สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 15 มิถุนายน 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้ในระยะนี้

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 15 ? 17 มิ.ย. 64 ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยเริ่มมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนเกิดขึ้น แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 18 ? 20 มิ.ย. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 15 ? 17 มิ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


เร่งดำเนินคดี แก๊งวัยรุ่นออกเรือตกปลา ใช้ปืนยิงฉลาม โพสต์คลิปเย้ยกฎหมาย



วันที่ 14 มิ.ย. 64 จากกรณีมีคลิปปรากฏบนโซเชียล ผู้ใช้แอปพลิเคชัน Tiktok รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปนาทีกลุ่มชายหลายคน ใช้เรือสปีดโบ๊ทออกไปตกปลากันในทะเล แล้วตกฉลามขึ้นมา และมีช่วงหนึ่งที่คนในเรือ ใช้อาวุธปืนยิงฉลามที่ว่ายเข้ามาใกล้กับเรือจำนวนหลายนัดก่อนจะลากขึ้นมาบนเรือ สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป้นอย่างมาก

นอกจากนี้ยังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กพร้อมภาพซากปลาฉลามที่ถูกยิง3 ตัวบนเรือ โดย ระบุว่า "ทริป เกือบตาย ต้องแวะโรงบาลก่อนไป ปวดท้องรุนแรงมาก ออกมา เจอทั้งลม ทั้งฝน มาเจอฝูงฉลามอีก ยิงกันมันเลย" พร้อมกับภาพฉลาม 3 ตัว นอนตายเรียงกันอยู่ ชาวโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความเหมาะสมเรียกร้องให้ตรวจสอบนั้น



ล่าสุด นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล ได้เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎภาพข่าวในสื่อออนไลน์ว่ามีการล่าฉลามในท้องทะเลจ.กระบี่ จากการตรวจสอบและติดตามผลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลที่10 (กระบี่) ผลปรากฏ ดังนี้


1.ชนิดปลาที่ปรากฏเป็นฉลามหูดำ ซึ่งไม่เป็นสัตว์ป่าสงวน/สัตว์ป่าคุ้มครองประเภทสัตว์น้ำ

2.จากการตรวจสอบ GPS ที่ติดตั้งประจำเรือ เส้นทางการเดินเรือปรากฏว่า พื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากชายฝั่ง 30 ไมล์ทะเล (จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจน้ำจังหวัดกระบี่)

3.พื้นที่เกิดเหตุอยู่นอกเขตอุทยานฯ (จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ) โดยอยู่ห่างจากเส้นแนวเขตอุทยาน96กม.

4.อยู่นอกเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่(จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทช.)

5.ตำรวจน้ำจังหวัดกระบี่เปรียบเทียบปรับนายอลงกรณ์ ชลธี อายุ 29 ปี ข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเงิน 10,000 บาท

โดย สำนักงานตำรวจน้ำกระบี่ได้นำเรื่องราวไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เพื่อดำเนินคดี ในข้อหามีและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวต่อไป


https://www.matichon.co.th/region/news_2776547


*********************************************************************************************************************************************************


ฉลามในมาเลย์ติดโรคผิวหนังปริศนา


ฉลามครีบขาว ที่มีรอยแผลบนศีรษะ (เอเอฟพี)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นักชีววิทยาทางทะเลกำลังสืบสวนโรคผิวหนังปริศนาที่ติดในหมู่ฉลามครีบขาวบริเวณเกาะสีปาดัน นอกชายฝั่งรัฐซาบะฮ์ บนเกาะบอร์เนียวของมาเลเซีย เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาภาพฉลามที่มีจุดและแผลบนหัวเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียทำให้หลังจากนั้นนักดำน้ำที่เกาะสีปาดัน ทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยของรัฐ และกลุ่มนักอนุรักษ์ เริ่มตรวจหาโรคผิวหนังในฉลามทุกกลุ่มที่พบ โดยจากรายงานที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ระบุว่า อุณหภูมิของน้ำทะเลที่สูงขึ้นอาจเป็นสาเหตุของโรคดังกล่าว ทั้งนี้อุณหภูมิที่เกาะสีปาดันเพิ่มขึ้นเป็น 29.5 องสาเซลเซียสในเดือนพฤษภาคมซึ่งสูงขึ้น 1 องศาเมื่อเทียบกับปี 1985


