สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยในระยะนี้ ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 20 - 22 ส.ค. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ภาคใต้ตอนล่างยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 23 - 25 ส.ค. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 23 - 25 ส.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ


หินใต้ท้องทะเล ให้เบาะแสเกี่ยวกับแผ่นดินไหว



การสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกาได้ประเมินจำนวนแผ่นดินไหวในช่วง 50 ปี โดยที่ประมาณ 100,000 ครั้งที่สามารถสัมผัสได้ และประมาณ 100 ครั้งที่ก่อเกิดความเสียหาย แผ่นดินไหว อันทรงพลังเหล่านี้ได้ทำลายบางส่วนของประเทศต่างๆ รวมถึงคร่าชีวิตผู้คนหลายพันคน ทำให้ต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

แต่จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งต่อไปเมื่อไหร่นั้น นักวิทยาศาสตร์เผยว่าต้องคอยตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ เช่น รอยเลื่อนซานแอนเดรียสในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และรอยเลื่อนนอร์ท อนาโตเลียน ในตุรกี ล่าสุด นักธรณีวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ ในสหรัฐฯ เผยว่ากำลังสำรวจใจกลางมหาสมุทรที่มีแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำ และสิ่งที่พบอาจช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ทำนายการเกิดแผ่นดินไหวบนบกได้ ซึ่งเบาะแสสำคัญก็คือหินก้นทะเล เช่น หินเพริโดไทต์ (Peridotite) เป็นหนึ่งในหินที่พบมากที่สุดในเขตรอยเลื่อนใต้ทะเล นักธรณีวิทยาอธิบายว่ารอยเลื่อนจะทำให้น้ำทะเลจำนวนมากไหลลงสู่ความลึกมากกว่า 16 กิโลเมตรใต้พื้นทะเล เมื่อน้ำเข้าไปในหินก็จะทำปฏิกิริยากัน และยังพบว่าการแทรกซึมของน้ำทะเลทำให้เกิดการตกผลึกของแร่ธาตุเม็ดเล็กๆ และสิ่งเหล่านี้ทำให้หินเล็ดลอดตามไปแทนที่จะเกิดเหตุการณ์พัดร่วงหลุด

อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่มีทางหยุดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ไม่ให้เกิดขึ้นได้ แต่การรู้ คุณสมบัติของหินก็เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในเขตรอยเลื่อนและแผ่นดินไหวจนนำไปสู่การพยากรณ์การเกิดแผ่นดินไหวตามมา.

Credit : University of Delaware


https://www.thairath.co.th/news/foreign/2164427

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


พบโลมาปากขวดตายเกยหาดหัวไทร จนท.เก็บซากเตรียมชันสูตรหาสาเหตุการตาย

นครศรีธรรมราช - เศร้า! พบโลมาปากขวดตายเกยชายหาดหัวไทร ริมทะเลใน จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่เก็บซากไปทำการชันสูตรหาสาเหตุการตาย



วันนี้ (19 ส.ค.) ชาวบ้านในพื้นที่บ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ 5 ต.หน้าสตน อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช ได้ประสานกับเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากฝั่งอ่าวไทย เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งภาคใต้ตอนกลาง เข้าทำการตรวจสอบ พบว่า โลมาตัวดังกล่าวเป็นโลมาปากขวดตัวโตเต็มวัย เพศผู้ ยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ตรวจทางกายภาพเบื้องต้นไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยที่เป็นสาเหตุของการตาย หลังจากนั้นจึงทำการเก็บซากเพื่อส่งไปทำการผ่าพิสูจน์เก็บข้อมูลทางวิชาการ เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันรักษาฝูงโลมาในอ่าวไทย ซึ่งมีชุกชุมอยู่ในชายฝั่ง จ.นครศรีธรรมราช

ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ระบุว่า ในช่วงเช้าได้มีคนมาเล่นริมทะเล และพบโลมาตัวนี้เกยหาดอยู่จึงพยายามเข้าช่วย แต่กลับพบว่าตายไปได้ไม่นานก่อนที่จะมาพบ สภาพตัวยังนิ่ม ไม่มีกลิ่นใดๆ จากนั้นชาวประมงพื้นบ้านได้ประสานความร่วมมือกับเครือข่ายช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากฝั่งอ่าวไทย เข้าเก็บซากไปดำเนินการ ส่วนโลมาปากขวดดังกล่าวนั้น ชาวประมงเชื่อว่าเป็นสมาชิกของฝูงโลมาขนาดใหญ่ที่หากินอยู่หน้าอ่าวหัวไทร ชาวประมงพื้นบ้านพบเห็นเป็นประจำ และมักว่ายน้ำเล่นคู่กับเรือประมงของชาวบ้าน ซึ่งทุกคนต่างพยายามช่วยกันอนุรักษ์ แต่เชื่อว่าตัวที่ตายนั้นอาจป่วยตาย


https://mgronline.com/south/detail/9640000081746

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


นักชีววิทยาสุดตะลึง! พบลูกเต่า 2 หัวหายาก เพิ่งฟักออกจากไข่บนหาด



นักชีววิทยาตื่นตะลึง! หลังออกสำรวจรังเต่าจนพบลูกเต่าสองหัวสุดแสนจะหายาก เพิ่งฟักออกจากไข่ เริ่มคลานบนชายหาด จึงนำกลับมาตรวจสุขภาพและปล่อยคืนสู่ทะเล

เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ชายฝั่งเอาท์เตอร์แบงค์ รัฐนอร์ทแคโรไลนาในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากนักชีววิทยาของกรมอุทยานแห่งชาติฮัตเตราสค้นพบสิ่งที่น่าอัศจรรย์ระหว่างการสำรวจรังของเต่าทะเลบนชายหาดนั้นก็คือ ลูกเต่าหัวค้อนที่มีสองหัวในกระดองเดียว (Loggerhead Turtle)

เผยอีกสาเหตุ ผู้ประกันตน ม.40 ไม่ได้รับสิทธิ รับเงิน5พัน รีบตรวจสอบเลย
จากนั้นทางอุทยานโพสต์วิดีโอพร้อมแคปชั่น "สองหัวดีกว่าหัวเดียวจริงหรือไม่? ไม่ใช่ทุกวันที่นักชีววิทยาของอุทยานจะพบเต่าทะเลที่มีสองหัว!" ผ่านทางเฟซบุ๊ก Cape Hatteras National Seashore ซึ่งกลายเป็นคลิปไวรัลที่มีผู้ชมถึง 83,000 ครั้ง รวมไปถึงมียอดการแชร์ประมาณ 1,600 ครั้ง

ทางด้านชาวเน็ตก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกันอย่างล้นหลาม เช่น "มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้ไหมนะ" "ขอให้มีอายุยืนยาวนะ " "โชคดีนะเจ้าเต่าน้อย" "น่าทึ่งมาก" "ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย" แต่ทว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่งเกิดความสงสัยว่า อุทยานจะปล่อยลูกเต่านี้คืนสู่ทะเลหรือนำตัวเข้าอนุบาลที่ศูนย์วิจัย เพื่ออนุรักษ์เป็นสื่อการเรียนรู้ในเรื่องความผิดปกติทางพันธุกรรมให้นักท่องเที่ยวได้รับชม

ทางอุทยานแห่งชาติได้ออกมาตอบคำถามและข้อกังวลมากมายผ่านทางคอมเมนต์ว่า "ไม่ต้องกังวลเต่าทะเลสามารถมีความผิดปกติทางพันธุกรรมได้หลายอย่างและนักชีววิทยาของเราได้ทำการประเมินสุขภาพพบว่าลูกเต่าตัวนี้มีสุขภาพและครีบแข็งแรง จึงปล่อยคืนมันสู่ธรรมชาติพร้อมกับลูกเต่าตัวอื่น ๆ"

ทั้งยังกล่าวเสริมว่า "เมื่อมันโตขึ้น ความต้องการทางด้านอาหารก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งมีหลายคำถามว่ามันจะอยู่รอดได้หรือไม่ พวกเราก็ไม่สามารถตอบได้พร้อมหวังว่าจะเจ้าเต่าน้อยจะมีอายุยืนยาว"

ขอบคุณที่มาจาก Dailystar


https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_6571925