เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 25-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 25 - 29 ส.ค. 64 จะมีร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 25 - 30 ส.ค. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ตลอดช่วง


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 25 - 30 ส.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในระยะนี้ไว้ด้วย









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 25-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


ชายหาดมะริดพบ "ฉลามวาฬตายเกยตื้น" คาดดินฟ้าอากาศอุณหภูมิน้ำทะเลเปลี่ยน


ฉลามวาฬที่ลอยมานอนตายเกยตื้นบนชายหาดเจ้าก์กา เมืองปะลอ จังหวัดมะริด เมื่อตอนเที่ยงวันนี้

พบฉลามวาฬยาว 24 ฟุต ขึ้นมานอนตายเกยตื้นชายหาดมะริด เจ้าหน้าที่คาดเกิดจากสภาพดินฟ้าอากาศเปลี่ยน ก่อนหน้านี้ 2 เดือน พบโลมา 3 ตัว ว่ายหลงทางจนมาเกยตื้นบนชายหาดพะสิมถึง 3 ตัว ในวันเดียว

ช่วงเที่ยงวันนี้ (24 ส.ค.) ชาวบ้านเจ้าก์กา หมู่บ้านชายทะเลอันดามัน ในเมืองปะลอ จังหวัดมะริด ภาคตะนาวศรี ประเทศพม่า ได้พบเห็นปลาฉลามวาฬขนาดใหญ่ ลอยตามน้ำขึ้นมานอนตายเกยตื้นอยู่บนชายหาด จึงแจ้งให้เจ้าหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ

ต่อมามีเจ้าหน้าที่จากกรมประมงเดินทางมาตรวจซากปลาฉลามวาฬ พบว่าเป็นเพศผู้ ลำตัวยาว 24 ฟุต ส่วนกลางลำตัววัดเส้นรอบวงได้ 10 ฟุต ความกว้างของปาก 3 ฟุต 6 นิ้ว ครีบหางกว้าง 5 ฟุต 6 นิ้ว

เนื่องจากปลาฉลามวาฬอยู่ในบัญชีสัตว์หายากของโลก เจ้าหน้าที่จึงต้องเก็บรายละเอียดและหลักฐานทั้งหมด เพื่อนำไปวิเคราะห์หาสาเหตุการตายว่ามาจากอะไร อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพดินฟ้าอากาศ จากนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ได้ช่วยกันนำซากปลาฉลามวาฬตัวนี้ ไปฝังกลบ


แผนที่เมืองปะลอ ชายทะเลอันดามัน จังหวัดมะริด

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่บ้านฉ่วยตองยาน หมู่บ้านชายทะเลในอ่าวเบงกอล จังหวัดพะสิม ภาคอิรวดี ซึ่งอยู่ห่างจากภาคตะนาวศรี ข้ามอ่าวเมาะตะมะขึ้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้เกิดปรากฏการณ์โลมาได้ว่ายหลงมานอนเกยตื้นอยู่บนชายหาดถึง 3 ตัวภายในวันเดียว

โดยในตอนเช้า ชาวบ้านพบโลมา 2 ตัว นอนเกยตื้นอยู่บนชายหาดฉ่วยตองยาน จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่แผนกประมงประจำจังหวัดมาให้ความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ได้มาวัดขนาดของโลมาทั้ง 2 ตัว ตัวหนึ่งยาว 6 ฟุต 1 นิ้ว ส่วนกลางลำตัววัดเส้นรอบวงได้ 2 ฟุต 7 นิ้ว ครีบหางกว้าง 1 ฟุต 4 นิ้ว อีกตัวหนึ่งยาว 6 ฟุต 3 นิ้ว ลำตัววัดได้ 2 ฟุต 7 นิ้ว ครีบหางกว้าง 1 ฟุต 9 นิ้ว