https://www.matichon.co.th/foreign/news_2775914

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก สำนักข่าวไทย


รวบแก๊งยิงฉลามกลางทะเลกระบี่ แถมโพสต์โชว์

กระบี่ 14 มิ.ย. ? ตำรวจน้ำกระบี่ รวบแก๊งตกปลากลางทะเล ใช้ปืนยิงฉลามหางดำ 3 ตัว แถมโพสต์โชว์ทั้งเฟซบุ๊ก-TikTok



กรณีมีคลิปปรากฏบนโซเชียล ผู้ใช้แอปพลิเคชัน TikTok รายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปนาทีกลุ่มชายหลายคนใช้เรือสปีดโบ๊ทออกไปตกปลากันกลางทะเล แล้วตกฉลามขึ้นมา และมีช่วงหนึ่งที่คนในเรือใช้อาวุธปืนยิงฉลามที่ว่ายเข้ามาใกล้เรือจำนวนหลายนัด ก่อนจะลากขึ้นมาบนเรือ สร้างความสะเทือนใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ผู้ใช้ TikTok ชื่อเดียวกัน ยังโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ?ทริป เกือบตาย ต้องแวะโรงบาลก่อนไป ปวดท้องรุนแรงมาก ออกมา เจอทั้งลม ทั้งฝน มาเจอฝูงฉลามอีก ยิงกันมันเลย? พร้อมกับภาพฉลาม 3 ตัว นอนตายเรียงกันอยู่ ซึ่งโลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำกระบี่ ระบุจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า ทะเลที่เรือลำดังกล่าวออกไปยิงฉลาม น่าจะอยู่ในเขตน่านน้ำของ จ.กระบี่ โดยพิกัดที่สงสัยน่าจะอยู่ระหว่างเกาะพีพี กับเกาะห้า ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบพิกัดที่ชัดเจน รวมถึงตรวจสอบว่า กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นคนกลุ่มใด เบื้องต้นตำรวจได้เบาะแสแล้วว่า น่าจะเป็นกลุ่มชายวัยรุ่นในพื้นที่ตัวเมืองกระบี่ ตอนนี้สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบและติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ขณะที่นายประยูร พงศ์พันธ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พิกัดจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากเกาะพีพี กว่า 100 กม. เป็นช่องแคบระหว่างแหลมมลายูกับเกาะสุมาตรา อยู่บริเวณทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทย ตะวันตกและใต้ของมาเลเซีย ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือและเหนือของเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย และเลยไปถึงทางด้านใต้ของสิงคโปร์ ส่วนฉลามในคลิป คือ ฉลามหางดำ อาศัยอยู่ห่างไกลจากชายฝั่ง ไม่ค่อยพบเจอตามแนวปะการัง พบเจอติดเบ็ดติดอวนชาวประมงบ่อยครั้ง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น. วันนี้ (14 มิ.ย.) พ.ต.ต.ทวีลาภ สุวรรณฤกษ์ สว.สถานีตำรวจน้ำกระบี่ นำกำลังชุดสืบสวนตำรวจน้ำกระบี่ คุมตัวนายอลงกรณ์ ชลธี หรือ ดิ่ง อายุ 30 ปี และนายประกาย อุ๋ยวงศ์ อายุ 26 ปี มาทำบันทึกการจับกุม ที่สถานีตำรวจน้ำกระบี่ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เรือที่นำออกไปตกปลาและยิงฉลามในวันเกิดเหตุ ซึ่งปรากฏในคลิป เป็นของนายอลงกรณ์ ส่วนคนที่ใช้ปืนยิงฉลาม คือ นายประกาย

เจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้น นายอลงกรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุได้นำเรือลำใหม่ไปลอง และได้พาเพื่อนๆ ไปตกปลาจริง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาใช้เรือโดยไม่ได้รับอนุญาต และเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 10,000 บาท

ส่วนนายประกาย รับสารภาพว่า เป็นบุคคลในคลิปที่ใช้อาวุธปืนยิงฉลามจริง เนื่องจากฉลามดิ้น ไม่สามารถเอาขึ้นเรือได้ ซึ่งขณะนั้นกำลังจะเดินทางกลับ เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินการตามกฎหมาย.


https://tna.mcot.net/region-717019

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก อสมท.


