#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศกัมพูชา ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 27 - 29 ส.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนในวันที่ 30 ส.ค. ? 1 ก.ย. 64 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยคลื่นสูง 1 - 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 27 - 29 ส.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
'วาฬไรต์แอตแลนติก' เสี่ยงสูญพันธุ์ กรีนพีซ ชวนดูสารคดี Entangled ภารกิจปกป้องที่อาจเป็นโอกาสสุดท้าย ในอดีต วาฬไรต์แอตแลนติกเหนือมีมากกว่า 20,000 ตัว แต่พวกมันถูกล่าเพื่อเอาชั้นไขมันใต้ผิวหนังไปกลั่นเป็นน้ำมัน ทำให้เหลือไม่ถึง 300 ตัว หลังปี พ.ศ. 2478 จึงมีการสั่งห้ามล่าวาฬไรต์ จำนวนของมันจึงเพิ่มขึ้นมาบ้าง แต่หลังจากปี 2553 เป็นต้นมา จำนวนของพวกมันก็ลดลงอีก สาเหตุเพราะภาวะโลกร้อนและจากการที่พวกมันติดสายเบ็ดจากการทำประมงล็อบสเตอร์ ซึ่งหากเป็นอย่างนี้ต่อไป วาฬไรต์แอตแลนติกอาจจะสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้ Entangled (2020) สารคดีที่นำเสนอภารกิจการปกป้องวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือ สิ่งมหัศจรรย์แห่งมหาสมุทรแอตแลนติก หนึ่งในสายพันธุ์วาฬใกล้สูญพันธุ์ที่เหลือไม่ถึง 400 ตัว สะท้อนวิกฤตความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความซับซ้อนของการจัดการความสัมพันธ์ของมนุษย์และธรรมชาติ สารคดีเล่าเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์และนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมที่พยายามต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของวาฬไรต์ สลับกับภาพความขัดแย้งกับชุมชนประมงล็อบสเตอร์ ที่ต้องการปกป้องอาชีพของท้องถิ่นเอาไว้ Entangled เผยความซับซ้อนในการอนุรักษ์วาฬไรต์ โดยพาผู้ชมสำรวจความเชื่อมโยงระหว่างการล่าวาฬในอดีต วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงผลกระทบด้านนโยบายที่ตกสู่ชาวประมง ซึ่งในปัจจุบันหลายฝ่ายกำลังหาทางออกให้ชาวประมงและวาฬไรต์อยู่ร่วมกันได้ อย่างไรก็ตามเวลาที่ผ่านไป ประชากรวาฬไรต์แอตแลนติกเหนือก็ลดลงเรื่อยๆ สารคดี Entangled การันตีด้วยรางวัล Jackson Wild, รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก International Wildlife Film Festival, รางวัล Best Conservation Film จาก International Ocean Film Festival และรางวัล John de Graaf Environmental Filmmaking Award จาก Wild & Scenic Film Festival รับชมฟรี! ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 สิงหาคม 2564 ทาง Doc Club on Demand พร้อมคำบรรยายภาษาไทย https://www.greenpeace.org/thailand/...tangled-movie/ เมื่อดูจบแล้ว เขียนรีวิวหรือสิ่งที่ชอบจากหนังลงบนช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง พร้อมแฮชแท็ก #Entangled และ #OceanDefenders อันไหนโดนใจรับรางวัลหน้ากากผ้ามหาสมุทรจากกรีนพีซ https://mgronline.com/greeninnovatio.../9640000084304
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก Greennews
เตรียมประกาศใช้ "8 กฏหมายลูกพรบ.อุทยานฯ" ? อีก 4 รอเสนอครม. ที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติวันนี้ (26 ส.ค. 2564) มีมติเห็นชอบ 12 ร่างกฎหมายลูกพรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 เผยเตรียมประกาศใช้ 8 ฉบับ และอีก 4 ฉบับเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี รมว.วราวุธเผย "เน้นรักษาพื้นที่ป่า ลดความขัดแย้ง สร้างคุณภาพชีวิต บนหลักสิทธิมนุษยชน" (ภาพ : ประชาสัมพันธ์ ทส.) มติบอร์ดอุทยานชาติ วันนี้ (26 สิงหาคม 2564) เวลา 09.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกล (VDO Conference) โดยมี วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธาน ร่วมด้วยจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส. และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ รวมถึง ธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะฝ่ายเลขานุการ "ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองประกอบพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จำนวนทั้งสิ้น 12 ฉบับ เตรียมประกาศใช้ 8 ฉบับ อีก 4 ฉบับเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมกันนี้ยังได้ขอบคุณอนุกรรมการฯ ที่ได้ช่วยพิจารณากลั่นกรองร่างกฎหมายลำดับรองทั้งหมด ให้สำเร็จลุล่วงภายใต้กรอบระยะเวลาที่จำกัด" รายงานข่าวจากที่ประชุมเปิดเผย ที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 จำนวนทั้งสิ้น 12 ฉบับ แบ่งเป็น 2 ส่วน 4 กฏหมายลูกรอเข้าครม. ส่วนแรก คือ กฎหมายลำดับรองที่ต้องเสนอเข้า ครม. เพื่อพิจารณาต่อไป จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2. ร่างกฎกระทรวงการแบ่งเงินค่าบริการและค่าตอบแทนในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล 3. