เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 08-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว คาดว่าจะแผ่เข้าปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย. 64) ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก อ่าวไทยและภาคใต้ มีมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 8 - 13 พ.ย. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ในช่วงวันที่ 7 - 8 พ.ย. 64 มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 9 - 13พ.ย. 64 อากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-7 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร


ข้อควรระวัง

ในช่วงวันที่ 8 ? 13 พ.ย. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย ส่วนประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคใต้ควรระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "อากาศหนาวเย็นลงบริเวณประเทศไทยตอนบน กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2564)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 07 พฤศจิกายน 2564

เช้าวันนี้ (7 พ.ย.64) บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว โดยในช่วงวันที่ 7-13 พ.ย.64 จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก (7-8 พ.ย.64) หลังจากนั้น 9-13 พ.ย. 64 จะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน อุณหภูมิจะลดลง 3-7 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร และทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออก ควรระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย






__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 08-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


เกิดขึ้นน้อยมาก!วาฬฟินยักษ์น้ำหนัก15ตันว่ายเกยตื้นชายฝั่งฝรั่งเศส



พวกผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ของฝรั่งเศส เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์(7พ.ย.) กำลังเตรียมการดำเนินการผ่าตัดวาฬขนาดใหญ่ 19 เมตรตัวหนึ่ง ซึ่งตายหลังจากว่ายขึ้นมากเกยตื้นชายฝั่งเมืองกาแล เมืองท่าทางเหนือของประเทศ

วาฬฟิน น้ำหนักราวๆ 15 ตัน ดูเหมือนว่ายขึ้นมาเกยตื้นชายฝั่งด้วยตนเองหลังจากได้รับบาดเจ็บ ปรากฏการณ์ทึ่เกิดขึ้นน้อยครั้งมากในพื้นที่แถบนี้

"มันเป็นตัวเมีย อายุราวๆ 30 ปี มันเกยตื้นในวันเสาร์" แจ็คกี คาร์ปัวโซปัวลอส จากกลุ่มพิทักษ์สัตว์ CMNF บอกกับเอเอฟพี "มันป่วย แต่มาถึงเมืองกาแลในสภาพที่ยังไม่ตาย มันเข้ามาใกล้โขดหินมากเกินไปและเกยตื้น"

คาร์ปัวโซปัวลอส บอกต่อว่าวาฬจะถูกลากไปยังพื้นๆหนึ่ง ซึ่งพวกเขาจะดำเนินการชันสูตรซากของมันในวันอังคาร(9พ.ย.)

วาฬฟิน เป็นวาฬขนาดใหญ่ที่สุดลำดับ 2 ของโลกรองจากวาฬสีน้ำเงิน และมันถูกองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ ขึ้นบัญชีในฐานะสายพันธุ์อ่อนแอ

ทั้งนี้วาฬหลายสายพันธุ์มีถิ่นพักอาศัยในน่านน้ำต่างๆทั่วฝรั่งเศส และก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี เพิ่งเกิดเหตุวาฬหลังค่อมตัวหนึ่งถูกพบเกยตื้นชายหาดแห่งหนึ่งริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางใต้ของฝรั่งเศส

(ที่มา:เอเอฟพี)


https://mgronline.com/around/detail/9640000110495


*********************************************************************************************************************************************************


กรมเจ้าท่าเท 270 ล้านสร้างกำแพงป้องกันกัดเซาะตลิ่ง-น้ำท่วม แนวปากน้ำเทพา จ.สงขลา



กรมเจ้าท่าเทงบ 270 ล้านบาทเร่งก่อสร้างกำแพงป้องกันกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา จ.สงขลา รวมระยะทาง 1.5 กม. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

จากนโยบายและคำสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้กรมเจ้าท่าจัดทำโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะตลอดลำน้ำเทพาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำ ป้องกันการกัดเซาะพังทลายของตลิ่ง ลดความรุนแรงของสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย นายเรวัต โพธิ์เรียง ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 นายกรกฤธ ฉัตรวงศ์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสงขลา ร่วมลงพื้นที่ให้การต้อนรับรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมคณะ ในการลงพื้นที่ตรวจติดตามงานด้านการพัฒนาและความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ นราธิวาส สงขลา และปัตตานี

กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม จัดทำแผนการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของปากน้ำเทพา โดยโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา มีระยะเวลาดำเนินการ แบ่งเป็น 2 ระยะ