วิกฤต ปลาจากน่านน้ำทะเลไทย หายไปไหน?

ใครจะไปคิดว่าทะเลไทยอันกว้างใหญ่ไพศาลและอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งนึงของโลก จะประสบปัญหาการทำประมงที่ถดถอยลง ทั้งขนาด ชนิด และจำนวนของปลาที่จับได้ เกือบ 50 ปีที่มีการประมงพาณิชย์เกิดขึ้นในประเทศไทย ทุกวันนี้ทะเลไทยกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติ สัตว์น้ำที่จับได้เริ่มมีขนาดเล็กลง และจำนวนก็เริ่มลดน้อยถอยลงทุกขณะ จากที่เคยลากอวน 1 ชั่วโมง จับสัตว์น้ำได้มากกว่า 295 กิโลกรัม แต่วันนี้จะหวังเพียงแค่ชั่วโมงละ 30 กิโลกรัมก็ยังยาก

ปลาหลายชนิดหายไปจากน่านน้ำทะเลไทย พวกมันหายไปไหน? อะไรคือสาเหตุสำคัญของปัญหานี้ จำนวนเรือที่เพิ่มมากขึ้น หรือความต้องการในการบริโภคสูงขึ้น ประชากรมากขึ้น หรือจำนวนปลาลดลง มลภาวะในทะเลสูงขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ หรือการจับปลาแบบทำลายล้าง...




https://www.mcot.net/view/JRVUfK1j

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก GREENPEACE


ครบรอบหนึ่งปีอุบัติการณ์น้ำมันรั่วที่รัสเซีย : ถึงเวลาหันหลังให้เชื้อเพลิงฟอสซิลหรือยัง? ................ โดย Olesya Vikulova

เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว น้ำมันกว่าสองหมื่นตันรั่วไหลลงสู่ดินและน้ำที่เมืองนอริลสก์ในเขตวงกลมอาร์กติก นับเป็นภัยพิบัติด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงเป็นประวัติการณ์


สภาพแม่น้ำ Ambarnaya ที่กลายเป็นสีแดงเพราะน้ำมัน ? Anonymous / Greenpeace

หายนะทางธรรมชาติครั้งนี้ก่อให้เกิดแรงกดดันมหาศาลจากทั้งประชาชนและสื่อมวลชน ผนวกกับหลักฐานของกรีนพีซ รัสเซีย ทำให้เรื่องดำเนินไปถึงชั้นศาล

ในที่สุดบริษัทนอริลสก์ นิกเกิล (Norilsk Nickel) ซึ่งทำให้เกิดอุบัติการณ์ครั้งนี้ ต้องจ่ายค่าชดใช้เป็นเงินประมาณ 6.2 หมื่นล้านบาท นับเป็นค่าปรับในประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์รัสเซีย

อย่างไรก็ดี ราคาดังกล่าวไม่สามารถชดเชยผลกระทบต่อชนพื้นเมืองและชนกลุ่มน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้


ชาวประมงพื้นบ้านถือแหที่เรียกว่า Kresti บริเวณใกล้แม่น้ำ Pyasina ? Greenpeace / Dmitry Sharomov

เหตุการณ์เวียนมาครบรอบหนึ่งปี เราพาย้อนดูว่าหลังจากหายนะครั้งนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และรัสเซียมีแผนรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้อย่างไรในอนาคต


อุบัติการณ์ครั้งนี้ แท้จริงแล้วแค่หนึ่งในหลายร้อย

จริงๆแล้ว เหตุการณ์น้ำมันรั่วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 เป็นแค่หนึ่งในหลายร้อยครั้งที่เกิดขึ้นทั่วรัสเซียทุกปี

อย่างสัปดาห์ที่แล้ว ที่สาธารณรัฐโคมี (Komi Republic) ก็มีคลังน้ำมันที่ถูกทิ้งร้างทำน้ำมัน 50-70 ลิตรรั่วลงแม่น้ำก่อนไหลลงมหาสมุทรอาร์กติก จนรัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในบริเวณใกล้เคียง


การทำความสะอาดแม่น้ำ Kolva จากเหตุการณ์น้ำมันรั่วเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 ? Greenpeace Russia

น้ำมันรั่วกลายเป็นปัญหาการเมืองระดับสูงของรัสเซีย เมื่อปี 2561 มีสารจากประธานาธิบดี ระบุว่ามีอุปกรณ์ 60-70% ที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย มีการใช้งานเกินอายุของมัน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสังคมจากอุบัติเหตุคิดเป็นมูลค่ากว่า 600-700 ล้านรูเบิลต่อปี (ประมาณ 300 ล้านบาท) และจะส่งผลเสียต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ


อุดรอยรั่ว

หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กรีนพีซยื่นข้อเรียกร้องต่อ มีฮาอิล มีชุสติน (Mikhail Mishustin) นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เพื่อให้มีการตรวจสอบคลังน้ำมันที่เป็นระบบและเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบให้มากขึ้น ทำให้รัฐบาลสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบคลังน้ำมันอื่นๆทันที

สิบเดือนให้หลัง Rostekhnadzor ซึ่งเป็นองค์กรด้านนิเวศวิทยา เทคโนโลยี และนิวเคลียร์ของรัฐบาลรัสเซีย รายงานผลการตรวจสอบคลังน้ำมัน โดยแจงว่าพวกเขาพบการฝ่าฝืนมาตรฐานความปลอดภัยกว่า 3626 จุด และมีการปรับเงิน 6.5 ล้านบาท


นักกิจกรรมกรีนพีซ Elena Sakirko ที่หน้า Nornickelplant ซึ่งเป็นสถานที่ๆเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วในรัสเซียวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ? Greenpeace / Dmitry Sharomov


สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เป็นหายนะต่อสิ่งแวดล้อม กรีนพีซเลยสร้าง แผนที่ระบุแห่งกักเก็บน้ำมันในอาร์กติก และจะส่งผลการตรวจสอบล่าสุดให้ Rostekhnadzor พร้อมข้อเรียกร้องให้ตรวจสอบคลังน้ำมันทั่วประเทศ

แม้ปัจจุบันจะมีการเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น แต่เราก็ยังเชื่อว่าแค่นี้ยังไม่พอ อุบัติเหตุที่เกี่ยวกับน้ำมันก็ยังเกิดขึ้นบ่อยๆ การตรวจสอบอยู่ตลอดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ รวมไปถึงความโปร่งใส เพื่อให้ประชนชนคนทั่วไปเห็นว่าความเสี่ยงอยู่ตรงไหนและต้องไหนต้องปรับปรุง

แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด รัฐบาลรัสเซียควรยกเลิกการใช้น้ำมันเป็นแหล่งเชื้อเพลิงและหันมาใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หันหลังให้เศรษฐกิจที่อิงกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลและมาพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียวแทน

เมื่อปีที่แล้ว กรีนพีซรัสเซียและพันธมิตร ได้เสนอแผนการเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยใช้ชื่อว่า The Green Deal ซึ่งจะเป็นแผนพัฒนาในระยะยาวให้รัสเซียใช้รับมือกับวิกฤติสภาพภูมิอากาศและรับมือกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วอย่างที่ผ่านๆมา

รายงานฉบับนี้ช่วยให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่ไม่อิงกับเชื้อเพลิงฟอสซิล และสร้างอุตสาหกรรมใหม่ อาชีพใหม่ ที่ดีต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม


https://www.greenpeace.org/thailand/...ilsk-disaster/