#1
|
||||
|
||||
สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564
ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา
สภาวะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะแผ่เข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย. 64) ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก อ่าวไทยและภาคใต้ มีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม. คาดหมาย ในช่วงวันที่ 8 - 13 พ.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ในช่วงวันที่ 7 - 8 พ.ย. 64 มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9 - 13พ.ย. 64 อากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-7 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 8 ? 13 พ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย ********************************************************************************************************************************************************* ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นลงบริเวณประเทศไทยตอนบน กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2564)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 07 พฤศจิกายน 2564 เช้าวันนี้ (7 พ.ย.64) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว โดยในช่วงวันที่ 7-13 พ.ย.64 จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก (7-8 พ.ย.64) หลังจากนั้น 9-13 พ.ย. 64 จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน อุณหภูมิจะลดลง 3-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#2
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์
เกิดขึ้นน้อยมาก!วาฬฟินยักษ์น้ำหนัก15ตันว่ายเกยตื้นชายฝั่งฝรั่งเศส พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ของฝรั่งเศส เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(7พ.ย.) กำลังเตรียมการดำเนินการผ่าตัดวาฬขนาดใหญ่ 19 เมตรตัวหนึ่ง ซึ่งตายหลังจากว่ายขึ้นมากเกยตื้นชายฝั่งเมืองกาแล เมืองท่าทางเหนือของประเทศ วาฬฟิน น้ำหนักราวๆ 15 ตัน ดูเหมือนว่ายขึ้นมาเกยตื้นชายฝั่งด้วยตนเองหลังจากได้รับบาดเจ็บ ปรากฏการณ์ทึ่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากในพื้นที่แถบนี้ "มันเป็นตัวเมีย อายุราวๆ 30 ปี มันเกยตื้นในวันเสาร์" แจ็คกี คาร์ปัวโซปัวลอส จากกลุ่มพิทักษ์สัตว์ CMNF บอกกับเอเอฟพี "มันป่วย แต่มาถึงเมืองกาแลในสภาพที่ยังไม่ตาย มันเข้ามาใกล้โขดหินมากเกินไปและเกยตื้น" คาร์ปัวโซปัวลอส บอกต่อว่าวาฬจะถูกลากไปยังพื้นๆหนึ่ง ซึ่งพวกเขาจะดำเนินการชันสูตรซากของมันในวันอังคาร(9พ.ย.) วาฬฟิน เป็นวาฬขนาดใหญ่ที่สุดลำดับ 2 ของโลกรองจากวาฬสีน้ำเงิน และมันถูกองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ขึ้นบัญชีในฐานะสายพันธุ์อ่อนแอ ทั้งนี้วาฬหลายสายพันธุ์มีถิ่นพักอาศัยในน่านน้ำต่างๆทั่วฝรั่งเศส และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี เพิ่งเกิดเหตุวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งถูกพบเกยตื้นชายหาดแห่งหนึ่งริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางใต้ของฝรั่งเศส (ที่มา:เอเอฟพี) https://mgronline.com/around/detail/9640000110495 ********************************************************************************************************************************************************* กรมเจ้าท่าเท 270 ล้านสร้างกำแพงป้องกันกัดเซาะตลิ่ง-น้ำท่วม แนวปากน้ำเทพา จ.สงขลา กรมเจ้าท่าเทงบ 270 ล้านบาทเร่งก่อสร้างกำแพงป้องกันกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา จ.สงขลา รวมระยะทาง 1.5 กม. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน จากนโยบายและคำสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กรมเจ้าท่าจัดทำโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะตลอดลำน้ำเทพาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ป้องกันการกัดเซาะพังทลายของตลิ่ง ลดความรุนแรงของสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 นายกรกฤธ ฉัตรวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา ร่วมลงพื้นที่ให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมคณะ ในการลงพื้นที่ตรวจติดตามงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส สงขลา และปัตตานี กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของปากน้ำเทพา โดยโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา มีระยะเวลาดำเนินการ แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 ดำเนินการระยะทาง 500 เมตร วงเงินงบประมาณ 90 ล้านบาท (งบกลาง) ระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2566-2568 ดำเนินการระยะทาง 1,000 เมตร วงเงินงบประมาณ 180 ล้านบาท (งบกลาง) รวมวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 270 ล้านบาท โดยกองวิศวกรรม กรมเจ้าท่า จะดำเนินการจ้างผู้รับเหมาในการดำเนินงานการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะ โดยใช้เสาเข็มคอนกรีตชีตไพล์ในการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่ทั้ง 2 ระยะ พร้อมกับขุดลอกร่องน้ำให้ได้ความลึกตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำ และส่งเสริมการเดินเรือและขนส่งทางน้ำได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในบริเวณปากน้ำเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่สำคัญของจังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากอุทกภัยมาโดยตลอด โดยเฉพาะความรุนแรงเมื่อปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา เกิดปัญหาอุทกภัยระดับรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำเทพา ได้แก่ บริเวณหมู่ที่ 7 ตำบลเทพา และหมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง เป็นผลสืบเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศถูกขนาบโดยพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำเทพาที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคใต้ มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสันกลาคีรี เป็นพรมแดนระหว่างจังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา และประเทศมาเลเซีย เริ่มจากบริเวณอำเภอสะบ้าย้อย ไหลผ่านอำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และไหลลงอ่าวไทยที่บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา รวมทั้งยังเป็นบริเวณปากน้ำที่มีลำน้ำสำคัญหลายสายมาบรรจบกัน เช่น คลองท่าโต๊ะยี คลองเปียน คลองลำเปา เป็นต้น มีความยาวของลำน้ำสายหลักประมาณ 130 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำเฉลี่ยปีละประมาณ 763 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาก็จะเป็นปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมซ้ำเดิมเป็นประจำทุกปี ภายหลังโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพาแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเทพา ลดปัญหาอุทกภัย ให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินเรือและการขนส่งทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป https://mgronline.com/business/detail/9640000110276
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#3
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก มติชน
'หาดหัวหิน' คึกคัก ชาวบ้านแห่จับสัตว์น้ำ หลังเจอปรากฎการณ์น้ำเบียด 'หาดหัวหิน' คึกคัก ชาวบ้านแห่จับสัตว์น้ำ หลังเจอปรากฎการณ์น้ำเบียด วันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศคึกคักหลังจากมีประชาชนจำนวนมากนำอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ เช่น อวน แห จับสัตว์ทะเลจำนวนมากที่ลอยขึ้นหายใจ เนื่องจากมีปัญหาน้ำเบียด ตั้งแต่บริเวณบริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาตลอดแนวถึงริมกำแพงวังไกลกังวล ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ระยะทางราว 2 กิโลเมตร โดยมีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพด้วยความสนใน ขณะที่ชาวบ้านสามารถจับปลาขนาดใหญ่ ทั้งปลาสร้อย ปลากระเบน ปลาฉลาม ปลาดุกทะเล กุ้งและปูม้าเพื่อนำกลับไปประกอบอาหาร ขณะที่บางรายนำไปจำหน่ายให้แม่ค้าหารายได้เสริม นายพยอม สะมาสิ อายุ 63 ปี กล่าวว่า หลังจากมีน้ำทะเลเบียดได้นำแหกับอวนไปจับปลา แต่น้ำขึ้นเร็วทำให้จับปลาได้ลำบากและได้ปลาไม่มาก แต่จับปลาสร้อยได้ 1 ตัวน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม นักท่องเที่ยวเห็นก็ขอเข้ามาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นมีชาวบ้านขอซื้อไปประกอบอาหารในราคา 250 บาท ด.ช.อรรถสาร ดิวแดช อายุ 12 ปี กล่าวว่า มากับครอบครัวที่ทำอาชีพประมงชวนกันมาวางอวนปูได้ปูประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนใหญ่จะเป็นปูม้าและปลาตัวเล็กติดอวน เพื่อนำไปประกอบอาหารที่บ้าน นอกจากนี้มีชาวประมงนำเรือไฟเบอร์ขนาดเล็ก ออกไปจับสัตว์น้ำน้ำหนัก 50-100 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านมารอ0ซื้อ เพราะราคาจำหน่ายต่ำกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะปูม้าราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาในตลาด 250 ? 400 บาท ทั้งนี้ชาวบ้านและชาวประมง ได้เฝ้าติดตามน้ำเบียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีปรากฏการณ์น้ำเบียดที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากมีฝนตกหนักจากพื้นที่ใกล้เคียงทำให้มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลลงสู่ทะเล จนปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำเปลี่ยนสี" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "น้ำเบียด-น้ำกัน" ส่งผลให้น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนที่น้อยลง สัตว์ทะเลจึงลอยขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ และหลังจากนี้หากไม่มีฝนตกต่อเนื่องสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสัตว์ทะเลที่นำไปบริโภคชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีผลกระทบเนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติเกิดขึ้นทุกปี https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3030939
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
#4
|
||||
|
||||
ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด
ถ้าพวกมันตาย พวกเราก็ตาย แอฟริกาแล้งขาดน้ำ สัตว์ล้มตายเกลื่อน แอฟริกาแล้งขาดน้ำ ? เอพี รายงานสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงที่ประเทศเคนยา ตอกย้ำผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ขยายไปทั่วภูมิภาคจะงอยแอฟริกา (Horn of Africa) ทำให้ทั้งน้ำและอาหารขาดแคลน ไม่เพียงคร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า แต่ยังเป็นภัยมาถึงชีวิตมนุษย์ "ถ้าพวกมันตาย เราก็จะตายทั้งหมด" ยูซุฟ อับดัลลาฮี ชาวบ้านที่ทำปศุสัตว์กล่าว หลังจากเสียแพะไปแล้ว 40 ตัว รัฐบาลเคนยาประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติแล้ว 10 จาก 47 เขต ส่วนสหประชาชาติประเมินสถานการณ์แล้วว่า มีประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนเผชิญสภาพความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างรุนแรง ผู้คนต้องเดินทางออกไปหาแหล่งน้ำในที่ไกลขึ้น รวมถึงเกิดความตึงเครียดระหว่างชุมชนเพิ่มมากขึ้น โมฮัมเหม็ด ชาร์มาร์เก ปรธานองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า ซูบูลี กล่าวว่า สัตว์ป่าเริ่มทยอยตายแล้ว "ความร้อนจากพื้นดินบอกคุณ ถึงสัญญาณความอดอยากที่เราจะต้องเจอ" นายชาร์มาร์เก กล่าว ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สภาพอากาศรุนแรงดังกล่าวที่เชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อนจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นทั่วแอฟริกา และผู้คนจะทรมานกับผลกระทบขั้นสุด เวิร์กเนห์ เกเบเยฮู ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการพัฒนาระหว่างประเทศ ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก กล่าวเปิดการประชุมสภาพอากาศที่กรุงไนโรบี เมื่อเดือนก่อน ว่า "เราไม่ได้มีโลกเผื่อไว้อีกใบเพื่อจะย้ายไปเป็นที่พักพิงได้ หลังจากที่เราทำลายโลกใบนี้แล้ว" ขณะที่ประธานาธิบดี อูฮูรู เคนยัตตา กล่าวเห็นด้วยว่า "แอฟริกาที่มีส่วนรับผิดชอบกับการเพิกเฉยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ร้อยละ 4 ของทั้งโลก) กำลังตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากสภาพความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ" https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6719494
__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า .... |
|
|