#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 6 ? 7 ต.ค. 64 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่วนในช่วงวันที่ 8-12 ต.ค. 64 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย จะมีกำลังแรง ตลอดช่วง ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยมีฝนตกหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อนึ่ง ในช่วงวันที่ 7 ? 8 ต.ค. 64 พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น และเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ คาดว่า ในช่วงวันที่ 9-11 ต.ค. 64 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยของภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดจากฝั่ง ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุดีเปรสชัน บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 07 ตุลาคม 2564 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (7 ต.ค. 2564) พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 16.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 111.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 10-11 ตุลาคม 2564 อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 7-11 ตุลาคม 2564 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายชล : 07-10-2021 เมื่อ 14:00 |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ไทยรัฐ
แคลิฟอร์เนียสั่งปิดหาด เร่งสกัดน้ำมันรั่วไหลครั้งใหญ่สุดในรอบหลายสิบปี ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียกำลังเร่งทำแนวกั้น เพื่อสกัดน้ำมันที่รั่วไหลเป็นวงกว้างในทะเลทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย หวั่นคุกคามชีวิตสัตว์ทะเลจำนวนมาก เจ้าหน้าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเร่งใช้วัสดุดูดซับน้ำมันแบบทุ่นลอยน้ำ ผูกทำแนวกั้นเพื่อหยุดยั้งน้ำมันที่รั่วไหลทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันเข้ามาปกคลุมชายหาดและสัตว์ป่า หลังจากที่เกิดการรั่วไหลของน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนียในรอบหลายสิบปี โดยยังคงไม่ทราบที่มาที่แน่ชัด แต่เบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากการรั่วของท่อส่งน้ำมันใต้น้ำ โดยนักประดาน้ำกำลังพยายามเร่งหาที่มาและสาเหตุของการรั่วไหล ทั้งนี้ หลังจากเหตุน้ำมันรั่ว ชายหาดฮันทิงตันที่มีชื่อเสียงจำเป็นต้องปิดบริการชั่วคราว รวมทั้งแนวชายหาดในบริเวณใกล้เคียงเป็นระยะทางยาว 24 กิโลเมตร ต้องปิดบริการรวมทั้งห้ามเข้าไปตกปลาในพื้นที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าทำความสะอาด และคาดว่าอาจจะต้องสั่งปิดเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ขณะที่ภาคพื้นดินมีการค้นหาสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน โดบพบทั้งนกทะเลและปลาถูกปกคลุมไปด้วยคราบน้ำมันจำนวนมาก คาดว่าจะสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ชุ่มน้ำตามแนวชายฝั่งไม่น้อย พร้อมฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่พบสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมันรั่ว อย่าเข้าช่วยเหลือด้วยตัวเอง แต่ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปดำเนินการจัดการทันที ทั้งนี้ น้ำมันดิบราว 572,807 ลิตร รั่วไหลออกมาตั้งแต่เช้ามืดวันเสาร์ ส่งผลให้บริษัทแอมพลิฟาย เอเนอร์จี เจ้าของแท่นเจาะน้ำมัน และท่อส่งน้ำมันใต้น้ำ หยุดปฏิบัติการในช่วงค่ำของวันเดียวกัน ขณะที่ นายมาร์ติน วิลเชอร์ ซีอีโอของบริษัท ระบุว่า ทางบริษัทพร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างที่จำเป็น เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ และทางบริษัทได้ทำประกันความเสียหายเอาไว้ เพื่อจัดการกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โดยยืนยันว่าขณะนี้พอจะทราบจุดที่เกิดการรั่วไหลแล้ว และจะส่งนักประดาน้ำไปตรวจสอบภายในช่วงบ่ายของวันจันทร์ตามเวลาในท้องถิ่น โดยการรั่วไหลของน้ำมันในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมในการตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันและท่อส่งน้ำมันใกล้กับชายฝั่งของเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนียขึ้นอีกครั้ง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศเป็นวงกว้าง. ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย https://www.thairath.co.th/news/foreign/2211214
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|