ต่อมาตอนบ่าย ที่ชายหาดบริเวณด้านหน้าโรงแรมฉ่วยฮิงตา (หงส์ทอง) ซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากจุดที่พบโลมา 2 ตัวเกยตื้นในตอนเช้าเล็กน้อย ชาวบ้านได้พบกับโลมาอีกหนึ่งตัวนอนเกยตื้นอยู่ จึงได้ระดมกำลังกันมาให้ความช่วยเหลืออีกครั้ง

ชาวบ้านบอกว่าตั้งแต่ต้นปี ได้พบโลมามาเกยตื้นบริเวณชายหาดฉ่วยตองยานแล้วถึง 4 ตัว คาดว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของกระแสน้ำ ส่งผลให้โลมาเกิดอาการว่ายผิดปกติ จนมาเกยตื้นที่ชายหาด


https://mgronline.com/indochina/detail/9640000083629


*********************************************************************************************************************************************************


ผลศึกษาตอกย้ำโลกร้อนจากฝีมือมนุษย์ เพิ่มแนวโน้มยุโรปจมน้ำบ่อย-รุนแรงขึ้น


ภาพถ่ายวันที่ 19 ส.ค. แสดงให้เห็นตะกอนดินโคลน และซากหักพังในพื้นที่ทางภาคตะวันตกของเยอรมนี หลายสัปดาห์หลังจากเกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมใหญ่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม

ผลศึกษาระหว่างประเทศตอกย้ำการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากฝีมือมนุษย์ทำให้เกิดอุทกภัยร้ายแรงที่มีผู้เสียชีวิตมากมายในเยอรมนีและเบลเยียมเมื่อปีที่แล้วถึง 9 ครั้งและมีแนวโน้มเกิดขึ้นอีกหลายหน

ประชาชนอย่างน้อย 190 คนเสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทางภาคตะวันตกของเยอรมนีเมื่อกลางเดือนที่แล้ว และอย่างน้อย 38 คนหลังฝนตกหนักในเขตวัลโลเนียทางใต้ของเบลเยียม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศสามารถเชื่อมโยงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากฝีมือมนุษย์กับสภาพอากาศเลวร้ายสุดขั้วบางอย่างได้มากขึ้นโดยใช้ศาสตร์การบ่งชี้ที่เฉพาะเจาะจง

ในการคำนวณบทบาทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อฝนที่ตกลงมาและทำให้เกิดน้ำท่วม นักวิจัยวิเคราะห์บันทึกข้อมูลสภาพอากาศและจำลองด้วยระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเปรียบเทียบสภาพภูมิอากาศปัจจุบันที่อุณหภูมิสูงกว่าในอดีตราว 1.2 องศาเซลเซียสอันเนื่องมาจากฝีมือมนุษย์

นักวิจัยมุ่งเน้นระดับน้ำฝนในวันเดียวและสองวัน และพบว่าพื้นที่ที่ฝนตกหนักมากสองแห่งมีหยาดน้ำฟ้าแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ในเขตอาร์และแอฟต์ของเยอรมนี พบปริมาณน้ำฝน 93 มิลลิเมตรในวันเดียวในวันที่อุณหภูมิพุ่งสูงระดับวิกฤต ส่วนเขตมูสของเบลเยียมพบปริมาณน้ำฝนสูงสุดทำสถิติที่ 106 มิลลิเมตรในช่วง 2 วันที่ฝนตก

นักวิจัยคำนวณว่า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 1.2-9 เท่าที่น้ำจะท่วมท่ามกลางสภาวะโลกร้อนขณะนี้ เทียบกับสถานการณ์ที่อุณหภูมิโลกไม่ได้สูงขึ้นนับจากยุคก่อนอุตสาหกรรม

รายงานที่จัดทำโดยเวิลด์ เวทเธอร์ แอตทริบิวชันระบุว่า ฝนที่ตกหนักขึ้น 3-19% ในเยอรมนีและเบเนลักซ์ขณะนี้เป็นผลจากภาวะโลกร้อนฝีมือมนุษย์