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ภายในอุทยานแห่งชาติ 4. ร่างประกาศกระทรวง ว่าด้วยโครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติ 8 กฎหมายลูกเตรียมประกาศใช้ ส่วนที่สอง กฎหมายลำดับรองประกอบ พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่เมื่อผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ แล้วสามารถประกาศให้มีผลบังคับใช้ได้ต่อไป จำนวน 8 ฉบับ ได้แก่ 1. ร่างประกาศกระทรวงการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ในการกำหนดพื้นที่ การขยาย หรือการเพิกถอนอุทยานแห่งชาติ 2. ร่างระเบียบกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการอนุญาตให้กระทำการในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ และสวนรุกขชาติ 3. ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่ในอุทยานแห่งชาติ 4. ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการเรียกเก็บและการยกเว้นค่าบริการหรือค่าตอบแทน และอัตราค่าบริการหรือค่าตอบแทน ในการให้บริการและการอำนวยความสะดวกในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ 5. ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการนำส่ง การเก็บรักษา และการใช้จ่ายเงินเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบำรุงรักษาอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ 6. ร่างประกาศฯ ว่าด้วยการกำหนดมูลค่าของทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน สวนพฤกษศาสตร์ หรือสวนรุกขชาติ 7. ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการอยู่อาศัยหรือทำกินตามโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ เพื่อการดำรงชีพอย่างเป็นปกติธุระ 8. ร่างระเบียบฯ ว่าด้วยการเก็บหาหรือการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สามารถเกิดใหม่ทดแทนได้ตามฤดูกาล ในเขตพื้นที่โครงการอนุรักษ์และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เสียง รมว.ทส. "กฎหมายทั้งหมดนี้ คำนึงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก บนหลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนเพื่อลดความขัดแย้ง และรักษาพื้นที่ป่าไม่ให้ลดน้อยลง ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและพี่น้องประชาชนที่ได้อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตอุทยานแห่งชาติ สามารถอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างเกื้อกูลธรรมชาติ และได้รับความช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป" รมว.วราวุธ กล่าวหลังการประชุม 7 นโยบายสวนพฤกษศาสตร์-สวนรุกขชาติ รายงานข่าวระบุว่า ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบร่างนโยบายการจัดการสวนพฤกษศาสตร์และสวนรุกขชาติ 7 ด้าน คือ 1. นโยบายด้านการอนุรักษ์และรวบรวมพรรณไม้มีชีวิต 2. นโยบายด้านการวิจัยและการดำเนินงานพันธกรณีตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ 3. นโยบายด้านการจัดการแหล่งเรียนรู้ทางพฤกษศาสตร์ นันทนาการ และสุขอนามัย 4. นโยบายด้านการคุ้มครองพื้นที่และความมั่นคงของทรัพยากรธรรมชาติ 5. นโยบายด้านการคุ้มครองพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และมรดกทางวัฒนธรรม 6. นโยบายด้านการบังคับใช้กฎหมาย 7. นโยบายด้านการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่าย นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบในหลักการให้กรมอุทยานฯ ดำเนินการเพิกถอนพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูเก้า-ภูพานคำ บางส่วน เนื้อที่ประมาณ 13 ไร่ บริเวณวัดพระบาทภูเก้า ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดหนองบัวลำภูได้ขอกันพื้นที่วัดออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป https://greennews.agency/?p=25143
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|