สรุปข่าวทะเลและสิ่งแวดล้อม : วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม 2564

[สายน้ำ]

ขอบคุณข้อมูลพยากรณ์จาก กรมอุตุนิยมวิทยา


สภาวะอากาศทั่วไป

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในภาคเหนือ กับมีอากาศเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน สำหรับยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-15 องศาเซลเซียส และยอดภูมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ในขณะที่มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย

อนึ่ง ในวันที่ 27-30 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองในช่วงวันที่ 25-26 ธ.ค. 64 หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2?5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงในระยะต่อไป


กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.


คาดหมาย

ในช่วงวันที่ 25 - 26 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1?2 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนจะเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคกลางตอนบน และมีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหรือฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร สำหรับภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค

ส่วนในวันที่ 27 - 30 ธ.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยจะเริ่มปกคลุมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีอุณหภูมิลดลง 2?5 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ และภาคกลางในวันถัดไป ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิลดลง 1?4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร สำหรับภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ทางตอนล่างของภาค


ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ตลอดช่วง ขอให้ประชาชนและผู้ทำกิจกรรมกลางแจ้งระมัดระวังฝนและฝนฟ้าคะนองที่จะเกิดขึ้นบางแห่ง และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกในช่วงวันที่ 25 ? 26 ธ.ค. 64 รวมถึงระมัดระวังลมแรง ในช่วงวันที่ 27 ? 30 ธ.ค. 64

[สายน้ำ]

ขอบคุณข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์


อนาถ! พบซากเต่าตะนุขนาดใหญ่ลอยเกยหาดคลองม่วง จ.กระบี่

กระบี่ - อนาถ! พบซากเต่าตะนุขนาดใหญ่ สภาพเริ่มเน่า ส่งกลิ่นเหม็น ลอยเกยหาดคลองม่วง จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ส่งซากเต่าผ่าพิสูจน์สาเหตุการตาย



วันนี้ (24 ธ.ค. ) ที่หาดคลองม่วง หมู่ที่ 2 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ นายสุมิตร รักโอ่ กำนันตำบลหนองทะเล นายภิญโญ คำขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เข้าตรวจสอบซากเต่าถูกคลื่นซัดเข้าฝั่งเกยชายหาดคลองม่วง ม.2 ต.หนองทะเล

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เป็นซากเต่าตะนุขนาดใหญ่ สภาพเริ่มเน่า ส่งกลิ่นเหม็น ขนาดความยาวประมาณ 70 ซม. กว้าง 50 ซม. คาดเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 อาทิตย์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้นำซากไปไว้ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อส่งไปยังฝ่ายวิจัยเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายของเต่าตะนุตัวนี้ต่อไป

จากการสอบถามนายภิญโญ คำขาว ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ พบเต่าขนาดใหญ่นอนตายส่งกลิ่นเหม็น จึงแจ้งประสานงานให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและหาสาเหตุการตาย เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าอุทยานฯ ได้เก็บซากเต่า ส่งไปให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป


https://mgronline.com/south/detail/9640000127286


*********************************************************************************************************************************************************


ทัพเรือประมงจะนะยืนยันทำ SEA นิคมอุตสาหกรรม ประชาชนต้องมีส่วนร่วม



ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทัพเรือประมงจะนะจัดงานเพื่อยืนยันการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำ SEA เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าฯ อ.จะนะ จ.สงขลา ยืนยัน SEA ต้องปลอดจากอำนาจรัฐ-ทุน ต้องเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เคารพสิทธิชุมชน กระจายรายได้

วันนี้ (24 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ที่ชายหาดบ้านบ่อโชน ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา กลุ่ม "ทัพเรือประมงจะนะ" ได้จัดงานเพื่อออกมายืนยันการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ของการพัฒนา หรือ SEA แบบมีส่วนร่วมของประชาชน ในโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ ซึ่งจะมีทั้งการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกสงขลาแห่งที่ 2 โรงไฟฟ้า และนิคมอุตสาหกรรม โดยในงานมีการอ่านแถลงการณ์ พูดคุยกันในกลุ่มใหญ่ ก่อนจะแบ่งกลุ่มย่อยล้อมวงเพื่อบอกเล่าความรู้สึกเกี่ยวกับการชุมนุมที่ผ่านมา และระดมความเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการเห็นในการขับเคลื่อน SEA ว่าคืออะไร

สำหรับแถลงการณ์ทัพเรือประมงพื้นบ้านนั้น เป็นแถลงการณ์เรื่อง ?ยืนยัน SEA ต้องแบบมีส่วนร่วม? ระบุว่า ความสำเร็จที่ได้มาจากการร่วมแรงกายแรงใจของทุกภาคส่วนทำให้รัฐบาลตกลง SET ZERO นิคมอุตสาหกรรมจะนะ เริ่มต้นใหม่ด้วยการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ของการพัฒนา หรือ SEA คืนอำนาจกำหนดทิศทางการพัฒนาให้พี่น้องจะนะ ถือได้ว่าเป็นชัยชนะร่วมกันของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ แต่เป็นชัยชนะระหว่างทาง เรายังมีภารกิจร่วมกันต่อไป

ทัพเรือประมงพื้นบ้านจะนะ และพี่น้องชาวประมงละแวกใกล้เคียงจึงฝ่าคลื่นลมในฤดูมรสุมออกมาแสดงตัวอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่า 1.SEA ต้องหลุดพ้นจากอำนาจรัฐและทุน เพื่อให้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจด้วยข้อมูลที่รอบด้าน และต้องตั้งอยู่บนหลักการ มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในทุกระดับ และ 2.SEA ต้องเป็นการแสวงหารูปแบบการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทรัพยากรและระบบนิเวศของ อ.จะนะ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยรูปแบบการพัฒนาจะต้องก่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรม ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เคารพสิทธิชุมชน และเกิดการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมแก่ประชาชนชาวจะนะและพื้นที่ใกล้เคียง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

"ทัพเรือประมงพื้นบ้านตระหนักดีว่า การปกป้องจะนะ คือการปกป้องสิทธิชุมชน ปกป้องทรัพยากรของมวลมนุษยชาติ และปกป้องการพัฒนาที่ยั่งยืน อันเป็นหลักการสากล พวกเราจึงขอประกาศว่า ไม่ว่าพวกเราจะตายไปอีกกี่รุ่น ลูกหลานของพวกเราจะร่วมสืบสานการสถาปนาอำนาจประชาชนในการกำหนดทิศทางการพัฒนาต่อไปตราบนานเท่านาน"


https://mgronline.com/south/detail/9640000127312