แฟรงค์ ไครเอนแคมป์ จากบริการสภาพอากาศในเยอรมนี ชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มแนวโน้มที่จะมีฝนตกรวมทั้งระดับความรุนแรง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์เฟรเดอริโก ออตโต ของสถาบันการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เสริมว่า น้ำที่ท่วมแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ประเทศพัฒนาแล้วก็ไม่ปลอดภัยจากผลกระทบรุนแรงของสภาพอากาศเลวร้ายที่เกิดขึ้นและเป็นที่รับรู้ว่า เลวร้ายลงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงถือเป็นความท้าทายเร่งด่วนที่โลกต้องรีบจัดการ

ผู้จัดทำรายงานฉบับนี้ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวันอังคาร (24 ส.ค.) สามารถประเมินแนวโน้มที่เหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อเดือนที่แล้วจะเกิดขึ้นอีกจากการวิเคราะห์รูปแบบฝนทั่วยุโรปตะวันตก ซึ่งพบว่า อาจเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้ในบางพื้นที่ทุกๆ 400 ปีในระดับอุณหภูมิปัจจุบัน หมายความว่า มีแนวโน้มเกิดน้ำท่วมรุนแรงระดับเดียวกับที่เยอรมนีและเบลเยียมทั่วยุโรปตะวันตกในกรอบเวลาดังกล่าว

มาร์เทน แวน อะแลสต์ ผู้อำนวยการศูนย์สภาพภูมิอากาศขององค์การกาชาดและเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นน้อยมากในอดีต แต่มีแนวโน้มจะเกิดบ่อยขึ้นในอนาคต

นักวิจัยมุ่งเน้นการเกิดฝนตกในการศึกษานี้ เนื่องจากข้อมูลระดับน้ำในแม่น้ำสูญหายไปหลังจากสถานีตรวจวัดหลายแห่งถูกน้ำท่วม

แวน อะลาสต์ ทิ้งท้ายว่า รายงานฉบับนี้เป็นสัญญาณเตือนทุกคนว่า จำเป็นต้องจัดการความเสี่ยงน้ำท่วม การเตรียมพร้อม และระบบเตือนภัยล่วงหน้า แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ดูเหมือนคนจะเตรียมพร้อมรับมือโดยคิดว่า เป็นภัยพิบัติครั้งสุดท้ายแล้ว

(ที่มา: เอเอฟพี)


https://mgronline.com/around/detail/9640000083668
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 25-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


ทส.ยกสถานะ 'ฉลามวาฬ เต่ามะเฟือง วาฬบรูด้า' เป็นสัตว์ป่าสงวน เพิ่มสัตว์ป่าคุ้มครอง 7 รายการ

ทส. เตรียมเสนอร่างกฎกระทรวงฯ เพิ่มสัตว์ป่าคุ้มครอง 7 รายการ ยกสถานะ ฉลามวาฬ-เต่ามะเฟือง-วาฬบรูด้า เป็นสัตว์ป่าสงวน



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) มอบหมายให้ นายพงศ์บุณย์ ปองทอง รองปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนากฎหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 2/2564 ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในสังกัดกระทรวงฯ ผ่านระบบการประชุมทางไกล (VDO Conference) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. ?. และให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปประกอบการพิจารณา และนำเสนอต่อคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองแห่งชาติตามขั้นตอนต่อไป

โดยการพิจารณา ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. ?. เป็นการดำเนินการตามมาตรา 5 และมาตรา 7 ของ พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ที่ได้มีการปรับปรุงจากบัญชีท้ายกฎกระทรวงที่ออกตามความใน พรบ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยมีการปรับสถานะรายการสัตว์ป่าคุ้มครองเป็นสัตว์ป่าสงวน จำนวน 3 รายการ ได้แก่ ฉลามวาฬ เต่ามะเฟือง และวาฬบรูด้า

การเพิ่มรายการสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 7 รายการ ได้แก่ ค่างตะนาวศรี งูหางแฮ่มกาญจน์ ปลากระเบนปีศาจหางเคียว ฉลามหัวค้อนยาว ฉลามหัวค้อนสีน้ำเงิน ฉลามหัวค้อนใหญ่ และฉลามหัวค้อนเรียบ และ การปรับลดรายการสัตว์ป่าคุ้มครอง จำนวน 20 รายการ เช่น ค้างคาวกินแมลงนิ้วสั้น ค้างคาวปีกขนเหนือ พญากระรอกบินหูขาว นกกระเต็นน้อยหลังแดง ตะพาบพม่า และ ปลาฉนากฟันเล็ก เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าและสัตว์น้ำในปัจจุบัน

รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนชื่อภาษาไทย และชื่อวิทยาศาสตร์ ในลำดับชั้นสกุล หรือในลำดับชั้นชนิด ในบางรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลทางอนุกรมวิธานปัจจุบัน ซึ่งร่างกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมฯ มาแล้วระหว่างวันที่ 1-15 สิงหาคม 2564 โดยมีผู้มีส่วนได้เสีย ผู้เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วน และประชาชน เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบผลการดำเนินการตามแผนพัฒนากฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปี พ.ศ. 2562 ? 2564 จำนวน 245 ฉบับ โดยให้ฝ่ายเลขานุการตรวจสอบและแก้ไขความคืบหน้าร่างกฎหมาย พร้อมรายงานปัญหาอุปสรรคที่พบ รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อโปรดทราบต่อไป ตลอดจนเห็นชอบให้มีการจัดทำแผนพัฒนากฎหมาย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในช่วงปี พ.ศ. 2565-2567 โดยขอให้แต่ละหน่วยงานจัดทำระยะเวลาการดำเนินงานของการพัฒนากฎหมายแต่ละฉบับให้ชัดเจน


https://www.matichon.co.th/local/news_2903011

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 25-08-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก Nation TV


อเมริกาเจอลูกเต่าสองหัว มองเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่ของแปลก



เจอลูกเต่าทะเลที่เกิดมามีสองหัวบนชายฝั่งของสหรัฐฯ แต่เจ้าหน้าที่มองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่ของแปลก ปล่อยกลับสู่ทะเลได้

รัฐนอร์ทแคโรไลนา ของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ของอุทยานชายฝั่ง เคป แคตเตรัส ได้พบเจอลูกเต่าทะเล ที่เกิดมามีสองหัวอยู่ในกระดองเดียวกัน โดยลูกเต่าทะเลสองหัวตัวนี้ มี 4 ขา เหมือนเต่าทั่วไป และแม้จะมีรูปร่างที่ผิดปกติ แต่ก็ดูสุขภาพแข็งแรงดี

เจ้าหน้าที่อุทยานได้โพสต์ภาพลูกเต่าตัวนี้ลงโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีคนเข้ามาถามว่าต้องเอาลูกเต่าไปดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่มีความจำเป็น เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีลูกเต่าทะเลหลายตัวเกิดมามีร่างกายที่ผิดปกติ และลูกเต่าทะเลสองหัวตัวนี้ ดูจะมีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถว่ายน้ำในทะเลได้ตามปกติ

เจ้าหน้าที่ยังบอกด้วยว่าลูกเต่าทะเลตัวนี้เป็นพันธุ์หัวค้อน ซึ่งจัดว่าเป็นเต่าที่มีอยู่มากมายในทะเล มีอายุยืนได้มากกว่า 70 ปี อย่างไรก็ตาม การมีสองหัวในตัวเดียว จะทำให้เต่าตัวนี้ใช้ชีวิตและหาอาหารได้ลำบาก ซึ่งจะทำให้มันไม่น่ามีอายุยืนเหมือนเต่าตัวอื่น


https://www.nationtv.tv/news/378835418

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:11


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger