#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และอ่าวไทยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 18 - 19 ก.ย. 64 ร่องมรสุมที่พาดภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง ส่วนในช่วงวันที่ 20 - 23 ก.ย. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตรส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน และเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 20-21 ก.ย. 64 ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 19- 23 ก.ย. 64 ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง โดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
สุดสยอง นาทีฉลามโผล่จากเกลียวคลื่น งับแขนวัยรุ่นเล่นกระดานโต้คลื่นที่สหรัฐฯ Cr: @samscribner_ นาทีชีวิตวัยรุ่นชายชาวอเมริกัน เล่นกระดานโต้คลื่นอยู่ดีๆ ฉลามโผล่มางับแขนเหวอะต้องเย็บไป 9 เข็ม จุดเกิดเหตุคือชายหาดอันตรายที่มีสถิติคนถูกฉลามกัดมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เมื่อวันที่ 16 ก.ย. เว็บไซต์ข่าวเดลี่ เมล รายงานว่า เกิดเหตุการณ์สุดระทึก เมื่อวัยรุ่นชายคนหนึ่งไปเล่นกระดานโต้คลื่น แล้วเจอฉลามมากับเกลียวคลื่นพุ่งเข้ากัดที่แขน เคราะห์ดีไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่ก็ต้องเย็บแผลไปถึง 9 เข็ม จากคลิปวิดีโอที่มีการแชร์ในโลกโซเชียล แสดงให้เห็นว่า นายดอยล์ เนลสัน อายุ 16 ปี กำลังเล่นกระดานโต้คลื่นกับเพื่อนที่ชายหาด จู่ๆ ก็มีฉลามตัวหนึ่งโผล่มา แล้วพุ่งเข้ากัดที่แขนของเขา เจ้าของคลิปวิดีโอเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเขากำลังถ่ายคลิปท้องทะเลและเกลียวคลื่นอยู่พอดี และไม่นึกว่าจะมาเจอเหตุการณ์สุดสยองแบบนี้ เมื่อจู่ๆ ก็มีฉลามโผล่มา และตรงนั้นก็มี 2-3 คนที่กำลังเล่นกระดานโต้คลื่นอยู่ จากนั้นก็มีเสียงคนตะโกนร้องเรียกให้พวกเขากลับขึ้นฝั่ง รายงานข่าวระบุว่า เคราะห์ดีที่ฉลามตัวนี้มีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 1.8 เมตร ในขณะที่นายเนลสันถูกนำตัวส่งหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน และต้องเย็บแผลไปถึง 9 เข็ม เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ชายหาดนิว สมีร์น่า ในรัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นหนึ่งในชายหาดที่มีสถิติคนถูกฉลามกัดมากที่สุดในโลก ของที่นี่อยู่ที่เฉลี่ยปีละ 9 ครั้ง ในขณะที่กรณีของนายเนลสัน ที่มาจากรัฐจอร์เจีย ถือเป็นรายที่ 10 ของปีนี้. https://www.thairath.co.th/news/foreign/2195803
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
คดีตัวอย่าง! ศาลอิเหนาชี้ 'ปธน.วิโดโด' ผิดฐานละเลย ไม่แก้ปัญหาหมอกควันพิษใน 'จาการ์ตา' ศาลอินโดนีเซียมีคำสั่งวานนี้ (16 ก.ย.) ให้ประธานาธิบดี โจโก วิโดโด ต้องเร่งแก้ไขปัญหามลพิษในอากาศของกรุงจาการ์ตา พร้อมตัดสินด้วยว่าประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงล้วนมีความผิดฐาน "ละเลย" ไม่ปกป้องสุขภาพของประชาชน กรุงจาการ์ตาและเขตปริมณฑลมีประชากรอยู่อาศัยรวมกันมากถึง 30 ล้านคน และติดโผบรรดาเมืองที่ค่ามลพิษสูงสุดของโลก ผู้เชี่ยวชาญออกมาย้ำเตือนหลายปีแล้วว่า หมอกควันพิษในจาการ์ตานั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพลเมือง โดยเฉพาะเด็กๆ นักเคลื่อนไหวและพลเมือง 32 คนซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหามลพิษได้รวมตัวกันยื่นฟ้องศาลเมื่อ 2 ปีที่แล้ว โดยกล่าวหาประธานาธิบดี วิโดโด, รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข, รัฐมนตรีกระทรวงการเคหะและสิ่งแวดล้อม และผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ว่าเพิกเฉยละเลยต่อสภาพแวดล้อมของมหานครแห่งนี้ ไซฟุดดิน ซูห์รี ผู้พิพากษาศาลแขวงกลางกรุงจาการ์ตา ระบุว่า ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้ "ละเมิดกฎหมาย" และสั่งให้เร่งดำเนินการออกกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและบังคับใช้ในทันที คณะผู้พิพากษายังเรียกร้องให้ วิโดโด และเจ้าหน้าที่ระดับสูงกำหนดบทลงโทษและมาตรการคว่ำบาตรต่อยานพาหนะที่ปล่อยควันพิษ รวมถึงและโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตั้งอยู่รอบๆ กรุงจาการ์ตา นอกจากนี้ยังต้องปรับปรุงระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศในเมืองหลวง และมีการเปิดเผยข้อมูลให้สาธารณชนทราบ ทั้งนี้ กลุ่มพลเมืองที่เป็นโจทก์ไม่ได้เรียกร้องเงินชดเชยจากภาครัฐ ขณะที่ วิโดโด และเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกกล่าวหาว่าละเลยก็ยังไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ใดๆ ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า แต่ละปีจะมีประชากรโลกที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากปัญหามลพิษในอากาศมากถึง 4.2 ล้านคน โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่มีรายได้น้อย-ปานกลางอย่างเช่น อินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ที่มา: เอเอฟพี https://mgronline.com/around/detail/9640000092333
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|