ได้แก่ ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2565 ดำเนินการระยะทาง 500 เมตร วงเงินงบประมาณ 90 ล้านบาท (งบกลาง) ระยะที่ 2 ปีงบประมาณ 2566-2568 ดำเนินการระยะทาง 1,000 เมตร วงเงินงบประมาณ 180 ล้านบาท (งบกลาง) รวมวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 270 ล้านบาท

โดยกองวิศวกรรม กรมเจ้าท่า จะดำเนินการจ้างผู้รับเหมาในการดำเนินงานการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะ โดยใช้เสาเข็มคอนกรีตชีตไพล์ในการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะในพื้นที่ทั้ง 2 ระยะ พร้อมกับขุดลอกร่องน้ำให้ได้ความลึกตามความเหมาะสม เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำ และส่งเสริมการเดินเรือและขนส่งทางน้ำได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในบริเวณปากน้ำเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ถือเป็นพื้นที่สำคัญของจังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากอุทกภัยมาโดยตลอด

โดยเฉพาะความรุนแรงเมื่อปี พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา เกิดปัญหาอุทกภัยระดับรุนแรงโดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำเทพา ได้แก่ บริเวณหมู่ที่ 7 ตำบลเทพา และหมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง เป็นผลสืบเนื่องมาจากสภาพภูมิประเทศถูกขนาบโดยพื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำเทพาที่เป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคใต้ มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสันกลาคีรี เป็นพรมแดนระหว่างจังหวัดสงขลา จังหวัดยะลา และประเทศมาเลเซีย เริ่มจากบริเวณอำเภอสะบ้าย้อย ไหลผ่านอำเภอสะบ้าย้อย อำเภอเทพา และไหลลงอ่าวไทยที่บ้านคลองประดู่ หมู่ที่ 4 ตำบลปากบาง อำเภอเทพา

รวมทั้งยังเป็นบริเวณปากน้ำที่มีลำน้ำสำคัญหลายสายมาบรรจบกัน เช่น คลองท่าโต๊ะยี คลองเปียน คลองลำเปา เป็นต้น มีความยาวของลำน้ำสายหลักประมาณ 130 กิโลเมตร มีปริมาณน้ำเฉลี่ยปีละประมาณ 763 ล้านลูกบาศก์เมตร หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาก็จะเป็นปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมซ้ำเดิมเป็นประจำทุกปี

ภายหลังโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพาแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของแม่น้ำเทพา ลดปัญหาอุทกภัย ให้สอดรับกับนโยบายรัฐบาลยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินเรือและการขนส่งทางน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


https://mgronline.com/business/detail/9640000110276

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 08-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก มติชน


'หาดหัวหิน' คึกคัก ชาวบ้านแห่จับสัตว์น้ำ หลังเจอปรากฎการณ์น้ำเบียด



'หาดหัวหิน' คึกคัก ชาวบ้านแห่จับสัตว์น้ำ หลังเจอปรากฎการณ์น้ำเบียด
วันที่ 7 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชายหาดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ บรรยากาศคึกคักหลังจากมีประชาชนจำนวนมากนำอุปกรณ์จับสัตว์น้ำ เช่น อวน แห จับสัตว์ทะเลจำนวนมากที่ลอยขึ้นหายใจ เนื่องจากมีปัญหาน้ำเบียด ตั้งแต่บริเวณบริเวณท่าเทียบเรือสะพานปลาตลอดแนวถึงริมกำแพงวังไกลกังวล ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ระยะทางราว 2 กิโลเมตร โดยมีนักท่องเที่ยวถ่ายภาพด้วยความสนใน ขณะที่ชาวบ้านสามารถจับปลาขนาดใหญ่ ทั้งปลาสร้อย ปลากระเบน ปลาฉลาม ปลาดุกทะเล กุ้งและปูม้าเพื่อนำกลับไปประกอบอาหาร ขณะที่บางรายนำไปจำหน่ายให้แม่ค้าหารายได้เสริม

นายพยอม สะมาสิ อายุ 63 ปี กล่าวว่า หลังจากมีน้ำทะเลเบียดได้นำแหกับอวนไปจับปลา แต่น้ำขึ้นเร็วทำให้จับปลาได้ลำบากและได้ปลาไม่มาก แต่จับปลาสร้อยได้ 1 ตัวน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม นักท่องเที่ยวเห็นก็ขอเข้ามาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นมีชาวบ้านขอซื้อไปประกอบอาหารในราคา 250 บาท


ด.ช.อรรถสาร ดิวแดช อายุ 12 ปี กล่าวว่า มากับครอบครัวที่ทำอาชีพประมงชวนกันมาวางอวนปูได้ปูประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนใหญ่จะเป็นปูม้าและปลาตัวเล็กติดอวน เพื่อนำไปประกอบอาหารที่บ้าน

นอกจากนี้มีชาวประมงนำเรือไฟเบอร์ขนาดเล็ก ออกไปจับสัตว์น้ำน้ำหนัก 50-100 กิโลกรัม โดยมีชาวบ้านมารอ0ซื้อ เพราะราคาจำหน่ายต่ำกว่าท้องตลาด โดยเฉพาะปูม้าราคา 200 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาในตลาด 250 ? 400 บาท ทั้งนี้ชาวบ้านและชาวประมง ได้เฝ้าติดตามน้ำเบียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีปรากฏการณ์น้ำเบียดที่ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี



สำหรับปรากฏการณ์ดังกล่าว เกิดจากมีฝนตกหนักจากพื้นที่ใกล้เคียงทำให้มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากไหลลงสู่ทะเล จนปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำเปลี่ยนสี" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "น้ำเบียด-น้ำกัน" ส่งผลให้น้ำทะเลมีค่าออกซิเจนที่น้อยลง สัตว์ทะเลจึงลอยขึ้นเหนือน้ำเพื่อหายใจ และหลังจากนี้หากไม่มีฝนตกต่อเนื่องสถานการณ์ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ สำหรับสัตว์ทะเลที่นำไปบริโภคชาวบ้านยืนยันว่าไม่มีผลกระทบเนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติเกิดขึ้นทุกปี


https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3030939

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #4  
เก่า 08-11-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด


ถ้าพวกมันตาย พวกเราก็ตาย แอฟริกาแล้งขาดน้ำ สัตว์ล้มตายเกลื่อน



แอฟริกาแล้งขาดน้ำ ? เอพี รายงานสถานการณ์ภัยแล้งรุนแรงที่ประเทศเคนยา ตอกย้ำผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ขยายไปทั่วภูมิภาคจะงอยแอฟริกา (Horn of Africa) ทำให้ทั้งน้ำและอาหารขาดแคลน ไม่เพียงคร่าชีวิตสัตว์เลี้ยงและสัตว์ป่า แต่ยังเป็นภัยมาถึงชีวิตมนุษย์

"ถ้าพวกมันตาย เราก็จะตายทั้งหมด" ยูซุฟ อับดัลลาฮี ชาวบ้านที่ทำปศุสัตว์กล่าว หลังจากเสียแพะไปแล้ว 40 ตัว

รัฐบาลเคนยาประกาศภาวะภัยพิบัติแห่งชาติแล้ว 10 จาก 47 เขต ส่วนสหประชาชาติประเมินสถานการณ์แล้วว่า มีประชาชนมากกว่า 2 ล้านคนเผชิญสภาพความไม่มั่นคงทางอาหารอย่างรุนแรง ผู้คนต้องเดินทางออกไปหาแหล่งน้ำในที่ไกลขึ้น รวมถึงเกิดความตึงเครียดระหว่างชุมชนเพิ่มมากขึ้น

โมฮัมเหม็ด ชาร์มาร์เก ปรธานองค์กรอนุรักษ์สัตว์ป่า ซูบูลี กล่าวว่า สัตว์ป่าเริ่มทยอยตายแล้ว

"ความร้อนจากพื้นดินบอกคุณ ถึงสัญญาณความอดอยากที่เราจะต้องเจอ" นายชาร์มาร์เก กล่าว



ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สภาพอากาศรุนแรงดังกล่าวที่เชื่อมโยงกับภาวะโลกร้อนจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นทั่วแอฟริกา และผู้คนจะทรมานกับผลกระทบขั้นสุด

เวิร์กเนห์ เกเบเยฮู ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานการพัฒนาระหว่างประเทศ ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก กล่าวเปิดการประชุมสภาพอากาศที่กรุงไนโรบี เมื่อเดือนก่อน ว่า "เราไม่ได้มีโลกเผื่อไว้อีกใบเพื่อจะย้ายไปเป็นที่พักพิงได้ หลังจากที่เราทำลายโลกใบนี้แล้ว"

ขณะที่ประธานาธิบดี อูฮูรู เคนยัตตา กล่าวเห็นด้วยว่า "แอฟริกาที่มีส่วนรับผิดชอบกับการเพิกเฉยที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ร้อยละ 4 ของทั้งโลก) กำลังตกอยู่ภายใต้การคุกคามจากสภาพความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ"


https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6719494

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:38


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger