เลือกสีตามสไลต์ที่คุณชอบ:
SaveOurSea.NET  

กลับไป   SaveOurSea.NET > สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม

ตอบ
 
Share คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
  #1  
เก่า 14-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2564

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศเย็นกับมีลมแรง สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-13 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 15 - 17 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ใกล้เกาะบอร์เนียว มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

อากาศเย็น และมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-20 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 14 - 15 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1?2 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 16 - 17 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น กับมีหมอกบางในตอนเช้า แต่ยังคงทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 18 - 19 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่อีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1?3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1?2 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมบริเวณเกาะบอร์เนียว คาดว่าจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 15 - 19 ธ.ค. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงตลอดช่วง และในช่วงวันที่ 16 - 17 ธ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 15-19 ธ.ค. 64 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตอนล่างระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชาวเรือบริเวณภาคใต้ตอนล่างควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง



*********************************************************************************************************************************************************



ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ตอนล่าง"
ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2564


ในช่วงวันที่ 15 - 17 ธ.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง ใกล้เกาะบอร์เนียว มีแนวโน้มเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูลมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักไว้ด้วย อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร สำหรับทะเลอันดามันคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. 2564









__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #2  
เก่า 14-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์


ฝ่าคลื่นลม! ตำรวจบินฮ.-ขี่เจ็ตสกี ลุยระทึกช่วย 2 นักท่องเที่ยวติดแก่งหินเขากะโหลก

คลิปนาทีระทึก ตำรวจปากน้ำปราณ ประจวบคีรีขันธ์ บินเฮลิคอปเตอร์ - ขี่เจ็ตสกี ลุยคลื่นลมทะเล ช่วย 2 นักท่องเที่ยว สาวไทย - หนุ่มฮ่องกง เล่นกีฬาไคท์เซิร์ฟ ถูกคลื่นซัดติดแก่งหิน เขากะโหลก



เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวชายหญิง 2 คน เล่นกีฬาไคท์เซิร์ฟ ถูกกระแสลมแรงพัด ไปติดอยู่บริเวณ แก่งหิน ในพื้นที่เขากระโหลก ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี ห่างจากชายหาดเขากระโหลก ประมาณ 500 เมตร

จึงรายงาน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผบช.ภ.7 พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ และพ.ต.อ.ฤทธิรงค์ โชติกลาง ผกก.สภ.ปากน้ำปราณ อำนวยการช่วยเหลือพร้อมเร่งประสานขอเฮลิคอปเตอร์กองบินตำรวจ ตำรวจชุดกู้ชีพ ค่ายนเรศวร ตำรวจท่องเที่ยว และชุดอาสากู้ภัยร่วมปฏิบัติยังจุดเกิดเหตุ

โดยภารกิจดังกล่าวเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ก่อนขี่เจ็ตสกีฝ่าคลื่นลมเข้าไปช่วยเหลือ กระทั่งเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถทำการช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัย เป็นสาวไทย วัย 45 ปี และหนุ่มสัญชาติฮ่องกง วัย 45 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ


https://www.dailynews.co.th/news/568889/


*********************************************************************************************************************************************************


ส่งมอบปะการังเทียม 872 แท่งลงฟื้นท้องทะเล

กรมประมงจัดพิธีส่งมอบปะการังเทียม 872 แท่ง ลงฟื้นท้องทะเล 4 จังหวัด สนองโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริ



นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม ?ส่งมอบปะการังเทียมแก่ชาวประมง? ตามโครงการอนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทยในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ?เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่ออนุรักษ์และสร้างจิตสำนึกในการหวงแหนและรักษาสิ่งแวดล้อมตลอดจนสร้างสมดุลให้กับระบบนิเวศที่มีความสำคัญต่อการดำรงอยู่ของสัตว์น้ำใต้ท้องทะเลไทย พร้อมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ จำนวน 500,000 ตัว ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี?ว่า?สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์และสร้างจิตสำนึก การหวงแหนแนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย โดยทรงห่วงใยปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเล กรมประมงร่วมสนองพระดำริ โดยเข้าร่วมโครงการ "อนุรักษ์แนวปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา" ที่มีกองทัพเรือและหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการจัดทำโครงการ แผนงาน และกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถสนองพระดำริได้อย่างเป็นรูปธรรม

กรมประมง เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในด้านการฟื้นฟูและบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ จึงได้ร่วมสนองพระดำริโดยดำเนินกิจกรรมร่วมในโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง และในปีงบประมาณ 2564 ได้ดำเนินการรวม 6 โครงการ ได้แก่?
1. โครงการจัดสร้างปะการังเทียม 4 แห่ง?
2. โครงการติดตามผลการจัดสร้างปะการังเทียม?
3. โครงการวิจัยสังคมเศรษฐกิจของชุมชนที่ใช้ประโยชน์บริเวณปะการังเทียมของโครงการฯ
4. โครงการ "การแก้ไขปัญหาเครื่องมือประมงที่มีผลกระทบต่อพะยูน"
5. การรณรงค์ลดขยะทะเลจากภาคการประมง ด้วยกิจกรรม "ขยะคืนฝั่ง ทะเลสวยด้วยมือเรา"
6. เพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งทะเลโดยชุมชนมีส่วนร่วมสำหรับโครงการจัดสร้างปะการังเทียม มีเป้าหมายจัดสร้างปะการังเทียมจำนวน 872 แท่ง พร้อมนำไปจัดวางในพื้นที่ 4 แห่ง 4 จังหวัด โดยดำเนินการจัดวางปะการังเทียมแท่งคอนกรีตขนาด 1.5?1.5?1.5? เมตร จำนวนพื้นที่ละ 200 แท่ง และปะการังเทียมแท่งคอนกรีตขนาด 3x3x3 เมตร จำนวนพื้นที่ละ 18 แท่ง จัดวางในพื้นที่ ดังนี้?

1. บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี 2. บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3. บริเวณชายฝั่งทะเล อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 4. ชายฝั่งทะเล อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล

นอกจากนี้กรมประมงได้จัดส่งนักวิชาการประมงลงพื้นที่สำรวจและติดตามเปรียบเทียบผลก่อน-หลังการจัดสร้างปะการังเทียมอย่างต่อเนื่องพบว่า กองปะการังเทียมเกิดเป็นระบบนิเวศที่เหมาะสม สามารถเป็นแหล่งหลบภัยสัตว์น้ำวัยอ่อนได้เป็นอย่างดี?สัตว์น้ำมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แหล่งการทำประมงบริเวณชายฝั่ง สามารถยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมงให้ดียิ่งขึ้น



การสร้างปะการังเทียม เป็นหนึ่งในแนวทางที่กรมประมงได้ดำเนินการเพื่อเพิ่มพื้นที่อยู่อาศัยและสร้างแหล่งหลบภัยให้กับสัตว์น้ำ ตลอดจนช่วยให้ชาวประมงมีแหล่งทำประมงใกล้ฝั่ง ลดความเสี่ยงอันตรายและค่าใช้จ่ายในการออกไปทำประมงให้กับพี่น้องชาวประมง โดยกรมประมงได้จัดงานส่งมอบปะการังเทียมแก่ชาวประมงขึ้น

เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงมีพระดำริที่จะอนุรักษ์แนวปะการัง กัลปังหา และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลไทย ภายในงานจะมีกิจกรรมการส่งมอบปะการังเทียมให้แก่ชาวประมง การจัดแสดงนิทรรศการปะการังเทียมเพื่อให้ชาวประมงมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปะการังเทียมเพื่อบริหารจัดการประมงที่ยั่งยืน พร้อมปล่อยพันธุ์ลูกกุ้งกุลาดำ จำนวน 500,000 ตัว ตลอดจนร่วมกันเก็บขยะบริเวณชายหาดศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสร้างจิตสำนึกปรับวิธีคิดและเปลี่ยนพฤติกรรมของชาวประมงและประชาชนในพื้นที่โดยรอบในเรื่องการจัดการขยะทะเล

"โครงการจัดสร้างปะการังเทียม" นับเป็นหนึ่งในโครงการของกรมประมงที่สนองพระดำริฯ ของพระองค์ท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการร่วมกันพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรสัตว์น้ำ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำให้กับท้องทะเลไทย สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ความมั่งคั่งทางด้านเศรษฐกิจ และความยั่งยืนให้กับการทำการประมงทะเลของประเทศไทยสืบไป"


https://www.dailynews.co.th/news/567573/

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
  #3  
เก่า 14-12-2021
สายน้ำ's Avatar
สายน้ำ สายน้ำ is offline
Senior Member
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 12,879
Default

ขอบคุณข่าวจาก ThaiPBS


ชงเลื่อนเปิด "อ่าวมาหยา" ท่าเรืออ่าวโล๊ะซามะเสร็จไม่ทัน 1 ม.ค.65



กรมอุทยานฯ ชี้แจงข้อมูล "วราวุธ" ปม กมธ.ที่ดิน สภาฯ จะชงขอเลื่อนเปิดท่องเที่ยวอ่าวมาหยา 1 ม.ค.65 อ้างปมท่าเรือรับส่งอ่าวโล๊ะซามะ เสร็จไม่ทัน ระบุรอรัฐมนตรีเคาะเลื่อน-ไม่เลื่อนเปิด แต่ยังจำกัดนักท่องเที่ยว 300 คนต่อรอบ

กรณีคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาเอกชนว่าการก่อสร้างท่าเรือโล๊ะซามะ เพื่อใช้รับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปยังอ่าวมาหยาว่าแล้วเสร็จไม่ทัน และจะขอให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เลื่อนเปิดอ่าวมาหยาออกไปก่อนจากเดิมดีเดย์ 1 ม.ค.65

วันนี้ (13 ธ.ค.2564) นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ขณะนี้กรมอุทยานฯ ได้ทำหนังสือชี้แจงรายละเอียดให้กับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ตอนนี้ต้องรอคำสั่งจาก นายวราวุธ ว่าจะยังเดินหน้าเปิด หรือเลื่อนเปิดหรือไม่อย่างไร ทั้งหมดทางกรมอุทยานฯ พร้อมปฎิบัติตามนโยบาย

"ยืนยันว่าการก่อสร้างท่าเรืออ่าวโล๊ะซามะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เอกชนที่ทำท่าเรือ เป็นรายเดิมไม่ใช่รายใหม่ตามข่าว แต่มีการปรับปรุงแบบให้แข็งแรงขึ้น แต่กรมไม่ได้เสียประโยชน์อะไร รวมทั้งมีการขออนุญาตกรมเจ้าท่าก่อนทำโครงการ ข่าวที่ออกมาว่ามีปัญหาจึงคลาดเคลื่อน"

ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอ รมว.ทส.ว่าจะมีข้อสรุปลงมาอย่างไร หากให้เลื่อนก็พร้อมทำตาม เพราะที่ผ่านมาอ่าวมาหยา มีการปรับปรุงจนทรัพยากรธรรมชาติกลับมาสมบูรณ์ดีขึ้น แต่หากเปิดท่องเที่ยวก็จะกระตุ้นเศรษฐกิจและรายได้กับภาคธุรกิจดีขึ้น เพราะขณะนี้หลังเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาท่องเที่ยวทางทะเลคึกคักมากขึ้น


ผู้ประกอบการหนุนเดินหน้าเปิดท่องเที่ยว 1 ม.ค.65

น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.กระบี่ กล่าวว่า หากจะเลื่อนเปิดอ่าวมาหยาเชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ อาจจะไม่เห็นด้วย เพราะอ่าวมาหยาเป็นที่ท่องเที่ยวสำคัญของ จ.กระบี่มีนักท่องเที่ยวสอบถามกันมาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม พบว่าการก่อสร้างท่าเทียบเรืออ่าว ยังมีปัญหาติดขัดในเรื่องการก่อสร้าง จนทำให้ยังสร้างไม่เสร็จ หากเร่งรีบก่อสร้าง เพื่อให้ทันกำหนดเปิดกังวลว่าอาจไม่ปลอดภัยเมื่อมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก

นายอภิวัฒน์ เหลืองอ่อนอายุ 37 ปี ผู้ประกอบการนำเที่ยว กล่าวว่า ติดตามข่าวเปิดอ่าวมาหยา ในวันที่ 1ม.ค.65 ถือเป็นความหวังของผู้ประกอบการนำเที่ยว เพราะอ่าวมาหยา เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเที่ยวกระบี่กันมากขึ้น จากที่ปิดไปนานกว่า 3 ปีอ่าวมาหยาฟื้นตัวขึ้นมาสวยงามมาก

"มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่รอคอยให้อ่าวมาหยาเปิดอีกครั้ง และควรจะเปิดได้นานแล้ว"

นอกจากนี้นายอภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ข่าวที่ออกมาว่าอาจจะเกิดปัญหาจากการก่อสร้างท่าเทียบเรือ ทำให้กมธ.ที่ดินฯ อาจเสนอให้เลื่อนเปิดออกไปจะกระทบการท่องเที่ยว ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะยังมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องท่าเรืออีกมาก การประกาศว่าจะเปิดแล้วอยู่ ๆจะเลื่อนเปิดจะยิ่งทำให้นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการไม่เชื่อมั่นในหน่วยงานของรัฐ

"หลังจากนี้จะเกิดปัญหาผู้ประกอบการเองก็จะวางแผนทำการตลาดได้ยากเพราะไม่มั่นใจว่าจะเปิดจริงหรือไม่"


จำกัดนักท่องเที่ยวรอบละ 300 คน

ก่อนหน้านี้นายวราวุธ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมเมื่อ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา และระบุว่าพร้อมเปิดการท่องเที่ยวอ่าวมาหยาในวันที่ 1 ม.ค.นี้ เนื่องจากหลังปิด 3 ปีพบว่าปะการัง และทรัพยากรกลับมาสมบูรณ์ โดยเฉพาะฝูงฉลามหูดำนับร้อยตัวที่แหวกว่ายบริเวณอ่าวมาหยา รวมทั้งมีการปรับปรุงจุดรับส่งนักท่องเที่ยวให้ขึ้นทางอ่าวโล๊ะซามะ เพื่อลดการรบกวนปะการังและทรัพยากร

แต่กรมอุทยานฯ เสนอแผนเปิดท่องเที่ยวตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. จะจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว รอบละ 300 คน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดของนักท่องเที่ยว และความสวยงามอย่างยั่งยืนของธรรมชาติต่อไป


https://news.thaipbs.or.th/content/310617

__________________
การเมืองไม่ยุ่ง มุ่งแต่รักษ์ทะเลไทยจ้า ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
ตอบ


กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:11


vBulletin รุ่น 3.8.10
สงวนลิขสิทธิ์ ©2000-2024, บริษัท Jelsoft Enterprises จำกัด
Ad Management plugin by RedTyger