวกลับมาเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การปล่อยให้ผืนป่าได้ฟื้นฟูตามธรรมชาตินับเป็นทางเลือกในการลดผลกระทบจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ดีที่สุด เนื่องจากผืนป่าเดิมนั้น มีความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยคงความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพได้มากกว่า อีกทั้ง การปล่อยให้ป่าไม้ฟื้นกลับมาด้วยตัวเองมีต้นทุนถูก และยังเปิดโอกาสให้สัตว์ป่า และต้นไม้ท้องถิ่นกลับมาอุดมสมบูรณ์ได้อีกครั้ง

แต่น่าเศร้าที่ในปัจจุบัน ปัญหาการสูญเสียพื้นทีป่าไม้ยังคงเกิดขึ้นใน "อัตราที่น่ากลัว" หรือกล่าวอย่างง่าย ๆ ว่า #เราสูญเสียพื้นที่ป่ารวดเร็วเกินกว่าที่ป่าจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้ทัน แต่เมื่อใดก็ตามที่เราช่วยกันขจัดสิ่งรบกวนพื้นป่าได้ (เช่น การควบคุมพื้นที่ทำการเกษตรและปศุสัตว์ การล้อมรั้วป้องกันวัว หรือควายเล็มหญ้า เป็นต้น) ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์จะช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ 'ก๊าซเรือนกระจก' ที่เกิดจากกิจกรรมมนุษย์ราว 1 ใน 3 ในแต่ละปี




https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000050619

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายน้ำ : 26-05-2021 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 26-05-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


ฟื้นฟูปะการังใต้ท้องทะเลไทย

พื้นที่แนวปะการังทั้งหมดทั่วประเทศไทย พบว่ามีแนวปะการังเสื่อมโทรมที่จำเป็นต้องมีการฟื้นฟู มากกว่าร้อยละ 40 แม้โดยปกติแล้วแนวปะการังที่เสื่อมโทรมนั้น สามารถฟื้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การเข้าฟื้นฟูโดยมนุษย์นั้น จะสามารถเร่งให้แนวปะการังมีการฟื้นตัวได้เร็วขึ้น




https://www.mcot.net/view/n7OVXpAn

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:10


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger